.
.
ใบหน้า Jane เด็กสาวชาวอังกฤษ
หัวกระโหลกที่ทำภาพสามมิติ/
จำลองใบหน้าขึ้นมาใหม่
ที่มา
http://bit.ly/37OEdT3
.
.
หลักฐานการกินคนของชาวอังกฤษ
ในอาณานิคมแรกเริ่มของสหรัฐอเมริกา
คือ กระดูกมนุษย์ที่ค้นพบล่าสุด
ใน ป้อม James (JamesFort)
ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1607(2150)
เป็นป้อมแรกสุดและเก่าแก่ที่สุด
ของอาณานิคมอังกฤษในเมือง Jamestown
กระดูกดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
ชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งรกรากครั้งแรก
ในบริเวณนี้ของสหรัฐอเมริกา
เป็รรัฐอาณานิคมอังกฤษ
ในทวีปอเมริกาเหนือ
ต้องกินเนื้อคนในหมู่บ้านตนเอง
ในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย
ของปี 1609-1610 (2152-2153)
(หรือตรงกับสมัยพระเอกาทศรถ
พระเจ้าน้องยาเธอ พระนเรศมหาราช)
เพราะเรือหลักที่จะนำเสบียงอาหาร
จากอังกฤษมาอับปางหายไปกลางทะเล
.
.
Dr.Doug Owsley นักนิติเวชมานุษยวิทยา
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ
Smithsonian Museum กรุงวอชิงตันดีซี
ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
หลังจากค้นพบว่ามีบาดแผลที่ผิดปกติ
สอดคล้องกับการแล่เนื้อกับกระดูกมนุษย์
ที่หัวกะโหลกของเด็กสาววัยรุ่น 400 ปีที่แล้ว
ถูกค้นพบในหลุมทิ้งขยะในป้อม James
รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปีที่แล้ว
.
.
Dr. Doug Owsley ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" หลักฐานสอดคล้องกันอย่างยิ่ง
กับการสูญเสียอวัยวะบางส่วน
และการแล่เนื้อหนังจากร่างกายดังกล่าว
มีเอกสารหลายฉบับที่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราว
ชาวอาณานิคมที่ต่างสิ้นหวัง
ต่างเริ่มกินเนื้อคนกันเอง
การค้นพบกระดูกของเด็กหญิงวัย 14 ปี
ทำให้เป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ครั้งแรกสุดที่ยืนยันว่า เด็กหญิงที่ตาย
กลายเป็นอาหารสำหรับชาวชุมชน
ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
ในช่วงฤดูหนาวที่แสนยาวนาน
และโหดร้ายทารุณในปี 1609-1610
หรือเป็นที่รู้จักในช่วงประวัติศาสตร์ว่า
ช่วงระยะเวลาที่หิวโหยที่สุดในปีนั้น
มีร่องรอยสับ ตัด แล่ รอยสับ
ด้วยขวานขนาดเล็กหรือมีดที่ขนาดเล็ก
ตรงที่หน้าผากจากคาง
ไปทางด้านหลังของกะโหลกศีรษะ
และยังมีรอยเฉาะทางด้านซ้ายของหัว
เพื่อทำการแงะกระดูกออกมาด้านข้าง
เพื่อควักสมองออกมากินแก้หิว
ร่องรอยดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า
ลิ้น เนื้อเยื่อใยหน้า ถูกแล่ออกไปแล้ว
โดยมีเจตนาที่ชัดเจน คือ
การแล่เอาเนื้อใบหน้าและมันสมอง
เพื่อนำมากินกันตายในสภาวะหิวจัด
คนเหล่านี้ตกอยู่ในสภาวะการณ์ที่เลวร้ายมาก
ดังนั้นจะเป็นเนื้อใด ๆ ก็ได้จะถูกนำมากินกัน
เนื้อประเภทเดียวกันนี้ ถ้านำมาจากสัตว์
จะได้รับการยอมรับว่า เป็นอาหารอันโอชะ
ในศตวรรษที่ 17
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
หัวหมูป่า
จะเป็นอาหารยอดนิยมมากในช่วงเวลานั้น
.
