เขียนหัวข้อให้มันดูน่าตื่นเต้นไปอย่างนั้นแหละคะ ก่อนหน้านี้เบนหายไปนาน เพราะต้องขอบอกตามตรงว่าจะมาเขียนอะไรในพันทิปต้องคิดหนัก คิดแล้วคิดอีกว่าจะเอาเรื่องมาเขียนดีไหม แต่สุดท้ายก็กลับมาเขียนอยู่ดี ขอขอบคุณทุกข้อความและทุกคนที่ให้กำลังใจในการเขียนนะคะ
โอเคมาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ไอ้ตัวไวน์แดงซ่าเนี้ย หรือว่า Sparkling Red Wine - Vino Rosso Frizzante เราจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันเท่าไหร เพราะที่เราเจอส่วนใหญ่แบบมี gas ก็จะเป็นไวน์ขาวพวก Prosecco หรือ Champagne ที่เราคุ้นๆกัน แต่ที่เบนมาพูดถึงไวน์แดงแบบซ่า เพราะมันมีไวน์ตัวหนึ่งของอิตาลี่ ชื่อ Lambrusco ซึ่งเป็นไวน์ที่ผลิตในแคว้น Emilia-Rogmagna อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมืองดังๆของที่นี้ก็อย่างที่เบนเคยเล่าไปแล้วคือ Parma, Bologna และ Modena แคว้นนี่เนี้ย อาหารเด็ดๆทั้งนั้น ไปลองหาอ่านเรื่องเก่าๆของเบนอ่านดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Pasta สด, Parma Ham, Culatello, Ciccioli(กากหมูอิตาเลี่ยน)
http://fovefood.wordpress.com/2013/03/18/กากหมูอิตาเลี่ยน/ แล้วก็ยังมีชีส Parmegiano Reggiano อีก ถ้ายิ่งไล่ชื่อไปเยอะกว่านี้ แค่เขียนก็รู้สึกว่าไขมันจะจุกอกแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลอาหารที่กล่าวมานี้ ก็เพราะจะบอกว่ามันเป็นที่มาว่าทำไมไวน์แดงของแคว้นนี้ต้องซ่า
Fresh Pasta ที่ Bologna
http://fovefood.wordpress.com/2013/02/03/home-made-fresh-pasta-bologna-italy/
อะไรคือ Salumi นะหรอ
http://fovefood.wordpress.com/2013/02/12/ไม่ว่าอะไรๆ-ก็เรียก-salume/
เบนเคยเขียนลงนิตยสาร Hello เกี่ยวกับวิธีการกิน และได้กล่าวถึงการดื่มน้ำซ่า หรือโซดา หรือSparkling water หรือAqua Frizzante ไอ้ที่ไล่มาทุกชื่อเท่าที่จะคิดออกเพราะเคยมีคนสงสัยว่าตกลงเบนพูดถึงน้ำตัวไหนกันแน่ น้ำซ่าเนี้ย คือ น้ำซ่าของเบนเนี้ยคือน้ำที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น แต่มีการอัดก๊าสนะคะ จะแรงดันเยอะน้อย ฟองเล็ก ฟองใหญ่ ตอนนี้ไม่สำคัญ เออ........ ความจริงมันก็สำคัญนะ เพราะว่าฟองเล็กกินแล้วมันจะนุ่มกว่า แต่ไว้วันหลัง วันนี้ขอพูดถึง Lambrusco
เมื่อเรากินอาหารที่มีความมัน หรือมีไขมันสูงเนื้อคะ โดยเฉพาะไขมันสัตว์ที่เป็นไขมันอิ่มตัว ไขมันพวกนี้จะไปติดอยู่ในปากและลิ้นของเราอยู่เป็นเวลานาน และการที่มีไขมันติดอยู่ที่ลิ้นเนี้ย มันก็ไปเคลือบอยู่บนต่อมรับรู้รสของเรา ทำให้ต่อมรับรสไม่สามารถสัมผัสกับอาหารได้ ทำให้เรารับรู้รสชาติของอาหารในคำต่อๆมาได้น้อยลง แล้วพวกไขมันพวกนี้ก็ไม่หลุดไปง่ายๆด้วยน้ำธรรมดาด้วยสิ แล้วอะไรที่จะล้างไขมันพวกนี้ออกไปจากลิ้นเราได้ละ??????? คำตอบมันบอกมาตั้งแต่ต้นแล้วก็คือเครื่องดื่มที่มีก๊าซนั้นเอง คือเรื่องวิทยาศาสตร์เบนก็ไม่ได้สันทัดเท่าไหร ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่ ว่าก๊าซมันทำให้ไขมันแตกตัวหลุดออกไปจากลิ้นอย่างไร แต่แค่รู้ว่า gas มันช่วยทำให้ไขมันหลุดออกไปจากลิ้นได้ดีกว่าน้ำเปล่าหรือไวน์ธรรมดา
