ขอออกตัวก่อนนะคะว่า ยืมล็อกอินสามีมาใช้ค่ะ ปกติสามีเล่นอยู่ห้องบลู ก้นครัว และห้องอื่นนิดหน่อยค่ะ
แรงบันดาลใจแห่งกระทู้นี้ คือต้องการแชร์ประสบการณ์อันน่า(ไม่)ประทับใจมิรู้ลืม กับการกระทำดังต่อไปนี้ ของผจก. สาขา (ธุรกิจบริการนวด สปาและดูแลรูปร่างแห่งหนึ่ง)
เรื่องมีอยู่ว่าได้ดีล นวดสปา แห่งหนึ่ง มาจากที่ทำงานเป็นของขวัญ ร้านที่ว่านี้มี2สาขานะคะ คือ พารากอน และ เอสพลานาด แคราย บ้านเราอยู่ใกล้แครายเลยเลือกนัดทำที่สาขานี้ค่ะ
ตอนจองไม่มีปัญหาอะไรค่ะ น้องพนง. น่ารัก พูดจาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับแขก (ทั้งคนที่คุยโทรศัพท์และที่เจอกัน...เอ๊ะ..หรือคนเดียวกัน...เอาเป็นว่าบริการดี พูดจารู้เรื่อง) จริงๆ ในดีลหมดอายุ3เม.ย. 56 แต่ตอนโทรไปจอง พนง. บอกว่าดีลนี้เลื่อนใช้ถึง30เม.ย. 56
พอไปถึงนั่งรอสักพัก พนง. นวด (therapist) ก็จะมาเชิญเราให้ไปห้องนวดตามปกติ ขอบอกก่อนนะคะ เราเริ่มหลงรักการนวดอโรมา เมื่อ7ปีที่แล้ว เพราะคุณแม่ชวนให้ไปลองนวด เนื่องจากซื้อแพกเกจนวดไว้ที่เซ็นทรัล สาขาใกล้บ้านเราก็จะไปกับแม่ประจำ หรือเวลาไปเที่ยวรร รีสอร์ทแอนด์สปา เราสองคนแม่ลูกก็เข้านวดอโรมา มาหลายที่ตั้งแต่ห้าดาวจนร้านทั่วไป ที่ดูสะอาดสะอ้าน หรือแม้กระทั่งตอนไปฮันนีมูนที่บาหลี เราก็เลือกรร. ที่มีนวด เพราะสามีไม่เคยนวดอโรมาหรือนวดแผนไทย เราเลยอยากให้ไปลอง
ต่อค่ะ
พอพนง. นวดไปได้สักพัก ตอนนี้เรายังอยู่ในท่านอนคว่ำ พนง. ขออนุญาตขึ้นบนเตียงเพื่อนวดหลังค่ะ ที่นี่เค้าจะหรี่ไฟลงเพื่อไม่ให้เขินมั้งคะ (แต่จะบอกว่าเราไม่เขินแล้วล่ะคะ นวดจนชิน เพราะตลอด7ปีที่เรานวดมา ในห้องจะมีแค่2คน ตลอดจนจบการนวด คือ พนง. กับ ลูกค้า หากเป็นห้องคู่ ก็จะมีลูกค้า2คนที่มาด้วยกันกับพนง. 2คน เท่านั้น!)
