ฟัง หม่อมอุ๋ย แลกเชอร์ อะไรใช่อะไรไม่ใช่ "ประชานิยม" สอนนักข่าว อย่าติดจีดีพี ขอให้ดูของจริง(ชมคลิป)

กระทู้ข่าว
ฟัง หม่อมอุ๋ย แลกเชอร์ อะไรใช่อะไรไม่ใช่ "ประชานิยม" สอนนักข่าว อย่าติดจีดีพี ขอให้ดูของจริง(ชมคลิป)

วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:40:57 น.

    
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือนแรก คือ เดือนตุลาคม – ธันวาคม ซึ่งจะเป็นการนำเม็ดเงินไปกระตุ้นเศรษฐกิจแบบจริงจัง ไม่ใช่การนำเงินไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ โดยจะแบ่งเป็น 5 มาตรการและจะใช้วงเงินรวม 363,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.มาตรการเพื่อการสร้างงาน โดยจะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานทั่วประเทศ ผ่านการเร่งรัดการทำสัญญาจ้างรายจ่ายลงทุน ของงบลงทุนปี 2557 ที่ยังเหลืออยู่จำนวน 147,050.8 ล้านบาท โดยทุกกระทรวงต้องทบทวน ปรับแผนโครงการและพร้อมลงทุนเซ็นสัญญาการลงทุน ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลได้ยืดเวลาให้ในการทำสัญญาแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งทางรัฐบาลเชื่อว่าหากทุกกระทรวงสามารถเร่งรัดการทำสัญญาลงทุนให้ได้อย่างต่ำ 20% ของงบที่เหลืออยู่ในปี 2557 จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น


อย่างไรก็ตาม  มาตรการที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ  มาตรการที่ 5 คือ มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้ชาวนาวงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยจะให้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ใช้เงินจากสภาพคล่องให้เงินสนับสนุนเกษตรกร วิธีการคือจะให้เงินสนับสนุนเกษตรกรที่มีไร่ไม่เกิน 15 ไร่ จำนวน 1,000 บาทต่อไร่ สำหรับชาวนาที่มีที่ดิน 15 ไร่ขึ้นไป จะให้เงินช่วยค่าต้นทุนการผลิต 15,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งจะจ่ายให้กับชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับทาง ธ.ก.ส. ซึ่งจากข้อมูลมีชาวนาทั้งหมด 3.4 ล้านครอบครัวที่เปิดบัญชีกับทาง ธ.ก.ส. แบ่งเป็นชาวนาที่มีที่ดิน 15 ไร่ขึ้นไป จำนวน 1.6 ล้านครอบครัว และชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ จำนวน 1.8 ล้านครอบครัว ซึ่งทาง ธ.ก.ส.สามารถอนุมัติเงินได้  โดยจะอนุมัติเงินตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยมาตรการนี้เป็นมาตรการช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปี ปี 2557


“มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด โดยทางเกษตรกรนั้นถือเป็นอาชีพที่น่าเป็นห่วง โดยในช่วงผลผลิตข้าวนาปีที่จะออกในเดือนพฤศจิกายนออกนั้น เชื่อว่าจากราคาข้าวที่น่าจะอยู่ที่ 8 พันบาทต่อตันนั้นในปีนี้น่าจะราคาตกลงไปอีก ทางเกษตรกรจึงน่าจะขายข้าวในราคาต่ำ ชาวนาจะลำบาก เพราะหากคิดต้นทุนรวมกับกำไรนั้น ราคาขายข้าวจริงจะอยู่ที่ 9 พันบาทต่อตัน จึงออกมาตรการดังกล่าวมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร” รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจกล่าว


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ใช่โครงการประชานิยมหรือ ม.ร.ว.ปรีดียาธรกล่าวว่า ไม่ใช่ประชานิยม เพราะโครงการประชานิยมต้องการคะแนนเสียง แต่ทางรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราต้องการช่วยผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1412177129
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่