แอบโดดงานแปลมาแชร์ความรู้สึกกันเล็กน้อยหลังได้รู้ว่าบทส่งท้ายแบบดิบออกแล้ววันนี้ครับ
อนึ่ง เนื่องจากบทส่งท้ายนี้มีแค่ 8 หน้า ดังนั้นอาจลงภาพได้ไม่จุใจหลายท่านบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ
เริ่มจากภาพแรก
คิซึนะจังเวอร์ชั่นผมยาวหลังคบเป็นแฟนกับบักมากิมาได้ 2 ปีแล้ว
อนึ่ง สังเกตเห็นในภาพนี้ว่าบักมากิเรียกคิซึนะจังด้วยชื่อตัวอันเป็นการแสดงฐานะของคนเป็นแฟนแล้วนะครับ (แต่คิซึนะจังยังเรียกบักมากิว่ามากิเหมือนเดิม ชวนให้สงสัยไม่น้อยว่าตกลงมากินี่ชื่อตัวของมันไม่ใช่นามสกุลหรอกเรอะ)
"เค้าอยากทำ 'เรื่องอย่างว่า' กับตัวอ้ะ"
คำขอของคิซึนะจังที่ทำเอาบักมากิหวิดลมปราณแตกซ่านตามบักแว่นอีกเรื่องไปอีกคน
(แต่เอาเข้าจริงกว่าจะได้อะจึ๊ยๆ กันจริงๆ ก็ต้องรอจนกว่าจะเรียนจบก่อนนะเอ้อ...เพราะบักมากิตั้งใจไว้แบบนั้น และคิซึนะจังก็รับรู้และยินยอมแล้วด้วย)
แล้วก็ปิดท้าายด้วยรายการจู๋จี๋กันแบบไม่แคร์สื่อเป็นอันปิดฉากความรักระหว่างสองคนในตอนนี้
โดยก่อนจบก็เล่นทิ้งท้ายให้เสียวเว้ยอีกว่า
"เรียนจบเมื่อไหร่ มาเล่นกันให้อร่อยเหาะไปเลยนะจ๊ะ" อีกตะหาก
โดยส่วนตัวแล้ว ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นการจบเรื่องที่เรียบง่ายแล้วก็ธรรมดาไปนิด แต่อีกใจก็คิดว่าหวานไม่หยอกเหมือนกันแฮะ ถึงจะขาดดราม่าอันเป็นบททดสอบชวนเร้าใจเหมือนอย่างคู่ยูริอย่างชิออนกับคานะก็เถอะ
แต่ยังไงก็อยากให้รวมเล่ม 6 ที่เป็นเล่มจบมีเขียนอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้จังแฮะ...ถึงจะหวังไม่ได้มากก็เถอะ -3-
อนึ่ง อ่านบทส่งท้ายบทนี้แล้ว ไม่รู้ทำไมนึกภาพเพลงนี้ลอยขึ้นมาในหัวเลยแฮะ (เลยเอามาเป็นไอเดียตั้งบนหัวกระทู้นี่แหละ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อเพลงคือ Sora mo toberu hazu (ราวโบยบินบนห้วงนภา) ครับ เป็นเพลงประกอบละครญี่ปุ่นเก่าโคตรๆ ชื่อเรื่อง "อดีตฝันวันวานครับ" ฉายทางช่อง 3 ซักเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนได้แฮะ
โดยส่วนตัวไม่เคยดุละครเรื่องที่ว่า แต่เคยได้ยินเพลงประกอบเพลงนี้และจำทำนองได้อย่างแม่นยำ แถมอาจารย์ยังมาช่่วยกระตุ้นความทรงจำด้วยการเปิดเพลงนี้ให้ฟังในคาบเรียน Listening ซะอีก เลยได้รู้ความหมายของเพลงไปด้วยเลย
คิดว่าเข้ากับคิซึนะจังกับบักมากิดีไม่หยอก เลยลองแปลแบบเอาความมาให้ชมกันครับ
空も飛べるはず
Sora mo Toberu Hazu
ราวโบยบินบนห้วงนภา
幼い微熱を下げられないまま
Osanai binetsu wo Sakerarenai mama
神様の影を恐れて
Kamisama no kage wo osorete
隠したナイフが似合わない僕を
Kakushita NAIFU ga Niawanai boku wo
おどけた歌でなぐさめた
Odoketa uta de nagusameta
ภาพเงาแห่งเหล่าเทพเจ้ายังคงน่าหวาดหวั่นเสมอ
เฉกเช่นความรู้สึกยามป่วยไข้เมื่อครั้งวัยเยาว์
มีเพียงบทเพลงน่าตลกเพลงนั้น ที่ช่วยเยียวยาหัวใจฉัน...