.
แต่สำหรับกระดูกของเด็กผู้หญิงคนนี้
ยังบ่งบอกถึงการแล่เนื้อที่ทำอย่างลังเลใจ
ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำครั้งนี้
บ่งบอกการแล่เนื้อของมืออาภัพไม่ใช่มืออาชีพ
น่าจะเป็นไปได้ว่าเลียนแบบ
คนแล่เนื้อ
คนที่ทำนี้น่าจะเป็นผู้หญิง ที่ต้องลงมือทำ
ตามมติเสียงข้างมากของคนที่อยู่ภายในป้อม
เด็กหญิงสาวรายนี้ที่เสียชีวิต
เพราะอะไรยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
แต่ประจักษ์พยานตอนนี้ที่แน่ชัดก็คือ
ร่องรอยร่างกายที่ถูกทำร้าย
ได้เกิดขึ้นอย่างมากมายหลายแผล
หลังจากนั้นไม่นานนัก
ก็มีคนพยายามที่จะเฉาะเอาสมองออกมา
เรื่องแบบนี้จะต้องทำอย่างรวดเร็ว
เพราะเนื้อสมองไม่เหมือนเนื้อประเภทอื่น
สมองมีสภาพหยุ่น ๆ ไม่เหนียว เละง่าย "
Dr. Doug Owsley ได้ทำงานอย่างใกล้ชิด
กับนักโบราณคดี Dr.William Kelso
หัวหน้าโครงการสำรวจ/ทบทวน
การตั้งเมือง Jamestown
เป็นโครงการขุดค้นทางประวัติศาสตร์
ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2005
โดย Dr.William Kelso ได้ค้นพบกระดูก
ของเด็กผู้หญิงเมื่อปีที่แล้ว
ระหว่างการขุดค้นที่ป้อม James
พร้อมกับกล่าวว่า
"
พวกเราไม่เชื่อว่า Jane จะเป็นเหยื่อ
เพียงคนเดียวที่ถูกกินเนื้อในปีนั้น "
.
.
" ตอนนี้พวกเราทราบเรื่องราวเล็กน้อยมาก
เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงรายนี้ นอกจากอายุของเธอ
และความจริงที่ว่าเธอเป็นคนอังกฤษ
ต้นกำเนิดของเธอได้รับการยืนยัน
จากการศึกษาเปรียบเทียบกับกระดูก
(DNA) ทึ่มีตัวอย่างใน Cambridge
การวิเคราะห์ต่อไปอีก พวกเราได้พบว่า
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งในวัยเด็กของเธอ
เธอได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
และได้กินเนื้อสัตว์จำนวนมาก
สอดคล้องกับควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
สำหรับชนชั้นที่มีฐานะดีกว่าคนทั่วไป
ตอนนี้เรายังสามารถรู้สึกได้ถึงหน้าตาของเธอ
ต้องขอบคุณเทคนิควิทยาการดิจิตอล
ในการฟื้นฟูใบหน้าและนิติวิทยาศาสตร์
กะโหลกศีรษะที่แตกแยกได้รับการ CT สแกน
และทำเพิ่มเติมขึ้นมาด้วยข้อมูลดิจิตอล
ให้สร้างรูปแบบหุ่นจำลองในแบบสามมิติ "
ตอนนี้ทีมงานขุดค้นทางประวัติศาสตร์
ได้ตั้งชื่อของเธอว่า Jane
.
.