สักพักเราได้ยินเสียงเปิดประตูห้องจากด้านหลังเตียง คือประตูเป็นประตูไม้ออกแนวโมเดิร์น เลื่อนได้สองข้าง เป็นประตูสูงๆ ยาวๆ ติดเพดานข้างบน
ตอนนั้นคิด "ใครวะ สงสัยเป็นพนง. นวดอีกคนเข้ามาหยิบผ้าขนหนูมั้ง" เลยไม่คิดอะไรต่อ ..แต่อีกไม่เกิน1นาที ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาด้านขวามือ แต่หน้าเราอยู่ในหลุมที่เจาะไว้ เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ ไม่ปลอดภัย อย่างที่ทราบกันว่านวดอโรมานั้นจะใส่แค่กกน. กระดาษตัวเดียว โดยพนง. นวดก็นวดไป ไม่พูดอะไร เราเลยตะหงิดๆ ใจ รีบหันไปด้านขวา.....แทบสิ้นสติ
ภาพตรงหน้า เป็นผู้หญิงชุดดำแขนกุด ในความมืดสลัวๆ ปากแดงสวย ลากเก้าอี้สตูลมานั่งข้างเตียงเรา ตาเราค้างอยู่แปป เริ่มตั้งสติได้เมื่อเจ้าหล่อนเอ่ยปาก "มาแนะนำคอร์สค่ะ"
คือขายคอร์สจะให้เราทำวันนี้เลย พูดวนไปมา เราบอกไม่ทำๆ ก็ยังพูดต่อ ตัวเองลองดูมั้ย ตัวเองน่าจะลอง พูดอยู่แบบนี้ รำคาญสุดๆค่ะ)
ตอนนั้นยอมรับไม่ได้ฟังอะไรแล้วค่ะ เพราะสมองคิดแต่ว่าอิห่านน้อย เกิดมาไม่เคยพบเจอ มาอัพเซลล์อะไรตอนนี้ เสียมารยาท และไม่นึกถึงใจลูกค้าสุดๆๆๆๆ นี่มันเป็นห้องนวด ห้องที่ลูกค้าให้ความไว้ใจพนง.นวดของตนเท่านั้น!ถ้าจะขายของ ทำไมไม่หากลยุทธ์ประกบตัวลูกค้าตอนเค้านวดเสร็จ หรือก่อนนวด
หลังจากนั้น เราปฏิเสธไปบอกว่า ไม่ทำ ซื้อคอร์สที่อื่นแล้ว ยังมีหน้ามาพูดต่อ
"ไม่ใช่อะไร เห็นตัวเองเริ่มอ้วน มีเนื้อหลังเริ่มมา เสียดายตัวเองอะน่าทำ มีโปรโมชั่นฉลองครบรอบร้าน3ปี ราคาถูก...บลาๆๆๆๆๆ..."
อยากจะบอกว่า นี่อิห่านน้อยมาวิจารณ์หุ่นชั้นอีก คุณเป็นใครคะ เข้ามาไม่แนะนำตัวเอง ไม่มีสเต็ปการให้บริการลูกค้า ยังกล้าพูดแบบนี้อีก
เราเลยถามว่า "อ๋อๆ ใช่คุณ ค หรือเปล่าที่คุยโทรศัพท์ นัดคิวกัน"
อิห่านน้อยตอบ "อ๋อไม่ใช่ค ชื่อ จ ..ค เป็นรีเซปชั่น"
สรุปสุดท้าย เรายืนยันไม่ทำ ไม่สนใจ ทั้งคอร์สนวดลดไขมัน นวดอโรมา คุณ จ เลยเดินออกไปพร้อมกับพูดเบาๆ "ไม่เป็นไรค่ะ"
ที่นี้พอเค้าออกไป จิตใจเรารู้สึกแปลกๆ ไม่ผ่อนคลายแล้ว เพราะเรารู้สึกเหมือนถูกคุกคามยังไงไม่รู้ ประเด็นคือ เราไม่รู้สึกอายหุ่นอะไรเลย เรานวดมาเยอะแล้ว แต่เรารู้สึกถึงความไม่เหมาะสมและเสียมารยาทของการเข้ามาในห้องของบุคคลที่3 รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ความไว้ใจ.....คิดว่าใครหนอ ช่างคิดแผนการตลาดอัพเซลล์ที่เลวร้ายขนาดนี้ คิดได้แค่นี้หรอ?!!? คุณก็เป็นผู้หญิง กลุ่มเป้าหมายคุณส่วนใหญ่ก็คือผู้หญิงที่ต้องการเข้ามาใช้บริการ เพื่อได้ความผ่อนคลายร่างกายกลับไป ไม่ใช่มายัดเยียดความตกใจและมารยาทแบบนี้ให้ลูกค้า! (ใครมีแฟน มีภรรยา มีลูกๆ ที่อยากลองนวดสปา อย่าลืมเล่าให้พวกเค้าฟัง ว่าที่นี่มีกลยุทธ์การอัพเซลล์เยี่ยงนี้ จะได้ไม่ตกใจแบบเราค่ะ)
เราเลยถามจากพนง.นวด ว่าคุณ จ. เป็นใคร ได้ความว่า เป็นผจก. สาขาและเซลล์ด้วย ลูกค้าคนอื่นก็บ่นตกใจ ไม่น่าเข้ามาขายของเวลานี้ ไม่เหมาะสม เราเลยถามว่า เจ้าของรู้มั้ยว่าคุณ จ เค้าทำแบบนี้ ได้คำตอบว่า ไม่น่าจะทราบนะคะ เหมือนพนง. ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เราก็ไม่อยากพาดพิงพนง. ค่ะ เพราะว่าฝีมือการนวดดี มีมารยาท ชวนคุยเล็กน้อย พอเห็นเราลืมตาก็จะถามเจ็บมั้ยคะ ปวดมั้ย...
