http://news.voicetv.co.th/thailand/63371.html
บ่อกตง....ผมไม่ค่อยปลื้มเลยครับกับกระแส วัยรุ่นพันล้าน ซึ่งผมไม่ปฏิเสธครับว่าทุกคนอยากมี อยากได้ หากทุกอย่างที่อยากมีอยากได้นั้นเหมาะกับ วัย ฐานะ และสังคมของแต่ละคน กับบางคนที่เพิ่งเรียนจบ บางคนที่ยังไม่มีเงินออม บางคนที่ยังไม่มีความรู้ บางคนที่ยังมีทัศคติไม่ถูกต้องเกี่ยวการหาประโยชน์จากตลาดทุน เปรียบได้กับทางสองแพร่งของการเดินทางสู่ตลาดทุนว่ากำลังเดินเข้าบ่อน หรือกำลังเดินสู่เส้นทางการออม แน่นอนเรามองออกว่าเส้นทางไหนมีโอกาสล่อนจ้อนมากกว่ากัน หากวัยรุ่นส่วนใหญ่มัวเมาลุ่มหลงเดินทางผิดจำนวนมากๆโดยไม่มีหน่วยงานใดๆมาท้วงติง อนาคตของประเทศทางด้านบุคคลากรในภาคการผลิตซึ่งปัจจุบันก็ขาดแคลนอยู่แล้ว จะยิ่งซ้ำเติมประเทศในระยะยาวได้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ทุกวันนี้ยกตัวอย่างและปั่นกระแสกันแต่วัยรุ่นรวยฉาบฉวย อยากให้มีการยกตัวอย่าง ยกย่องของจริงที่เหมาะกับประเทศของเราจริงๆให้มากขึ้นครับ 555
ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน
ชาวนาวัยรุ่นที่สามารถสร้างรายได้ กว่า 1 ล้านบาท ต่อการทำนาใน 1 รอบ โดยลงทุนเพียงแค่ 4 พันบาท โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาผสมผสาน รวมทั้งวิธีการทำนา แบบ เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว จากแฟนเพจ ชาวนาวันหยุด ผ่านทางอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
พื้นที่นากว่าร้อยไร่ ในอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ของนายอุทัยพงษ์ เกษธีระกุล อายุ 26 ปี ชาวนาวัยรุ่นคนนี้เริ่มบริหารจัดการนา 130 ไร่ตั้งแต่อายุ 21 ปี หลังจากจบการศึกษาจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
อุทัยพงษ์บอกว่า การบริหารจัดการนานั้นไม่ยาก เพียงแค่เตรียมดิน-น้ำเข้านา และเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว ส่วนการดูแลข้าวนั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาผสมผสานในการทำนามากขึ้น รวมทั้งยังได้ค้นพบวิธีการทำนา แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว จากแฟนเพจ "ชาวนาวันหยุด" มาประยุกต์ใช้ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตสูงกว่า 1 ตันต่อไร่ และได้กำไรต่อไร่กว่าหนึ่งหมื่นบาทโดยลงทุนไปเพียงไร่ละ4 พันบาทเท่านั้น
อาชีพอิสระ อยู่กับธรรมชาติ และได้ผลตอบแทนดี เป็นคำนิยามของชาวนาวัยรุ่นคนนี้ ที่ให้นิยามกับอาชีพที่รัก โดยหลายคนเข้าใจว่าการเป็นกระดูกสันหลังของชาติจะต้องเหนื่อย ยากลำบากและมีรายได้ไม่มั่นคง ไม่เป็นที่ยกย่องของผู้คน ซึ่งแตกต่างจากชาวนาวัยรุ่นคนนี้อย่างสิ้นเชิง และยังให้แง่คิดว่า ในอนาคตอาชีพชาวนาจะเป็นอาชีพที่รวยมาก
วัยรุ่นชาวนามืออาชีพคนนี้บอกว่า การทำนายังคงใช้สารเคมีบ้าง แต่ได้พยายามปรับเปลี่ยนและหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ มักมีความคิดว่า ต้องการเห็นผลผลิตหรือการปราบศัตรูพืชที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว จึงยังนิยมใช้สารเคมีอยู่ รวมทั้งในอนาคตอยากเห็นรัฐบาลปลูกฝังแนวคิดใหม่ให้กับเด็กรุ่น ไม่ให้ดูถูกอาชีพการทำนา ที่ผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกินและยังส่งออกสร้างรายได้ ให้กับประเทศชาติอย่างมากอีกด้วย
ปล. ในส่วนข้อเท็จจริงทำได้หรือไม่ตามนี้ผมไม่ยืนยันเพราะผมไม่ใช่เกษตรกร แต่ผมชอบวิธีการครับ
ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน VS วัยรุ่นพันล้าน
http://news.voicetv.co.th/thailand/63371.html
บ่อกตง....ผมไม่ค่อยปลื้มเลยครับกับกระแส วัยรุ่นพันล้าน ซึ่งผมไม่ปฏิเสธครับว่าทุกคนอยากมี อยากได้ หากทุกอย่างที่อยากมีอยากได้นั้นเหมาะกับ วัย ฐานะ และสังคมของแต่ละคน กับบางคนที่เพิ่งเรียนจบ บางคนที่ยังไม่มีเงินออม บางคนที่ยังไม่มีความรู้ บางคนที่ยังมีทัศคติไม่ถูกต้องเกี่ยวการหาประโยชน์จากตลาดทุน เปรียบได้กับทางสองแพร่งของการเดินทางสู่ตลาดทุนว่ากำลังเดินเข้าบ่อน หรือกำลังเดินสู่เส้นทางการออม แน่นอนเรามองออกว่าเส้นทางไหนมีโอกาสล่อนจ้อนมากกว่ากัน หากวัยรุ่นส่วนใหญ่มัวเมาลุ่มหลงเดินทางผิดจำนวนมากๆโดยไม่มีหน่วยงานใดๆมาท้วงติง อนาคตของประเทศทางด้านบุคคลากรในภาคการผลิตซึ่งปัจจุบันก็ขาดแคลนอยู่แล้ว จะยิ่งซ้ำเติมประเทศในระยะยาวได้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ ทุกวันนี้ยกตัวอย่างและปั่นกระแสกันแต่วัยรุ่นรวยฉาบฉวย อยากให้มีการยกตัวอย่าง ยกย่องของจริงที่เหมาะกับประเทศของเราจริงๆให้มากขึ้นครับ 555
ชาวนาวัยรุ่นเงินล้าน
ชาวนาวัยรุ่นที่สามารถสร้างรายได้ กว่า 1 ล้านบาท ต่อการทำนาใน 1 รอบ โดยลงทุนเพียงแค่ 4 พันบาท โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆเข้ามาผสมผสาน รวมทั้งวิธีการทำนา แบบ เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว จากแฟนเพจ ชาวนาวันหยุด ผ่านทางอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
พื้นที่นากว่าร้อยไร่ ในอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ของนายอุทัยพงษ์ เกษธีระกุล อายุ 26 ปี ชาวนาวัยรุ่นคนนี้เริ่มบริหารจัดการนา 130 ไร่ตั้งแต่อายุ 21 ปี หลังจากจบการศึกษาจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
อุทัยพงษ์บอกว่า การบริหารจัดการนานั้นไม่ยาก เพียงแค่เตรียมดิน-น้ำเข้านา และเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว ส่วนการดูแลข้าวนั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาผสมผสานในการทำนามากขึ้น รวมทั้งยังได้ค้นพบวิธีการทำนา แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว จากแฟนเพจ "ชาวนาวันหยุด" มาประยุกต์ใช้ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตสูงกว่า 1 ตันต่อไร่ และได้กำไรต่อไร่กว่าหนึ่งหมื่นบาทโดยลงทุนไปเพียงไร่ละ4 พันบาทเท่านั้น
อาชีพอิสระ อยู่กับธรรมชาติ และได้ผลตอบแทนดี เป็นคำนิยามของชาวนาวัยรุ่นคนนี้ ที่ให้นิยามกับอาชีพที่รัก โดยหลายคนเข้าใจว่าการเป็นกระดูกสันหลังของชาติจะต้องเหนื่อย ยากลำบากและมีรายได้ไม่มั่นคง ไม่เป็นที่ยกย่องของผู้คน ซึ่งแตกต่างจากชาวนาวัยรุ่นคนนี้อย่างสิ้นเชิง และยังให้แง่คิดว่า ในอนาคตอาชีพชาวนาจะเป็นอาชีพที่รวยมาก
วัยรุ่นชาวนามืออาชีพคนนี้บอกว่า การทำนายังคงใช้สารเคมีบ้าง แต่ได้พยายามปรับเปลี่ยนและหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งชาวนาส่วนใหญ่ มักมีความคิดว่า ต้องการเห็นผลผลิตหรือการปราบศัตรูพืชที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว จึงยังนิยมใช้สารเคมีอยู่ รวมทั้งในอนาคตอยากเห็นรัฐบาลปลูกฝังแนวคิดใหม่ให้กับเด็กรุ่น ไม่ให้ดูถูกอาชีพการทำนา ที่ผลิตข้าวให้คนทั้งประเทศกินและยังส่งออกสร้างรายได้ ให้กับประเทศชาติอย่างมากอีกด้วย
ปล. ในส่วนข้อเท็จจริงทำได้หรือไม่ตามนี้ผมไม่ยืนยันเพราะผมไม่ใช่เกษตรกร แต่ผมชอบวิธีการครับ