ระยะเวลาหิวโหยเป็นช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
ที่น่ากลัวมากที่สุดของอาณานิคมแห่งนี้
ผู้เข้ามาตั้งรกรากในป้อม James
ต่างตกอยู่ในวงล้อม และถูกซุ่มโจมตี
จากชาวอินเดียนแดวพื้นเมืองเผ่า Powhatan
ทั้งยังมีอาหารไม่เพียงพอที่จะยังชีพ
ให้ผ่านพ้นในช่วงฤดูหนาวที่แสนยาวนาน
เพราะเรือหลักที่จะนำเสบียงอาหาร
จากอังกฤษมาส่งอับปางหายไปกลางทะเล
ในช่วงแรก ๆ
พวกเขากินม้า แล้วก็ สุนัข แมว หนู และ งู
กับบางสิ่งบางอย่างที่กินได้
เพื่อแก้ความหิวที่โหดร้าย
แล้วต่อมาก็ต้องกินหนังรองเท้า
(ตัดแล้วนำมาต้มให้นุ่มพอกินกันตายได้
ทหารฝรั่งเศส/รัสเซียก็เคยกินช่วงอดอยาก)
จากสัปดาห์เลื่อนไปเป็นเดือน
ไม่มีอาหารอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
เพื่อรักษาชีวิตแต่ละคนให้รอดได้
จำนวนผู้ตายที่ตกเป็นอาหาร
ไม่มีผู้ใดทราบจำนวนที่แน่ชัด
แต่แน่นอนว่าเด็กผู้หญิงรายนี้
ไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียวเท่านั้น
ความช่วยเหลือให้คนในป้องแห่งนี้
รอดชีวิตมาภายหลังจากนั้น
Lord De La Warr แล่นเรือมา
พร้อมกับอาหารและคนที่อพยพมาชุดใหม่
หลังจาก 6 เดือนของการถูกล้อมโจมตี
และความอดอยากหิวโหยอย่างแรง
เหลือผู้รอดชีวิต 60 คนจากเดิม 300 คน
" พวกเขาอยู่ในสภาพผอมแห้งแรงน้อย
ในตอนที่ได้รับการช่วยเหลือ
(จากเรือที่มาอีกหกเดือนให้หลัง)
มีสภาพคล้ายกับโครงกระดูกที่เดินได้
ชาวอังกฤษจำต้องกินเนื้อคนกันเอง
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้น "
James Horn นักประวัติศาสตร์
ของมูลนิธิ Colonial Williamsburg
ได้บรรยายสรุปโดยมี
บันทึกของ George Percy
ผู้ว่าราชการรัฐอาณานิคม
ได้เขียนบันทึกไว้ในรายงานฉบับหนึ่ง
" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ/น่าสลดหดหู่
แต่เป็นการยืนยันเรื่องราวของคนต้องกินเนื้อคน
ในที่ตั้งถิ่นฐานของพวกตนเองในช่วงเวลานั้น
เรื่องราวเหล่านี้เป็นความจริงที่โหดร้าย
ในช่วงต้นของปีที่เลวร้ายนั้น "
Charles Mann นักเขียนนวนิยาย 1493 :
Uncovering the New World Columbus Created
" เป็นใครก็ต้องทำ ในสิ่งที่พวกเขาต้องทำ "
Dr.Doug Owsley กล่าวถึงการกินเนื้อคน
.
.