ผู้ไม่คู่ควรกับใบมีดที่แอบซ่อนไว้เลย...
色褪せながら
Irosenagara
ひび割れながら
Hibi warenagara
輝くすべを求めて
Kagayaku sube wo motomete
พร้อมกับสีสรรที่ซีดจาง...
พร้อมกับรอยร้าวที่แยกปริมาณ...
ฉันไขว่คว้าหาหนทางเปล่งประกายเสมอมา...
君と出会った奇跡が
Kimi to deatta kiseki ga
この胸にあふれてる
Kono mune ni afureteru
きっと今は自由に空も飛べるはず
Kitto ima wa jiyuu ni sora mo toberu hazu
夢を濡らした涙が
Yume wo nurashita namida ga
海原へ流れたら
Unabara e nagaretara
ずっとそばで笑っていてほしい
Zutto soba de waratte ite hoshii
ปาฏิหาริย์ที่ได้มาพบเธอในวันนี้ เต็มตื้นขึ้นมาในใจฉัน
ยามนี้ ฉันรู้สึกราวกับได้โบยบินอย่างอิสระบนห้วงนภา
หากว่าความฝันที่เปียกปอนด้วยน้ำตานั้นจะไหลกลับลงสู่ห้วงสมุทรแล้วไซร้
ก็ขอเพียงมีรอยยิ้มเธอเคียงข้าง... ตลอดไป
切り札にしてた見えすいた嘘は
Kiri fuda ni shite 'ta Miesu ita uso wa
満月の夜にやぶいた
Mangetsu no yoru ni yabuita
はかなく揺れる 髪のにおいで
Hakanaku yureru Kami no nioide
深い眠りから覚めて
Fukai nemuri gara samete
คำโกหกที่ดูออกแสนง่าย
ซึ่งฉันเก็บไว้เป็นไม้ตายอยู่เสมอนั้น
กลับแตกสลายสิ้นด้วยแสงแห่งดวงจันทรา
กลิ่นหอมจากเส้นผมที่พลิ้วไหวนั้น
จะปลุกฉันให้ตื่นจากฝันยาวไกล
君と出会った奇跡が
Kimi to deatta kiseki ga
この胸にあふれてる
Kono mune ni afurete 'ru
きっと今は自由に空も飛べるはず
Kitto ima wa jiyuu ni sora mo toberu hazu
ゴミできらめく世界が
GOMI dekirameku sekai ga
僕たちを拒んでも
Bokutachi wo kobande mo
ずっとそばで笑っていてほしい
Zutto soba de waratte ite hoshii
ปาฏิหาริย์ที่ได้มาพบเธอในวันนี้ เต็มตื้นขึ้นมาในใจฉัน
ยามนี้ ฉันรู้สึกราวกับได้โบยบินอย่างอิสระบนห้วงนภา
แม้เราจะถูกทอดทิ้ง จากโลกที่เต็มไปด้วยขยะใบนี้ก็ตาม
ก็ขอเพียงมีรอยยิ้มเธอข้างกาย...
