ผมเคยอ่านกระทู้ของเพื่อนสมาชิกเกี่ยวกับธนาคารคิดเงินผิดหลายกระทู้..ก็คิดว่า..ธนาคารมันคิดถูกแล้ว..
ต่อเมื่อโดนกับตัวเอง จึงเกิดคำถามว่า ผมโกงธนาคารหรือธนาคารของรัฐโกงผม..กันแน่


ผมกู้เงินจาก ธอส.ปลูกบ้าน 2,070,000 บาท ส่งเดือนละ 12,900 บาท ในระยะ 29 ปี

6 เดือนแรก ดอกเบี้ย 0%
จนท.สินเชื่อและคนอีกหลายคนบอกว่า ถ้าเงินเหลือก็ส่งเงินกู้เยอะๆ เพราะมันลดต้นลดดอก ..

เดือนที่ 7 - 24 ดอกเบี้ย 5.125%
เดือนที่ 25 - 348 ดอกเบี้ย 6.125%

ใน 6 เดือนแรก ผมส่งเงินกู้ให้ธนาคารไป 1,000,000 บาท พร้อมเงินต้นเดือนละ 12,900 บาท (ไม่เสียดอกเบี้ย)
เงินต้นหักแล้วคงเหลือประมาณ 1,000,000 บาท

มาเดือนที่ 7 ชำระตามปกติเดือนละ 12,900 บาท
ก็ให้แปลกใจว่า..ทำไมดอกเบี้ยมันสูงตั้ง 8,xxx เงินต้น 4,xxx
เดือนที่ 8 ดอกเบี้ยก็ยังสูงตั้ง 8,xxx แทนที่จะเป็นแค่ 4,xxx

ถ้ามันลดต้นลดดอกจริง
เดือนที่ 7 ดอกเบี้ย 5.125% เงินต้นคงเหลือ 1,000,000 ส่ง 12,900
ดอกเบี้ยก็ควรอยู่ที่ 4,xxx และเงินต้นควรอยู่ที่ 8,xxx ไม่ใช่หรือครับ
ถ้าคิดจากเงินต้นคงเหลือเป็นหลัก ดังนั้น ระยะเวลาการส่งเงินกู้ก็จะไม่ถึง 29 ปี ??

ก็เลยนำใบเสร็จมาดู..ก็พบว่า
ในใบเสร็จรับเงิน (ด้านหลัง) มันพิมพ์ตัวแดงว่า

"การชำระหนี้ไม่ตรงจำนวนเงิน หรือกำหนดเวลาตามสัญญากู้
ไม่ถือเป็นข้อตกลงใหม่กับธนาคารฯ และคงถือว่าผู้กู้ผิดสัญญา
ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการบังคับชำระหนี้ตามหนังสือบอกกล่าว
ไถ่ถอนจำนองต่อไปได้"

อย่างนี้ ใครโกงใครครับ
ผมประชาชนคนธรรมดาในฐานะลูกค้าธนาคาร
โกงดอกเบี้ยธนาคาร โดยส่งเงินต้นเยอะๆ เพราะมันลดต้นลดดอกหรือไม่? หรือ

ธนาคารโกงประชาชน
โดยสงวนสิทธิ์บังคับชำระหนี้ให้เป็นไปตามสัญญา 29 ปี การชำระหนี้ไม่ตรงจำนวนเงินถือว่าผู้กู้ผิดสัญญา ?

และผมควรทำอย่างไร..ครับ

ขอบคุณครับ

หมายเหตุ

ถ้าธนาคาร..แห่งรัฐไทย เป็นต้นแบบแห่งการโกงแล้ว ประเทศไทยจะเหลืออะไร..