Jamestown อาณานิคมแรกสุดของอเมริกา
อาณานิคมอังกฤษที่ตั้งขึ้น
อย่างเป็นทางการครั้งแรก
ก่อตั้งขึ้นในปี 1607 (2150)
13 ปีก่อนที่ผู้อพยพกลุ่ม Pilgrims
จะตั้งรกรากที่ Plymouth Rock
เมืองนี้ตั้งชื่อตาม พระเจ้าเจมส์
ที่ให้การสนับสนุนสำหรับการเก็งกำไร
ด้วยการลงทุนแสวงหาดินแดนใหม่
ที่คาดว่าจะมีทองคำกับวัตถุดิบต่าง ๆ
เหมือนกับสเปนที่บุกรุกยึดครองละตินอเมริกา
แล้วกอบโกยทรัพยากรกลับไปประเทศตน
บริษัทร่วมทุนโดยพระเจ้าแผ่นดินคือ
บริษัท เวอร์จิเนียแห่งลอนดอน
Virginia Company of London
กัปตันเรือ John Smith รับตำแหน่งเป็น
ผู้ว่าการอาณานิคมแห่งนี้ในปี 1608(2151)
ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ไมตรีกับ
ชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมือง Powhatan
หลังจากที่ กัปตันเรือ John Smith
นำเรือกลับไปยังประเทศอังกฤษ
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1609(2152)
ช่วงระยะเวลาหิวโหยก็เริ่มต้นขึ้นมา
หมายเหตุ
จำได้เลา ๆ จากหนังสือเล่มหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว
ปัญหากระทบกระทั่งกับชาวอินเดียนแดง
เริ่มตั้งแต่การบุกรุกที่ดินดั้งเดิม
ที่เป็นพื้นที่สาธารณะใช้สอยของคนพิ้นเมือง
การปักปันปิดล้อมเขตที่ดิน
แสดงความเป็นเจ้าของชาวอาณานิคม
การปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงให้หากินเพ่นพ่าน
เมื่อชาวอินเดียนแดงฆ่าไปกินก็ไม่พออกพอใจ
มีการทะเลาะเบาะแว้งกับชาวอินเดียนแดง
เพราะความจำกัดทางด้านภาษาและวัฒนธรรม
เลยเกิดการบาดหมางจนถูกปิดล้อม
และลอบโจมตีพวกคนผิวขาวอยู่เสมอ
รวมทั้งความไม่ชำนาญในเส้นทางกับพื้นที่
ทำให้การออกไปหาอาหารการกิน
ลำบากมากในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย
ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม
ที่คนต้องหันหน้ามากินเนื้อคนกันเอง
ชาวอังกฤษ (รวมทั้งชาวยุโรปส่วนมาก)
โหยหาที่ดินทำมาหากินมาก
เพราะที่ดินส่วนมากเป็นของ
พวกบาทหลวง ขุนนาง กษัตริย์
ส่วนที่เหลือเป็นที่สาธารณะประโยชน์
ที่ดินที่เป็นของเอกชนน้อยมาก
คนจำนวนมากต้องเช่าที่ดินทำกิน
หรือเป็นไพร่ติดที่ดิน
ทำให้คนส่วนใหญ่เมื่อทราบข่าวว่า
ดินแดนใหม่ที่มีที่ดินไม่อั้น
ต่างต้องการแสวงหาดินแดนแห่งใหม่
ที่มีที่ดินเหลือเฟือ ไม่มีเจ้าที่ดินศักดินาแบบยุโรป
ยกเว้นแต่ประเทศฝรั่งเศส
ที่หลังการปฏิวัติ 14 กรกฏาคม 1789
ที่มีการฆ่าตัดคอ/ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
พวกขุนนาง บาทหลวง กษัตริย์ ชนชั้นต่าง ๆ
แล้วทำการยึดที่ดินมาแบ่งปันกัน
ทำให้มีการกระจายที่ดินทำมาหากิน
อย่างกว้างขวางในเวลาต่อมาจนทุกวันนี้
.
.
.
Starving settlers turned cannibal
.
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bbc.in/3c34aS6
https://bbc.in/2PaShzu
http://bit.ly/37E6KdK
http://bit.ly/37OEdT3
.
.
.
.
.
.
ที่ตั้ง Jamestown แหล่งขุดค้นโบราณคดี
.
.
.
แหล่งขุดค้นโบราณคดี
(คลาดเคลื่อนเล็กน้อยเพราะการตัดต่อภาพ)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คนอังกฤษผู้อพยพรุ่นแรกไปอเมริกากินเนื้อคนเพื่อกันตาย
.
ใบหน้า Jane เด็กสาวชาวอังกฤษ
หัวกระโหลกที่ทำภาพสามมิติ/
จำลองใบหน้าขึ้นมาใหม่
ที่มา http://bit.ly/37OEdT3
.
