คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมคิดว่า ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ จขกท นะ สถานการณ์อาจจะไม่เหมือนกันหรอก
ถ้าปล่อยวางได้จะสบายใจขึ้นครับ ยังไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย แค่นี้จิ๊บๆ
ผมก็ทำงานผิดบ่อยๆ ต้องมาแก้ไขอยู่เรื่อย สมาธิไม่มี เรียนรู้อะไรยากขึ้น
หากผมทำงานผิด เพื่อนร่วมงานชอบเอาไปนินทาทั้งลับหลังและต่อหน้า
บ่อยมากที่มาแกล้งพูดถากถางให้เสียใจเล่นๆ แล้วก็มาบอกว่าล้อเล่น ทำนองตบหน้าฉาดแล้วมาลูบหลังปลอบ
ผมเข้าใจเอาเองว่า ผมเริ่มจะแก่ ถึงจะอายุไม่มาก แต่ว่าแก่ไวไปหน่อยเท่านั้นเอง
คงเป็นผลมาจากในอดีต ที่ใช้ชีวิตหนักหน่วงเกินไป ทั้งงาน และเที่ยว 5555
ในตอนแรก ผมไม่ยอมรับปัญหานี้ ทำให้เครียดมาก อึดอัด หดหู่ หมดกำลังใจไปเลย
เพราะ เมื่อก่อนผมไม่เป็นแบบนี้ และตัวเองก็คาดหวังความสมบูรณ์แบบเสมอ ยิ่งกดดันเข้าไปอีก
ภายหลังเลย วางเฉยซะ ไม่ยินดียินร้าย หันมาตั้งใจทำงานให้เต็มที่ พิจารณาอย่างรอบคอบ
ดึงคนเก่งๆมาช่วยวิจารณ์ ปรึกษากับหัวหน้า แล้วลงมือทำ
ผลออกมาดีแค่ใหนก็เอาแค่นั้น มีโอกาสครั้งต่อไปก็ปรับปรุงให้ดีขึ้น
รักษากำลังใจตัวเองโดยการมองว่า เราพยายามเต็มที่แล้ว มันได้แค่นี้ก็ยอมรับ เขาชมก็ไม่เหลิง เขาด่าก็ไม่เศร้าซึม
เปิดใจยอมรับคำวิพากษ์ ตำหนิ อันใหนมีประโยชน์ก็รับไว้ปรับปรุง อันใหนไร้สาระ แค่ถูกด่าเอาสะใจ ก็โยนทิ้งไว้ที่ทำงาน
ส่วนเรื่องเปลี่ยนงาน อันนี้ถ้าพร้อมก็ไปเลย ไม่ต้องแคร์ บริษัทเค้าหาคนมาแทนเราได้เสมอ ระบบงานเค้าออกแบบไว้แล้ว
ถ้ามีโอกาสดีๆ ผ่านมา ก็คว้าไว้เลย ก้าวหน้าต่อไป
ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตดูครับ ช่วยให้เราไม่ลอยคว้าง และน่าจะช่วยให้รู้สึกว่า การทำงาน มันเป็นแค่เส้นทางไปสู่จุดหมาย ไม่ใช่สิ่งที่กลืนกินชีวิตเราไป
ถ้าปล่อยวางได้จะสบายใจขึ้นครับ ยังไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย แค่นี้จิ๊บๆ
ผมก็ทำงานผิดบ่อยๆ ต้องมาแก้ไขอยู่เรื่อย สมาธิไม่มี เรียนรู้อะไรยากขึ้น
หากผมทำงานผิด เพื่อนร่วมงานชอบเอาไปนินทาทั้งลับหลังและต่อหน้า
บ่อยมากที่มาแกล้งพูดถากถางให้เสียใจเล่นๆ แล้วก็มาบอกว่าล้อเล่น ทำนองตบหน้าฉาดแล้วมาลูบหลังปลอบ
ผมเข้าใจเอาเองว่า ผมเริ่มจะแก่ ถึงจะอายุไม่มาก แต่ว่าแก่ไวไปหน่อยเท่านั้นเอง
