ผจก. สาขานัดพบค่ะ บอกว่ามันจะดีกับตัวคุณเองนะ
เราก็รีบไปค่ะ ได้ความมาว่า
1. หนี้ของเราทั้งหมด (จากสี่สัญญาที่มี) จะถูกรวบเป็นสัญญาเดียว รวบเป็นหนี้เงินก้อน ก้อนเดียว
2. ดอกเบี้ยอันเกิดจากหนี้สินในข้อ 1 (ซึ่งเราไม่สามารถชำระได้ อันเนื่องมาจากวิกฤติโควิด) จะถูกยกยอดมาเป็นหนี้อีกก้อน (สัญญาที่ 2) และจะให้หารเฉลี่ยชำระเป็นรายปี (ประมาณ 10 ปี) โดยหนี้ก้อนนี้จะปลอดดอกเบี้ย
3. ดอกเบี้ยอันเกิดจากหนี้สินในข้อ 1 นับจากวันที่เซ็นต์สัญญา (เดือนกันยายน 2564) จะต้องชำระในเดือนกันยายน 2565 ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี พร้อมเงินต้นพอประมาณ (เอาตรงๆ ธนาคารนี้มีความห ยวนๆ อย่างมากเลยค่ะ มีอะไรจะเข้าไปถามไปบอกตลอด)
สรุปคือ
สมมุติวันนี้เราเป็นหนี้ 1,000,000 บาท
วันนี้ของปีหน้า เราต้องหามาคืนธนาคาร (ข้อ1-3) อย่างน้อย 80,000 บาทค่ะ
และจะให้คงระยะจ่าย 80,000 บาทนี้ไปได้อีก 2-3 ปีจากนั้นขอให้จ่ายเงินต้นเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัว
สำหรับคนที่ทำโฮสเทลและต้องปิดกิจการ (น่าจะถาวร) อย่างเรา นี่คือช่วงเวลาที่เรายังไม่ออกจากโรงพยาบาลเลยค่ะ แต่เราก็พอมีงานอดิเรกที่สร้างรายได้บ้าง เราก็ยังพอมีทางเดินไปได้
ขอบคุณนโยบายช่วยเหลือ เราไม่รู้ว่าต้องขอบคุณใคร..
รัฐบาล?
ธนาคารแห่งประเทศไทย?
....?
ถ้าให้เราคิดคนเดียว เท่าที่พื้นฐานความรู้เรามีอยู่ตอนนี้ เราคิดว่ามันเป็นนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ดีมากๆ เลยค่ะ
😉😉😉
หรือถ้าใครคิดว่าไม่น่าจะดี
หรือเราควรรู้อะไรที่เรายังไม่รู้
แนะนำกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ 🙂
ต่อลมหายใจลูกหนี้ธนาคารรัฐ เหมือนคุณกำลังอยู่ ICU แล้วศัตรูมาบอกว่าดีขึ้นแล้วมาสู้กันต่อนะ