หลักฐานการกินคนของชาวอังกฤษ
ในอาณานิคมแรกเริ่มของสหรัฐอเมริกา
คือ กระดูกมนุษย์ที่ค้นพบล่าสุด
ใน ป้อม James (JamesFort)
ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1607(2150)
เป็นป้อมแรกสุดและเก่าแก่ที่สุด
ของอาณานิคมอังกฤษในเมือง Jamestown
กระดูกดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่า
ชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งรกรากครั้งแรก
ในบริเวณนี้ของสหรัฐอเมริกา
เป็รรัฐอาณานิคมอังกฤษ
ในทวีปอเมริกาเหนือ
ต้องกินเนื้อคนในหมู่บ้านตนเอง
ในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย
ของปี 1609-1610 (2152-2153)
(หรือตรงกับสมัยพระเอกาทศรถ
พระเจ้าน้องยาเธอ พระนเรศมหาราช)
เพราะเรือหลักที่จะนำเสบียงอาหาร
จากอังกฤษมาอับปางหายไปกลางทะเล
.
.
ที่มา Dr.Doug Owsley
.
Dr.Doug Owsley นักนิติเวชมานุษยวิทยา
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติ
Smithsonian Museum กรุงวอชิงตันดีซี
ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
หลังจากค้นพบว่ามีบาดแผลที่ผิดปกติ
สอดคล้องกับการแล่เนื้อกับกระดูกมนุษย์
ที่หัวกะโหลกของเด็กสาววัยรุ่น 400 ปีที่แล้ว
ถูกค้นพบในหลุมทิ้งขยะในป้อม James
รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปีที่แล้ว
.
.
ที่มา http://bit.ly/37OEdT
.
Dr. Doug Owsley ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
" หลักฐานสอดคล้องกันอย่างยิ่ง
กับการสูญเสียอวัยวะบางส่วน
และการแล่เนื้อหนังจากร่างกายดังกล่าว
มีเอกสารหลายฉบับที่ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราว
ชาวอาณานิคมที่ต่างสิ้นหวัง
ต่างเริ่มกินเนื้อคนกันเอง
การค้นพบกระดูกของเด็กหญิงวัย 14 ปี
ทำให้เป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ครั้งแรกสุดที่ยืนยันว่า เด็กหญิงที่ตาย
กลายเป็นอาหารสำหรับชาวชุมชน
ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
ในช่วงฤดูหนาวที่แสนยาวนาน
และโหดร้ายทารุณในปี 1609-1610
หรือเป็นที่รู้จักในช่วงประวัติศาสตร์ว่า
ช่วงระยะเวลาที่หิวโหยที่สุดในปีนั้น
มีร่องรอยสับ ตัด แล่ รอยสับ
ด้วยขวานขนาดเล็กหรือมีดที่ขนาดเล็ก
ตรงที่หน้าผากจากคาง
ไปทางด้านหลังของกะโหลกศีรษะ
และยังมีรอยเฉาะทางด้านซ้ายของหัว
เพื่อทำการแงะกระดูกออกมาด้านข้าง
เพื่อควักสมองออกมากินแก้หิว
ร่องรอยดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า
ลิ้น เนื้อเยื่อใยหน้า ถูกแล่ออกไปแล้ว
โดยมีเจตนาที่ชัดเจน คือ
การแล่เอาเนื้อใบหน้าและมันสมอง
เพื่อนำมากินกันตายในสภาวะหิวจัด
คนเหล่านี้ตกอยู่ในสภาวะการณ์ที่เลวร้ายมาก
ดังนั้นจะเป็นเนื้อใด ๆ ก็ได้จะถูกนำมากินกัน
เนื้อประเภทเดียวกันนี้ ถ้านำมาจากสัตว์
จะได้รับการยอมรับว่า เป็นอาหารอันโอชะ
ในศตวรรษที่ 17
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวหมูป่า
จะเป็นอาหารยอดนิยมมากในช่วงเวลานั้น
.
