สวัสดีค่ะ

เราเป็นพนักงานเงินเดือน ไม่มีหนี้สินก้อนใหญ่ (บ้าน รถ อสังหาใดๆ) มีแต่บัตรเครดิตค่ะ ช่วงที่เค้ามีการพักชำระหนี้ ก้จะมีธนาคารโทรมาชักชวนเยอะเลยค่ะ
จนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง3พยางศ์ เค้าโทรมาขายสินเชื่อ ศ. เป็นการรวมหนี้ที่มี แล้วคิดดอกเบี้ยราคาพิเศษให้

ตอนนั้นเราเป็นหนี้อยู่ประมาณ 28,xxx

โทรมาถามว่า อยากจะลดดอกเบี้ยไหม ด้วยความที่เราอยากโปะให้จบๆ เลยตัดสินใจกันว่า โอเคเข้าโครงการละกันจากนั้น พนง.แบงก้แนะนำให้เรางดจ่ายหนี้1เดือน เพื่อทำเรื่องเข้าโครงการ เพราะคนที่มีสถานะการเงินปกติ เข้าโครงการไม่ได้ (ตอนนั้นไม่เอะใจเลย ทำตามเค้าไป) 

พอเข้าโครงการ หนี้เพิ่มเป็น 37,xxx

ก่อนหน้านี้ชำระตรงมาตลอด ไม่เคยมีประวัติค้างชำระเลยแม้แต่เดือนเดียว  จนตอนนี้เพิ่งมาทราบว่า การที่แบงแนะนำให้งดจ่ายหนี้ 1เดือนนั้น ทำให้สถานะในเครดิตบูโรมันขึ้นโชว์ว่าเรามีประวัติค้างชำระ 31-60วันเป็นจำนวน1เดือน ซึ่งนั่นทำให้ความเชื่อถือที่สถาบันการเงินมีต่อเรามันหายไปเลย
ทีนี้การทำเรื่องกู้ทำสินเชื่อรถหรือบ้านตั่งต่าง เป็นไปได้ยากมากๆ เค้าแทบจะไม่ให้เลย เพราะเป็นคนมีประวัติไม่ดีไปแล้ว

ล่าสุดยื่นกู้รถ กู้บ้าน ติดขัดไปหมดเลย ต้องคอยอธิบายเพิ่มเติมตลอดว่ามันเป็นเพราะแบบนี้ๆนะ ทั้งๆที่ตอนนี้เราเคลียหนี้บัตรเครดิตที่มีเกือบจะหมดแล้วด้วย และถึงแม้ว่าจะมีประวัติเพียง1เดือน และสถานะบัญชีนั้นถูกปิดไปแล้ว มันก้ยังคงติดปัญหาอยู่ตลอด เพราะที่มีประวัติค้าง คือเมื่อเดือนส.คที่ผ่านมาเอง สดๆร้อนๆ

ขอให้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกๆท่าน รักษาความเชื่อถือเอาไว้นะฮะ แต่คงไม่มีใครโง่แบบเราแล้วแหละเนอะ ที่เค้าบอกว่าให้งดจ่าย แล้วไม่เอะใจอะไรเนี่ย😭

ตอนนี้ นอกจากการรอ3ปี ให้เครดิตบูโรหายไป เราพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ
เพราะนอกจากที่เราไม่รู้เรื่อง ไม่คิดเรื่องบูโรแล้ว  พนักงานแบงค์ ก็ไม่น่าจะแนะนำแบบนี้หรือเปล่าคะ

ขอคำแนะนำด้วยค่า 

ปล. ไม่ต้องด่านะคะ ส่วนความผิดของเรา เราร้องไห้หลายวันแล้วค่ะ ฮือออ