มีหลายบริษัทเงินขาดมือ แถมยังบ่มีปัญญาหาเงินมาคืน

ไม่มีในพระไตรปิฎก​

คำว่า.. สงบ ระงับ  ดับ คือ ทำให้ไม่มี ให้หายไปนิพพานเข้าไปแทนที่อย่างนั้นๆ เช่น ถ้าสังขารไม่เที่ยง    นิพพานต้องเที่ยง สังขารเป็นทุกข์   นิพพานต้องเป็นสุข สังขารเป็นความเสื่อ

Thiti Thiti : นิพพานจะอยู่ที่ใจได้อย่างไร มันรับรู้ได้ด้วยใจ แต่ไม่ได้หมายถึง ว่ามันอยู่ในใจ ก็ถูกแล้วนี่ ถูกที่ทำเท่าไหร่ นิพพานก็ไม่ปรากฏในใจซักที *******************

ท่านพระสารีบุตรกล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า “ผู้มีอายุทั้งหลาย นิพพานนี้เป็นสุข นิพพานนี้เป็นสุข”              เมื่อท

อะไรทำให้คุณเชื่อว่าศาสนาที่คุณนับถืออยู่เป็นความจริง อาทิเช่น 1 พุทธ - นิพพานมีจริง การเวียนว่ายตายเกิดมีจริง กฎแห่งกรรมมีจริง สวรรค์-นรกมีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง เรื่องในพระเจ้าสิบชาติ เช่น พระเวสสั

เพราะเรามองขันธ์ 5 (ร่างกายเรา ความรู้สึกเรา ความจำเรา ความคิดเรา ใจเรา) ในปัจจุบันนี่แหละเป็นอัตตา ถึงจมอยู่ในกองทุกข์ล้วนๆ  ใครนินทาก็ทุกข์ ใคร

พุทธพจน์ ตรัสว่า... สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา พุทธธรรม ตรัสว่า... สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา พุทธเทียม บอกว่า...

สาวกคนที่ 1 กล่าวว่า     นิพพานต้องเป็นอนัตตาแหงๆ  เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ........................ สาวกคนที่ 2 ก็กล่าวทำนองทักท้วงไม่เห็นด้วยว่า