.
การขุดค้นทางโบราณคดีที่ Jamestown
.
แต่สำหรับกระดูกของเด็กผู้หญิงคนนี้
ยังบ่งบอกถึงการแล่เนื้อที่ทำอย่างลังเลใจ
ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำครั้งนี้
บ่งบอกการแล่เนื้อของมืออาภัพไม่ใช่มืออาชีพ
น่าจะเป็นไปได้ว่าเลียนแบบ คนแล่เนื้อ
คนที่ทำนี้น่าจะเป็นผู้หญิง ที่ต้องลงมือทำ
ตามมติเสียงข้างมากของคนที่อยู่ภายในป้อม
เด็กหญิงสาวรายนี้ที่เสียชีวิต
เพราะอะไรยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
แต่ประจักษ์พยานตอนนี้ที่แน่ชัดก็คือ
ร่องรอยร่างกายที่ถูกทำร้าย
ได้เกิดขึ้นอย่างมากมายหลายแผล
หลังจากนั้นไม่นานนัก
ก็มีคนพยายามที่จะเฉาะเอาสมองออกมา
เรื่องแบบนี้จะต้องทำอย่างรวดเร็ว
เพราะเนื้อสมองไม่เหมือนเนื้อประเภทอื่น
สมองมีสภาพหยุ่น ๆ ไม่เหนียว เละง่าย "
Dr. Doug Owsley ได้ทำงานอย่างใกล้ชิด
กับนักโบราณคดี Dr.William Kelso
หัวหน้าโครงการสำรวจ/ทบทวน
การตั้งเมือง Jamestown
เป็นโครงการขุดค้นทางประวัติศาสตร์
ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2005
โดย Dr.William Kelso ได้ค้นพบกระดูก
ของเด็กผู้หญิงเมื่อปีที่แล้ว
ระหว่างการขุดค้นที่ป้อม James
พร้อมกับกล่าวว่า
" พวกเราไม่เชื่อว่า Jane จะเป็นเหยื่อ
เพียงคนเดียวที่ถูกกินเนื้อในปีนั้น "
.
.
Dr.William Kelso
.
" ตอนนี้พวกเราทราบเรื่องราวเล็กน้อยมาก
เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงรายนี้ นอกจากอายุของเธอ
และความจริงที่ว่าเธอเป็นคนอังกฤษ
ต้นกำเนิดของเธอได้รับการยืนยัน
จากการศึกษาเปรียบเทียบกับกระดูก
(DNA) ทึ่มีตัวอย่างใน Cambridge
การวิเคราะห์ต่อไปอีก พวกเราได้พบว่า
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งในวัยเด็กของเธอ
เธอได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
และได้กินเนื้อสัตว์จำนวนมาก
สอดคล้องกับควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
สำหรับชนชั้นที่มีฐานะดีกว่าคนทั่วไป
ตอนนี้เรายังสามารถรู้สึกได้ถึงหน้าตาของเธอ
ต้องขอบคุณเทคนิควิทยาการดิจิตอล
ในการฟื้นฟูใบหน้าและนิติวิทยาศาสตร์
กะโหลกศีรษะที่แตกแยกได้รับการ CT สแกน
และทำเพิ่มเติมขึ้นมาด้วยข้อมูลดิจิตอล
ให้สร้างรูปแบบหุ่นจำลองในแบบสามมิติ "
ตอนนี้ทีมงานขุดค้นทางประวัติศาสตร์
ได้ตั้งชื่อของเธอว่า Jane
.
.
ที่มา http://bit.ly/37J9JSf
.