แล้วก็เป็นที่รู้กันเกี่ยวกับ basic ง่ายๆของไวน์ คือ ไวน์แดงเข้ากับเนื้อ ไวน์ขาวเข้ากับอาหารทะเล แล้วแคว้นนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลรูปมาจากหมู Salumi ทั้งหลาย ซึ่งแต่ละอย่างก็มันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นไวน์ที่นิยมดื่มและผลิตส่วนใหญ่ของแคว้นนี้จึงเป็นไวน์แดงซึ่งมีความซ่า เพราะสามารถเข้ากับเนื้อได้ดี และยังช่วยล้างมันที่ติดอยู่บนลิ้นของเรา ทำให้หลังจากดื่ม Lambrusco ไปนั้น เราสามารถรับรู้รสชาติของ Parma Ham หรือ Salami ตัวโปรดของเราได้อีกครั้บแบบเต็มรสชาติเหมือนหรือใกล้เคียงกับคำแรกอีกครั้ง แต่ถ้าได้เจอกับ Perfect matching ระหว่าง Salumi กับ lambrusco ตัวนั้น แน่นอนว่าทั้งไวน์และ Salumi จะต้องมีรสชาติที่ส่งเสริมและอร่อยเพิ่มขึ้นทั้งคู่
สำหรับคอไวน์ตัวจริงนั้น Lambrusco อาจจะเหมือนของแสลง ต้องบอกตามตรงว่าหาแบบดีดีค่อนข้างยาก แต่ Lambrusco ที่เบนถูกใจกลับไม่ได้อยู่ในแคว้น Emila-Romagna แต่ไปอยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่า Mantova ในแคว้น Lombadia เป็นเมืองที่มี Lambrusco เป็นของตัวเอง ตอนที่เบนได้ลอง เบนกินคู่กับ Risotto สูตรเฉพาะของ Mantova ซึ่งเค้าใช้มันหมูและเนื้อหมูในการผัดข้าวแทนการใช้เนย Lambrusco กับ Risotto ของ Matova นี่เข้ากันได้ดีจริงๆ แล้วนี่เบนก็กำลังจะพาลูกทัวร์ของ Fove Food Tour กลับไปที่เมืองนี้เพื่อไปลองกินอาหารชามนี้กันกับเบนเดือนหน้า
ไวน์แดงซ่าาาาาา ถึงใจ
โอเคมาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า ไอ้ตัวไวน์แดงซ่าเนี้ย หรือว่า Sparkling Red Wine - Vino Rosso Frizzante เราจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับมันเท่าไหร เพราะที่เราเจอส่วนใหญ่แบบมี gas ก็จะเป็นไวน์ขาวพวก Prosecco หรือ Champagne ที่เราคุ้นๆกัน แต่ที่เบนมาพูดถึงไวน์แดงแบบซ่า เพราะมันมีไวน์ตัวหนึ่งของอิตาลี่ ชื่อ Lambrusco ซึ่งเป็นไวน์ที่ผลิตในแคว้น Emilia-Rogmagna อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เมืองดังๆของที่นี้ก็อย่างที่เบนเคยเล่าไปแล้วคือ Parma, Bologna และ Modena แคว้นนี่เนี้ย อาหารเด็ดๆทั้งนั้น ไปลองหาอ่านเรื่องเก่าๆของเบนอ่านดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Pasta สด, Parma Ham, Culatello, Ciccioli(กากหมูอิตาเลี่ยน) http://fovefood.wordpress.com/2013/03/18/กากหมูอิตาเลี่ยน/ แล้วก็ยังมีชีส Parmegiano Reggiano อีก ถ้ายิ่งไล่ชื่อไปเยอะกว่านี้ แค่เขียนก็รู้สึกว่าไขมันจะจุกอกแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลอาหารที่กล่าวมานี้ ก็เพราะจะบอกว่ามันเป็นที่มาว่าทำไมไวน์แดงของแคว้นนี้ต้องซ่า
Fresh Pasta ที่ Bologna http://fovefood.wordpress.com/2013/02/03/home-made-fresh-pasta-bologna-italy/