พอเสร็จจากนวด เราเลยเสิร์ชหาข้อมูล ก็ไม่มีใครเจอแบบเรา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ เราเชื่อว่าผู้หญิงที่ติดนวดสปาทุกคน คงมีร้านประจำ หรือไม่ก็ชอบลองนวดหลายๆ ที่เพื่อความหลากหลาย เพราะจริงๆ การนวดสปาเราว่าเป็นทั้งศาสตร์ทั้งศิลป์นะ โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศ กลิ่น เสียง คุณภาพผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การแข่งขันกันด้วยมารยาทของพนง. และวิธีการบริการ เพื่ออัพราคาและยกระดับความแตกต่างของธุรกิจตัวเอง
แต่ถ้าที่นี่มีกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ ดิฉันว่าคุณคิดผิดตั้งแต่ก้าวเข้ามาในธุรกิจการบริการแล้ว ไปหาอย่างอื่นทำเหอะแม่ห่านน้อย!!!!
เพิ่งเคยเจอจริงๆ ให้ตายเหอะ!
อย่าทำแบบนี้ ไม่ว่ากับใคร....เข้าใจมั้ยยยยย ถึงผจก. สาขาและผู้หญิงที่ชอบนวดทู้กกกกกคนนนนคะ
แรงบันดาลใจแห่งกระทู้นี้ คือต้องการแชร์ประสบการณ์อันน่า(ไม่)ประทับใจมิรู้ลืม กับการกระทำดังต่อไปนี้ ของผจก. สาขา (ธุรกิจบริการนวด สปาและดูแลรูปร่างแห่งหนึ่ง)
เรื่องมีอยู่ว่าได้ดีล นวดสปา แห่งหนึ่ง มาจากที่ทำงานเป็นของขวัญ ร้านที่ว่านี้มี2สาขานะคะ คือ พารากอน และ เอสพลานาด แคราย บ้านเราอยู่ใกล้แครายเลยเลือกนัดทำที่สาขานี้ค่ะ
ตอนจองไม่มีปัญหาอะไรค่ะ น้องพนง. น่ารัก พูดจาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับแขก (ทั้งคนที่คุยโทรศัพท์และที่เจอกัน...เอ๊ะ..หรือคนเดียวกัน...เอาเป็นว่าบริการดี พูดจารู้เรื่อง) จริงๆ ในดีลหมดอายุ3เม.ย. 56 แต่ตอนโทรไปจอง พนง. บอกว่าดีลนี้เลื่อนใช้ถึง30เม.ย. 56
พอไปถึงนั่งรอสักพัก พนง. นวด (therapist) ก็จะมาเชิญเราให้ไปห้องนวดตามปกติ ขอบอกก่อนนะคะ เราเริ่มหลงรักการนวดอโรมา เมื่อ7ปีที่แล้ว เพราะคุณแม่ชวนให้ไปลองนวด เนื่องจากซื้อแพกเกจนวดไว้ที่เซ็นทรัล สาขาใกล้บ้านเราก็จะไปกับแม่ประจำ หรือเวลาไปเที่ยวรร รีสอร์ทแอนด์สปา เราสองคนแม่ลูกก็เข้านวดอโรมา มาหลายที่ตั้งแต่ห้าดาวจนร้านทั่วไป ที่ดูสะอาดสะอ้าน หรือแม้กระทั่งตอนไปฮันนีมูนที่บาหลี เราก็เลือกรร. ที่มีนวด เพราะสามีไม่เคยนวดอโรมาหรือนวดแผนไทย เราเลยอยากให้ไปลอง
ต่อค่ะ
พอพนง. นวดไปได้สักพัก ตอนนี้เรายังอยู่ในท่านอนคว่ำ พนง. ขออนุญาตขึ้นบนเตียงเพื่อนวดหลังค่ะ ที่นี่เค้าจะหรี่ไฟลงเพื่อไม่ให้เขินมั้งคะ (แต่จะบอกว่าเราไม่เขินแล้วล่ะคะ นวดจนชิน เพราะตลอด7ปีที่เรานวดมา ในห้องจะมีแค่2คน ตลอดจนจบการนวด คือ พนง. กับ ลูกค้า หากเป็นห้องคู่ ก็จะมีลูกค้า2คนที่มาด้วยกันกับพนง. 2คน เท่านั้น!)