ระยะเวลาหิวโหยเป็นช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
ที่น่ากลัวมากที่สุดของอาณานิคมแห่งนี้
ผู้เข้ามาตั้งรกรากในป้อม James
ต่างตกอยู่ในวงล้อม และถูกซุ่มโจมตี
จากชาวอินเดียนแดวพื้นเมืองเผ่า Powhatan
ทั้งยังมีอาหารไม่เพียงพอที่จะยังชีพ
ให้ผ่านพ้นในช่วงฤดูหนาวที่แสนยาวนาน
เพราะเรือหลักที่จะนำเสบียงอาหาร
จากอังกฤษมาส่งอับปางหายไปกลางทะเล
ในช่วงแรก ๆ
พวกเขากินม้า แล้วก็ สุนัข แมว หนู และ งู
กับบางสิ่งบางอย่างที่กินได้
เพื่อแก้ความหิวที่โหดร้าย
แล้วต่อมาก็ต้องกินหนังรองเท้า
(ตัดแล้วนำมาต้มให้นุ่มพอกินกันตายได้
ทหารฝรั่งเศส/รัสเซียก็เคยกินช่วงอดอยาก)
จากสัปดาห์เลื่อนไปเป็นเดือน
ไม่มีอาหารอะไรหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
เพื่อรักษาชีวิตแต่ละคนให้รอดได้
จำนวนผู้ตายที่ตกเป็นอาหาร
ไม่มีผู้ใดทราบจำนวนที่แน่ชัด
แต่แน่นอนว่าเด็กผู้หญิงรายนี้
ไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียวเท่านั้น
ความช่วยเหลือให้คนในป้องแห่งนี้
รอดชีวิตมาภายหลังจากนั้น
Lord De La Warr แล่นเรือมา
พร้อมกับอาหารและคนที่อพยพมาชุดใหม่
หลังจาก 6 เดือนของการถูกล้อมโจมตี
และความอดอยากหิวโหยอย่างแรง
เหลือผู้รอดชีวิต 60 คนจากเดิม 300 คน
" พวกเขาอยู่ในสภาพผอมแห้งแรงน้อย
ในตอนที่ได้รับการช่วยเหลือ
(จากเรือที่มาอีกหกเดือนให้หลัง)
มีสภาพคล้ายกับโครงกระดูกที่เดินได้
ชาวอังกฤษจำต้องกินเนื้อคนกันเอง
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้น "
James Horn นักประวัติศาสตร์
ของมูลนิธิ Colonial Williamsburg
ได้บรรยายสรุปโดยมี
บันทึกของ George Percy
ผู้ว่าราชการรัฐอาณานิคม
ได้เขียนบันทึกไว้ในรายงานฉบับหนึ่ง
" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ/น่าสลดหดหู่
แต่เป็นการยืนยันเรื่องราวของคนต้องกินเนื้อคน
ในที่ตั้งถิ่นฐานของพวกตนเองในช่วงเวลานั้น
เรื่องราวเหล่านี้เป็นความจริงที่โหดร้าย
ในช่วงต้นของปีที่เลวร้ายนั้น "
Charles Mann นักเขียนนวนิยาย 1493 :
Uncovering the New World Columbus Created
" เป็นใครก็ต้องทำ ในสิ่งที่พวกเขาต้องทำ "
Dr.Doug Owsley กล่าวถึงการกินเนื้อคน
.
.
สภาพป้อม James ในปัจจุบัน
.
.
ป้อม James ปี 1610 หลังจากผ่านพ้นช่วงหิวโหยที่สุด
..