อะไรคือ Salumi นะหรอ http://fovefood.wordpress.com/2013/02/12/ไม่ว่าอะไรๆ-ก็เรียก-salume/
เบนเคยเขียนลงนิตยสาร Hello เกี่ยวกับวิธีการกิน และได้กล่าวถึงการดื่มน้ำซ่า หรือโซดา หรือSparkling water หรือAqua Frizzante ไอ้ที่ไล่มาทุกชื่อเท่าที่จะคิดออกเพราะเคยมีคนสงสัยว่าตกลงเบนพูดถึงน้ำตัวไหนกันแน่ น้ำซ่าเนี้ย คือ น้ำซ่าของเบนเนี้ยคือน้ำที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น แต่มีการอัดก๊าสนะคะ จะแรงดันเยอะน้อย ฟองเล็ก ฟองใหญ่ ตอนนี้ไม่สำคัญ เออ........ ความจริงมันก็สำคัญนะ เพราะว่าฟองเล็กกินแล้วมันจะนุ่มกว่า แต่ไว้วันหลัง วันนี้ขอพูดถึง Lambrusco
เมื่อเรากินอาหารที่มีความมัน หรือมีไขมันสูงเนื้อคะ โดยเฉพาะไขมันสัตว์ที่เป็นไขมันอิ่มตัว ไขมันพวกนี้จะไปติดอยู่ในปากและลิ้นของเราอยู่เป็นเวลานาน และการที่มีไขมันติดอยู่ที่ลิ้นเนี้ย มันก็ไปเคลือบอยู่บนต่อมรับรู้รสของเรา ทำให้ต่อมรับรสไม่สามารถสัมผัสกับอาหารได้ ทำให้เรารับรู้รสชาติของอาหารในคำต่อๆมาได้น้อยลง แล้วพวกไขมันพวกนี้ก็ไม่หลุดไปง่ายๆด้วยน้ำธรรมดาด้วยสิ แล้วอะไรที่จะล้างไขมันพวกนี้ออกไปจากลิ้นเราได้ละ??????? คำตอบมันบอกมาตั้งแต่ต้นแล้วก็คือเครื่องดื่มที่มีก๊าซนั้นเอง คือเรื่องวิทยาศาสตร์เบนก็ไม่ได้สันทัดเท่าไหร ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่ ว่าก๊าซมันทำให้ไขมันแตกตัวหลุดออกไปจากลิ้นอย่างไร แต่แค่รู้ว่า gas มันช่วยทำให้ไขมันหลุดออกไปจากลิ้นได้ดีกว่าน้ำเปล่าหรือไวน์ธรรมดา
แล้วก็เป็นที่รู้กันเกี่ยวกับ basic ง่ายๆของไวน์ คือ ไวน์แดงเข้ากับเนื้อ ไวน์ขาวเข้ากับอาหารทะเล แล้วแคว้นนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลรูปมาจากหมู Salumi ทั้งหลาย ซึ่งแต่ละอย่างก็มันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นไวน์ที่นิยมดื่มและผลิตส่วนใหญ่ของแคว้นนี้จึงเป็นไวน์แดงซึ่งมีความซ่า เพราะสามารถเข้ากับเนื้อได้ดี และยังช่วยล้างมันที่ติดอยู่บนลิ้นของเรา ทำให้หลังจากดื่ม Lambrusco ไปนั้น เราสามารถรับรู้รสชาติของ Parma Ham หรือ Salami ตัวโปรดของเราได้อีกครั้บแบบเต็มรสชาติเหมือนหรือใกล้เคียงกับคำแรกอีกครั้ง แต่ถ้าได้เจอกับ Perfect matching ระหว่าง Salumi กับ lambrusco ตัวนั้น แน่นอนว่าทั้งไวน์และ Salumi จะต้องมีรสชาติที่ส่งเสริมและอร่อยเพิ่มขึ้นทั้งคู่
สำหรับคอไวน์ตัวจริงนั้น Lambrusco อาจจะเหมือนของแสลง ต้องบอกตามตรงว่าหาแบบดีดีค่อนข้างยาก แต่ Lambrusco ที่เบนถูกใจกลับไม่ได้อยู่ในแคว้น Emila-Romagna แต่ไปอยู่ในเมืองเล็กๆที่ชื่อว่า Mantova ในแคว้น Lombadia เป็นเมืองที่มี Lambrusco เป็นของตัวเอง ตอนที่เบนได้ลอง เบนกินคู่กับ Risotto สูตรเฉพาะของ Mantova ซึ่งเค้าใช้มันหมูและเนื้อหมูในการผัดข้าวแทนการใช้เนย Lambrusco กับ Risotto ของ Matova นี่เข้ากันได้ดีจริงๆ แล้วนี่เบนก็กำลังจะพาลูกทัวร์ของ Fove Food Tour กลับไปที่เมืองนี้เพื่อไปลองกินอาหารชามนี้กันกับเบนเดือนหน้า