この胸にあふれてる
Kono mune ni afureteru
きっと今は自由に空も飛べるはず
Kitto ima wa jiyuu ni sora mo toberu hazu
夢を濡らした涙が
Yume wo nurashita namida ga
海原へ流れたら
Unabara e nagaretara
ずっとそばで笑っていてほしい
Zutto soba de waratte ite hoshii
ปาฏิหาริย์ที่ได้มาพบเธอในวันนี้ เต็มตื้นขึ้นมาในใจฉัน
ยามนี้ ฉันรู้สึกราวกับได้โบยบินอย่างอิสระบนห้วงนภา
หากว่าความฝันที่เปียกปอนด้วยน้ำตานั้นจะไหลกลับลงสู่ห้วงสมุทรแล้วไซร้
ก็ขอเพียงมีรอยยิ้มเธอเคียงข้าง... ตลอดไป
สุดท้ายนี้ขอทิ้งคำถามไว้ให้สแฟน (หรือไม่ใช่แฟน) ของเรื่องนี้ทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงบทส่งท้ายนี้นะครับ
"ท่านคิดว่าบักมากิจะทนได้ถึงวันเรียนจบ (อีก 1 ปีข้างหน้า) โดยที่ไม่ตบะแตกซะก่อนได้มั้ยครับ?"
[Spoil] Prunus Girl บทส่งท้าย - ราวโบยบินบนห้วงนภา
อนึ่ง เนื่องจากบทส่งท้ายนี้มีแค่ 8 หน้า ดังนั้นอาจลงภาพได้ไม่จุใจหลายท่านบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ
เริ่มจากภาพแรก
คิซึนะจังเวอร์ชั่นผมยาวหลังคบเป็นแฟนกับบักมากิมาได้ 2 ปีแล้ว
อนึ่ง สังเกตเห็นในภาพนี้ว่าบักมากิเรียกคิซึนะจังด้วยชื่อตัวอันเป็นการแสดงฐานะของคนเป็นแฟนแล้วนะครับ (แต่คิซึนะจังยังเรียกบักมากิว่ามากิเหมือนเดิม ชวนให้สงสัยไม่น้อยว่าตกลงมากินี่ชื่อตัวของมันไม่ใช่นามสกุลหรอกเรอะ)
"เค้าอยากทำ 'เรื่องอย่างว่า' กับตัวอ้ะ"
คำขอของคิซึนะจังที่ทำเอาบักมากิหวิดลมปราณแตกซ่านตามบักแว่นอีกเรื่องไปอีกคน (แต่เอาเข้าจริงกว่าจะได้อะจึ๊ยๆ กันจริงๆ ก็ต้องรอจนกว่าจะเรียนจบก่อนนะเอ้อ...เพราะบักมากิตั้งใจไว้แบบนั้น และคิซึนะจังก็รับรู้และยินยอมแล้วด้วย)
แล้วก็ปิดท้าายด้วยรายการจู๋จี๋กันแบบไม่แคร์สื่อเป็นอันปิดฉากความรักระหว่างสองคนในตอนนี้
โดยก่อนจบก็เล่นทิ้งท้ายให้เสียวเว้ยอีกว่า "เรียนจบเมื่อไหร่ มาเล่นกันให้อร่อยเหาะไปเลยนะจ๊ะ" อีกตะหาก
โดยส่วนตัวแล้ว ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นการจบเรื่องที่เรียบง่ายแล้วก็ธรรมดาไปนิด แต่อีกใจก็คิดว่าหวานไม่หยอกเหมือนกันแฮะ ถึงจะขาดดราม่าอันเป็นบททดสอบชวนเร้าใจเหมือนอย่างคู่ยูริอย่างชิออนกับคานะก็เถอะ
แต่ยังไงก็อยากให้รวมเล่ม 6 ที่เป็นเล่มจบมีเขียนอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้จังแฮะ...ถึงจะหวังไม่ได้มากก็เถอะ -3-
อนึ่ง อ่านบทส่งท้ายบทนี้แล้ว ไม่รู้ทำไมนึกภาพเพลงนี้ลอยขึ้นมาในหัวเลยแฮะ (เลยเอามาเป็นไอเดียตั้งบนหัวกระทู้นี่แหละ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายนี้ขอทิ้งคำถามไว้ให้สแฟน (หรือไม่ใช่แฟน) ของเรื่องนี้ทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงบทส่งท้ายนี้นะครับ
"ท่านคิดว่าบักมากิจะทนได้ถึงวันเรียนจบ (อีก 1 ปีข้างหน้า) โดยที่ไม่ตบะแตกซะก่อนได้มั้ยครับ?"