Jamestown อาณานิคมแรกสุดของอเมริกา
อาณานิคมอังกฤษที่ตั้งขึ้น
อย่างเป็นทางการครั้งแรก
ก่อตั้งขึ้นในปี 1607 (2150)
13 ปีก่อนที่ผู้อพยพกลุ่ม Pilgrims
จะตั้งรกรากที่ Plymouth Rock
เมืองนี้ตั้งชื่อตาม พระเจ้าเจมส์
ที่ให้การสนับสนุนสำหรับการเก็งกำไร
ด้วยการลงทุนแสวงหาดินแดนใหม่
ที่คาดว่าจะมีทองคำกับวัตถุดิบต่าง ๆ
เหมือนกับสเปนที่บุกรุกยึดครองละตินอเมริกา
แล้วกอบโกยทรัพยากรกลับไปประเทศตน
บริษัทร่วมทุนโดยพระเจ้าแผ่นดินคือ
บริษัท เวอร์จิเนียแห่งลอนดอน
Virginia Company of London
กัปตันเรือ John Smith รับตำแหน่งเป็น
ผู้ว่าการอาณานิคมแห่งนี้ในปี 1608(2151)
ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ไมตรีกับ
ชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมือง Powhatan
หลังจากที่ กัปตันเรือ John Smith
นำเรือกลับไปยังประเทศอังกฤษ
ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1609(2152)
ช่วงระยะเวลาหิวโหยก็เริ่มต้นขึ้นมา
หมายเหตุ
จำได้เลา ๆ จากหนังสือเล่มหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว
ปัญหากระทบกระทั่งกับชาวอินเดียนแดง
เริ่มตั้งแต่การบุกรุกที่ดินดั้งเดิม
ที่เป็นพื้นที่สาธารณะใช้สอยของคนพิ้นเมือง
การปักปันปิดล้อมเขตที่ดิน
แสดงความเป็นเจ้าของชาวอาณานิคม
การปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงให้หากินเพ่นพ่าน
เมื่อชาวอินเดียนแดงฆ่าไปกินก็ไม่พออกพอใจ
มีการทะเลาะเบาะแว้งกับชาวอินเดียนแดง
เพราะความจำกัดทางด้านภาษาและวัฒนธรรม
เลยเกิดการบาดหมางจนถูกปิดล้อม
และลอบโจมตีพวกคนผิวขาวอยู่เสมอ
รวมทั้งความไม่ชำนาญในเส้นทางกับพื้นที่
ทำให้การออกไปหาอาหารการกิน
ลำบากมากในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย
ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม
ที่คนต้องหันหน้ามากินเนื้อคนกันเอง
ชาวอังกฤษ (รวมทั้งชาวยุโรปส่วนมาก)
โหยหาที่ดินทำมาหากินมาก
เพราะที่ดินส่วนมากเป็นของ
พวกบาทหลวง ขุนนาง กษัตริย์
ส่วนที่เหลือเป็นที่สาธารณะประโยชน์
ที่ดินที่เป็นของเอกชนน้อยมาก
คนจำนวนมากต้องเช่าที่ดินทำกิน
หรือเป็นไพร่ติดที่ดิน
ทำให้คนส่วนใหญ่เมื่อทราบข่าวว่า
ดินแดนใหม่ที่มีที่ดินไม่อั้น
ต่างต้องการแสวงหาดินแดนแห่งใหม่
ที่มีที่ดินเหลือเฟือ ไม่มีเจ้าที่ดินศักดินาแบบยุโรป
ยกเว้นแต่ประเทศฝรั่งเศส
ที่หลังการปฏิวัติ 14 กรกฏาคม 1789
ที่มีการฆ่าตัดคอ/ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
พวกขุนนาง บาทหลวง กษัตริย์ ชนชั้นต่าง ๆ
แล้วทำการยึดที่ดินมาแบ่งปันกัน
ทำให้มีการกระจายที่ดินทำมาหากิน
อย่างกว้างขวางในเวลาต่อมาจนทุกวันนี้
.
.
Starving settlers turned cannibal
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bbc.in/3c34aS6
https://bbc.in/2PaShzu
http://bit.ly/37E6KdK
http://bit.ly/37OEdT3
.
.
.
.
.
ที่ตั้ง Jamestown แหล่งขุดค้นโบราณคดี
.
.
.
แหล่งขุดค้นโบราณคดี
(คลาดเคลื่อนเล็กน้อยเพราะการตัดต่อภาพ)
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.