หลังจากที่ปั่นจักรยานเป็นประจำเริ่มออกทริปมือใหม่บ้าง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ก็ไม่เคยเป็นอะไรเลย
เต็มที่ก็เหนื่อย ก็เบาขาลงหน่อยลดสปีด หายใจให้ลึกๆ ซักพักแรงก็จะกลับมา
จากที่ไม่ได้ปั่นมา 3 วัน ช่วงสงกรานต์วันนี้ได้นัดเพื่อนๆออกทริปปั่นชมกรุงกับจั๊กกะปั่น รวมตัวกันที่ฟอร์จูนรัชดา

วันนี้ตื่นมา(นอน 8 ชั่วโมง) ก็อาบน้ำแต่งตัว กินข้าว หลังจากกินข้าวเสร็จ 20 นาที ทุกอย่างปกติความรู้สึกปกติ
ก็ปั่นออกจากที่พักที่เสนานิคม1 เวลาบ่าย2 โมง ปั่นมาได้เพียง 2 กิโลเมตร ติดไฟแดงที่สี่แยกวังหิน
พอหยุดรถ รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง ก็พูดกับตัวเองว่า "เอ๊ะ ทำไมวันนี้หัวใจเต้นแรงจัง เหมือนจะหน้ามืด"
แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จนรู้สึกตัวสะดุ้งเฮือกล้มทั้งคนทั้งรถหัวฟาดพื้น (ดีที่ใส่หมวก) พอได้สติก็รีบยกรถขึ้น
ลุกขึ้นคล่อมจักรยาน จัดกระจกข้างที่กระแทกพื้นให้เข้าที่ และเตรียมตัวออกรถ พยายามรวบรวมสติ
ว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่นั้นก็กลายเป็นไม่มีแรงปั่นเลยค่ะ แวะพักทุกๆ 1 กิโล มันทำท่าจะหน้ามืดตลอดเวลา
กัดฟันจนไปถึงฟอร์จูน บอกเพื่อนร่วมทริปว่าน่าจะไหว แต่ปั่นไปถึงแยกอโศกสุดท้ายก็ไม่ไหวเพราะขาไม่มีแรง
จึงต้องถอดล้อหน้าแล้วใส่แท๊กซี่กลับมา

แปลกและสงสัยมาก ทุกอย่างปกติ ไม่ได้ป่วย ไม่ได้เพลีย คิดว่านอนพอ แต่ทำไมอยู่ๆถึงได้เป็นลม แล้วหลังจากนั้น
ก็ไม่มีแรงเอาซะดื้อๆ ทั้งที่ 2 กิโลแรกที่ปั่นมา อาการปกติมาก ข้าวก็กิน น้ำก็จิบตลอดทางที่พัก เป็นไปได้มั้ยว่า
ก่อนหน้านี้เราปั่นทุกวัน เต็มที่ก็พักแค่วันเดียวแต่ครั้งนี้พักตั้ง 3 วันช่วงสงกรานต์ ปกติปั่นระยะทาง 30 กิโลยังสบายๆค่ะ