สักพักเราได้ยินเสียงเปิดประตูห้องจากด้านหลังเตียง คือประตูเป็นประตูไม้ออกแนวโมเดิร์น เลื่อนได้สองข้าง เป็นประตูสูงๆ ยาวๆ ติดเพดานข้างบน
ตอนนั้นคิด "ใครวะ สงสัยเป็นพนง. นวดอีกคนเข้ามาหยิบผ้าขนหนูมั้ง" เลยไม่คิดอะไรต่อ ..แต่อีกไม่เกิน1นาที ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาด้านขวามือ แต่หน้าเราอยู่ในหลุมที่เจาะไว้ เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ ไม่ปลอดภัย อย่างที่ทราบกันว่านวดอโรมานั้นจะใส่แค่กกน. กระดาษตัวเดียว โดยพนง. นวดก็นวดไป ไม่พูดอะไร เราเลยตะหงิดๆ ใจ รีบหันไปด้านขวา.....แทบสิ้นสติ
ภาพตรงหน้า เป็นผู้หญิงชุดดำแขนกุด ในความมืดสลัวๆ ปากแดงสวย ลากเก้าอี้สตูลมานั่งข้างเตียงเรา ตาเราค้างอยู่แปป เริ่มตั้งสติได้เมื่อเจ้าหล่อนเอ่ยปาก "มาแนะนำคอร์สค่ะ"คือขายคอร์สจะให้เราทำวันนี้เลย พูดวนไปมา เราบอกไม่ทำๆ ก็ยังพูดต่อ ตัวเองลองดูมั้ย ตัวเองน่าจะลอง พูดอยู่แบบนี้ รำคาญสุดๆค่ะ)
ตอนนั้นยอมรับไม่ได้ฟังอะไรแล้วค่ะ เพราะสมองคิดแต่ว่าอิห่านน้อย เกิดมาไม่เคยพบเจอ มาอัพเซลล์อะไรตอนนี้ เสียมารยาท และไม่นึกถึงใจลูกค้าสุดๆๆๆๆ นี่มันเป็นห้องนวด ห้องที่ลูกค้าให้ความไว้ใจพนง.นวดของตนเท่านั้น!ถ้าจะขายของ ทำไมไม่หากลยุทธ์ประกบตัวลูกค้าตอนเค้านวดเสร็จ หรือก่อนนวด
หลังจากนั้น เราปฏิเสธไปบอกว่า ไม่ทำ ซื้อคอร์สที่อื่นแล้ว ยังมีหน้ามาพูดต่อ
"ไม่ใช่อะไร เห็นตัวเองเริ่มอ้วน มีเนื้อหลังเริ่มมา เสียดายตัวเองอะน่าทำ มีโปรโมชั่นฉลองครบรอบร้าน3ปี ราคาถูก...บลาๆๆๆๆๆ..."