คงเป็นผลมาจากในอดีต ที่ใช้ชีวิตหนักหน่วงเกินไป ทั้งงาน และเที่ยว 5555
ในตอนแรก ผมไม่ยอมรับปัญหานี้ ทำให้เครียดมาก อึดอัด หดหู่ หมดกำลังใจไปเลย
เพราะ เมื่อก่อนผมไม่เป็นแบบนี้ และตัวเองก็คาดหวังความสมบูรณ์แบบเสมอ ยิ่งกดดันเข้าไปอีก
ภายหลังเลย วางเฉยซะ ไม่ยินดียินร้าย หันมาตั้งใจทำงานให้เต็มที่ พิจารณาอย่างรอบคอบ
ดึงคนเก่งๆมาช่วยวิจารณ์ ปรึกษากับหัวหน้า แล้วลงมือทำ
ผลออกมาดีแค่ใหนก็เอาแค่นั้น มีโอกาสครั้งต่อไปก็ปรับปรุงให้ดีขึ้น
รักษากำลังใจตัวเองโดยการมองว่า เราพยายามเต็มที่แล้ว มันได้แค่นี้ก็ยอมรับ เขาชมก็ไม่เหลิง เขาด่าก็ไม่เศร้าซึม
เปิดใจยอมรับคำวิพากษ์ ตำหนิ อันใหนมีประโยชน์ก็รับไว้ปรับปรุง อันใหนไร้สาระ แค่ถูกด่าเอาสะใจ ก็โยนทิ้งไว้ที่ทำงาน
ส่วนเรื่องเปลี่ยนงาน อันนี้ถ้าพร้อมก็ไปเลย ไม่ต้องแคร์ บริษัทเค้าหาคนมาแทนเราได้เสมอ ระบบงานเค้าออกแบบไว้แล้ว
ถ้ามีโอกาสดีๆ ผ่านมา ก็คว้าไว้เลย ก้าวหน้าต่อไป
ลองตั้งเป้าหมายในชีวิตดูครับ ช่วยให้เราไม่ลอยคว้าง และน่าจะช่วยให้รู้สึกว่า การทำงาน มันเป็นแค่เส้นทางไปสู่จุดหมาย ไม่ใช่สิ่งที่กลืนกินชีวิตเราไป
แสดงความคิดเห็น
จิตใจไม่สงบเลยตอนนี้ ทำยังไงดีคะ
ไม่รู้จะแก้ยังไง บรรยากาศโดยรอบก็ไม่เอื้ออำนวย หาคนจริงใจก็อยาก ไว้ใจใครไม่ได้เลยค่ะ จะปรึกษาใครก็ไม่ได้
เวลาเราทำผิดเราก็รับนะ(แต่มีแอบเนียนบางครั้ง) เจ้านายพยายามให้เราดีขึ้นด้วยการด่า ว่า โวยวาย ไอ้ที่ทำผิดเราก็รู้สึกผิดนะเพราะมันก็บ่อย แต่ไอ้บางเรื่องอยู่ดีๆก็โวยวายไร้เหตุผล เจ้านายอีกคนที่บอกว่าเข้าใจเราก็ไม่ได้เข้าใจเราจริงๆตีความเราไปอีกแบบ ถึงเค้าจะใช้เหตุผลก็เถอะ เรื่องความสะดวกการใช้ชีวิตอื่นๆเค้าก็ดีนะ แต่มันสบายกายแต่ไม่สุขใจเลย
ไม่อยากลาออกตอนนี้เพราะเหตุจำเป็นบางอย่าง
เลยอยากได้คำปรึกษาค่ะ
1.ทำยังไงดีให้เรามีสมาธิมากกว่านี้ คนอื่นๆบอกว่าเพราะเรานอนดึก ก็ยอมรับว่าจริงในตอนแรก แต่ตอนนี้สาเหตุมันมาจากที่เรากลุ้มเรื่องเค้านั่นแหละ ยิ่งเอาแต่จับผิดกัน ยิ่งไปกันใหญ่
2.ทำยงไงให้เข้มแข็งกว่านี้ เจอกับพวกเจ้านายเราเหมือนโดนข่มตลอดเวลา เพราะเราไม่สู้คนอยู่แล้วด้วย อ้าปากจะพูดก็หาว่าเถียงข้างๆคูๆ ทั้งที่เราก็มีเหตุผลจริงๆนะแต่เค้าไม่เชื่อ ไม่พยายามฟังเลย+วันหนึ่งเราก็ต้องลาออก ไม่ทำท่าดีใจแบบไปซะได้ก็ดีก็ต้องโดนเขม่นแน่ๆ
ตอนนี้ไม่ค่อยมีเรื่องให้เบาใจเลย