เพราะจริงๆแล้วพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงนั้น มีเป้าประสงค์ที่ต้องการจะจัดการกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้มานานแล้ว
เพียงแต่ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะดำเนินการได้ ก็ต้องใช้วิธีการต่างๆ นานาด้วยการข่มขู่ คุกคามหรือใช้คนเสื้อแดงกดดันด้วยข้อกล่าวหา 2 มาตรฐานบ้าง เข้าข้างพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม เป็นพวกอำมาตย์ที่ต้องการเล่นงาน “ทักษิณ” และพรรคพวก
นอกจากนั้น ยังมีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยุบเลิกองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ไปขึ้นตรงกับสถาบันศาลโดยตรงไม่ยอมให้เป็นอิสระอย่างที่เป็นอยู่ หรือมิฉะนั้นก็ต้องการเปลี่ยนรูปแบบที่มาของคณะตุลาการเสียใหม่
แต่ดูเหมือนว่าในความพยายามต่างๆ ที่ดำเนินการมานั้นยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ มิหนำซํ้ายังได้รับการตอบโต้จากศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนหยัดการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแบบว่าไม่หวาดหวั่นหรือให้ราคาแต่อย่างใด
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องการที่จะแก้ตรงคือให้เฉพาะอัยการสูงสุดเท่านั้นมีสิทธิ์ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น โดยตัดสิทธิประชาชนทิ้งไป
“สิทธินี่คือน้ำหนักสำคัญของระบอบประชาธิปไตย”
ทุกวันนี้หรือที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างก็อ้างความเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงนั้นต่างก็เรียกร้องกันวันละ 3 เวลา อ้างทุกเรื่องทุกประเด็น ทั้งๆที่บางเรื่องบางราวนั้นมิได้เกี่ยวแม้แต่น้อย
แม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราครั้งนี้ ความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ ม.68 แม้แต่น้อย เพราะเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนอันเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแต่มันมีนัยสำคัญเพื่อผลทางการเมืองอย่างอื่น
นั่นคือการลิดรอนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เป็นการแก้เผ็ดกลายๆ จึงเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับตีความเรื่องนี้เลยกลายเป็นชนวนที่ ส.ส.-ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อและคนเสื้อแดงนำมาเป็นประเด็นที่กล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญก้าวก่ายสภา ก้าวก่ายสถาบันนิติบัญญัติ หรือทำงานเกินหน้าที่
ตัดตอนจาดไทยรัฐ
ต้องล้มตุลาการให้ได้ เพราะตุลาการไม่กินขนม
เมื่อตุลาการไม่ยอมกินขนม จำต้องล้มศาล รธน
เพียงแต่ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะดำเนินการได้ ก็ต้องใช้วิธีการต่างๆ นานาด้วยการข่มขู่ คุกคามหรือใช้คนเสื้อแดงกดดันด้วยข้อกล่าวหา 2 มาตรฐานบ้าง เข้าข้างพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้าม เป็นพวกอำมาตย์ที่ต้องการเล่นงาน “ทักษิณ” และพรรคพวก
นอกจากนั้น ยังมีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยุบเลิกองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ไปขึ้นตรงกับสถาบันศาลโดยตรงไม่ยอมให้เป็นอิสระอย่างที่เป็นอยู่ หรือมิฉะนั้นก็ต้องการเปลี่ยนรูปแบบที่มาของคณะตุลาการเสียใหม่
แต่ดูเหมือนว่าในความพยายามต่างๆ ที่ดำเนินการมานั้นยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ มิหนำซํ้ายังได้รับการตอบโต้จากศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนหยัดการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแบบว่าไม่หวาดหวั่นหรือให้ราคาแต่อย่างใด
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องการที่จะแก้ตรงคือให้เฉพาะอัยการสูงสุดเท่านั้นมีสิทธิ์ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเท่านั้น โดยตัดสิทธิประชาชนทิ้งไป
“สิทธินี่คือน้ำหนักสำคัญของระบอบประชาธิปไตย”
ทุกวันนี้หรือที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างก็อ้างความเป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงนั้นต่างก็เรียกร้องกันวันละ 3 เวลา อ้างทุกเรื่องทุกประเด็น ทั้งๆที่บางเรื่องบางราวนั้นมิได้เกี่ยวแม้แต่น้อย
แม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราครั้งนี้ ความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ ม.68 แม้แต่น้อย เพราะเกี่ยวกับสิทธิของประชาชนอันเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแต่มันมีนัยสำคัญเพื่อผลทางการเมืองอย่างอื่น
นั่นคือการลิดรอนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เป็นการแก้เผ็ดกลายๆ จึงเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับตีความเรื่องนี้เลยกลายเป็นชนวนที่ ส.ส.-ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อและคนเสื้อแดงนำมาเป็นประเด็นที่กล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญก้าวก่ายสภา ก้าวก่ายสถาบันนิติบัญญัติ หรือทำงานเกินหน้าที่
ตัดตอนจาดไทยรัฐ
ต้องล้มตุลาการให้ได้ เพราะตุลาการไม่กินขนม