อยากจะบอกว่า นี่อิห่านน้อยมาวิจารณ์หุ่นชั้นอีก คุณเป็นใครคะ เข้ามาไม่แนะนำตัวเอง ไม่มีสเต็ปการให้บริการลูกค้า ยังกล้าพูดแบบนี้อีก
เราเลยถามว่า "อ๋อๆ ใช่คุณ ค หรือเปล่าที่คุยโทรศัพท์ นัดคิวกัน"
อิห่านน้อยตอบ "อ๋อไม่ใช่ค ชื่อ จ ..ค เป็นรีเซปชั่น"
สรุปสุดท้าย เรายืนยันไม่ทำ ไม่สนใจ ทั้งคอร์สนวดลดไขมัน นวดอโรมา คุณ จ เลยเดินออกไปพร้อมกับพูดเบาๆ "ไม่เป็นไรค่ะ"
ที่นี้พอเค้าออกไป จิตใจเรารู้สึกแปลกๆ ไม่ผ่อนคลายแล้ว เพราะเรารู้สึกเหมือนถูกคุกคามยังไงไม่รู้ ประเด็นคือ เราไม่รู้สึกอายหุ่นอะไรเลย เรานวดมาเยอะแล้ว แต่เรารู้สึกถึงความไม่เหมาะสมและเสียมารยาทของการเข้ามาในห้องของบุคคลที่3 รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ความไว้ใจ.....คิดว่าใครหนอ ช่างคิดแผนการตลาดอัพเซลล์ที่เลวร้ายขนาดนี้ คิดได้แค่นี้หรอ?!!? คุณก็เป็นผู้หญิง กลุ่มเป้าหมายคุณส่วนใหญ่ก็คือผู้หญิงที่ต้องการเข้ามาใช้บริการ เพื่อได้ความผ่อนคลายร่างกายกลับไป ไม่ใช่มายัดเยียดความตกใจและมารยาทแบบนี้ให้ลูกค้า! (ใครมีแฟน มีภรรยา มีลูกๆ ที่อยากลองนวดสปา อย่าลืมเล่าให้พวกเค้าฟัง ว่าที่นี่มีกลยุทธ์การอัพเซลล์เยี่ยงนี้ จะได้ไม่ตกใจแบบเราค่ะ)
เราเลยถามจากพนง.นวด ว่าคุณ จ. เป็นใคร ได้ความว่า เป็นผจก. สาขาและเซลล์ด้วย ลูกค้าคนอื่นก็บ่นตกใจ ไม่น่าเข้ามาขายของเวลานี้ ไม่เหมาะสม เราเลยถามว่า เจ้าของรู้มั้ยว่าคุณ จ เค้าทำแบบนี้ ได้คำตอบว่า ไม่น่าจะทราบนะคะ เหมือนพนง. ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เราก็ไม่อยากพาดพิงพนง. ค่ะ เพราะว่าฝีมือการนวดดี มีมารยาท ชวนคุยเล็กน้อย พอเห็นเราลืมตาก็จะถามเจ็บมั้ยคะ ปวดมั้ย...
พอเสร็จจากนวด เราเลยเสิร์ชหาข้อมูล ก็ไม่มีใครเจอแบบเรา เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ค่ะ เราเชื่อว่าผู้หญิงที่ติดนวดสปาทุกคน คงมีร้านประจำ หรือไม่ก็ชอบลองนวดหลายๆ ที่เพื่อความหลากหลาย เพราะจริงๆ การนวดสปาเราว่าเป็นทั้งศาสตร์ทั้งศิลป์นะ โดยเฉพาะการสร้างบรรยากาศ กลิ่น เสียง คุณภาพผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่การแข่งขันกันด้วยมารยาทของพนง. และวิธีการบริการ เพื่ออัพราคาและยกระดับความแตกต่างของธุรกิจตัวเอง
แต่ถ้าที่นี่มีกลยุทธ์การตลาดแบบนี้ ดิฉันว่าคุณคิดผิดตั้งแต่ก้าวเข้ามาในธุรกิจการบริการแล้ว ไปหาอย่างอื่นทำเหอะแม่ห่านน้อย!!!!
เพิ่งเคยเจอจริงๆ ให้ตายเหอะ!