เห็นกระทู้ลาออกกันเยอะค่ะ เลยอยากให้นายจ้างที่อาจเข้ามาอ่านบ้างมาแชร์ประสบการณ์ว่าแต่ละท่านรักษา "คน " วิธีไหนกันบ้างตามสภาพเศรษฐกิจและค่าแรงแบบนี้ ธุรกิจเราเป็น SME ค่ะ เกือบตายตอนขึ้นค่าแรง 300 แต่ก็ยังรอดมาได้ด้วยหลักการดังนี้
เรายึดหลักธรรมมาใช้ค่ะ สังคหวัตถุธรรมและทิศ 6 และก็เห็นว่าได้ผลดีอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะวัดจาก staffs turnover ของเราจะต่ำมากเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจแบบเดียวกัน ลูกน้องที่ลาออกไป เพราะคิดว่าจะหางานหรืออยู่ที่อื่นอาจจะดีกว่า เราก็ไม่ห้าม เพราะเรารู้ว่าถ้าเราดีจริง เค้าต้องกลับมา แลัวก็กลับมาจริงๆ ไม่เกินสอง - สามเดือน
เคล็ดลับของเรา ที่อาจไม่เหมือนใคร คือ เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง : (หัวข้อ)
๑. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ ถ้าจะให้ทันสมัย ก็ Put the right man into the right job นั่นแหละค่ะ
๒. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ ความเป็นอยู่
- ให้ของขวัญวันเกิด
- ช่วยเหลือเวลาเดือดร้อนเรื่องเงิน เบิกล่วงหน้าได้ แต่ไม่ให้เบิกเยอะ เพราะกลัวเค้าไม่มีวินัยในการใช้เงิน
– เวลามาเที่ยวต่างประเทศ เราก็จะซื้อกระเป๋าฝากลูกน้อง เพราะเราเป็นผู้หญิงชอบชอปปิ้ง 55555 ตอนนี้ลูกน้องก็มีกระเป๋า Coach, Lacost , Ray Band ไว้ในครอบครองกันทุกคนแล้ว ให้ฟรีบ้าง ออกเงินแค่ครึ่งนึงบ้าง ถ้าราคาสูง ฯลฯ )
๓. จัดสวัสดิการดีมีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ ( พามันไปหาหมอ ฝากท้อง คลอดลูก โดนผัวทิ้ง ก็ให้เงินซื้อนม เลี้ยงยันลูกพนักงานค่ะ ก็ว่ากันไป อิๆ สงสารค่ะ )
๔. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้ ( อันนี้ทำบ่อยมาก เพราะเรารู้ว่าบางที อาหารบางอย่างลูกน้องอยากกินแต่ไม่มีเงินซื้อ เราก็ซื้อมาให้กิน และเลยกลายเป็นธรรมเนียมไปเลย จะไปไหนมาก็ตาม ต้องหาของที่พวกเค้าไม่เคยได้กิน มาให้ได้ลิ้มลองรส ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง ก็ต้องดูว่าอันไหนพวกกินหมดช้า หมดเร็ว )
๕. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส อันควร ( อันนี้แปลกมาก วันหยุดประจำสัปดาห์ บางคนบ้านอยู่ใกล้ร้าน ก็มาอยู่ที่ร้านทั้งวัน มาทำกับข้าวให้เพื่อนๆ กิน มันเหมือนไม่ได้หยุด บางคนถึงเวลากลับบ้านไม่อยากกลับ เพราะแม่เล่นไพ่ ไม่ชอบหน้าพ่อเลี้ยง )
อื่นๆ ที่จูงใจเพิ่มเติมก็คือ เราจะซื้อบ้านเอื้ออาทรไว้สองห้อง ให้ลูกน้องที่เป็นโสดแล้วไม่มีคนแชร์ค่าห้องมาอยู่รวมกัน ให้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตเอง
ที่เราทำและคิดว่าสำคัญมากเลย คือ เรื่องไม่ศักดินา เราปูเสื่อนั่งกินข้าวกับเค้าได้ กินได้ทุกอย่าง เพราะมันได้อะไรมากกว่ารสชาดอาหารและความสนุก เพราะตอนกินข้าว เรามักจะได้รู้เรื่องราว ชีวิต ความเป็นอยู่ เรื่องครอบครัว เรื่องแฟน อื่นๆ จิปาถะ เพราะบางคนลาออกเพราะปัญหาส่วนตัว เราเป็นนายจ้าง ก็อยากช่วยเหลือให้เต็มความสามารถ เราไม่ค่อยได้กำไรอะไรมากมายหรอกค่ะ แต่เรารู้แค่ว่า ถ้าเราให้เค้าได้กินอิ่ม นอนอุ่น พวกเค้าก็ไม่ไปไหนหรอกค่ะ มันเหนื่อยถ้าต้องหาคนมาฝึกงานบ่อยๆ
เราอยากรู้ว่าเจ้าของกิจการท่านอื่นๆ ใช้วิธีไหนบ้าง เผื่อเอามาปรับใช้เพิ่มเติม ขอบคุณค่ะ
ลืมบอกไป เรามีพนักงาน 15 คนค่ะ ตอนนี้
ข้อคิดจากการเป็นนายจ้างมา 4 ปี กับการรักษากำลังคน ขอแชร์ประสบการณ์ การรักษา " คน" ของท่านสมาชิกค่ะ
เรายึดหลักธรรมมาใช้ค่ะ สังคหวัตถุธรรมและทิศ 6 และก็เห็นว่าได้ผลดีอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะวัดจาก staffs turnover ของเราจะต่ำมากเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจแบบเดียวกัน ลูกน้องที่ลาออกไป เพราะคิดว่าจะหางานหรืออยู่ที่อื่นอาจจะดีกว่า เราก็ไม่ห้าม เพราะเรารู้ว่าถ้าเราดีจริง เค้าต้องกลับมา แลัวก็กลับมาจริงๆ ไม่เกินสอง - สามเดือน
เคล็ดลับของเรา ที่อาจไม่เหมือนใคร คือ เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง : (หัวข้อ)
๑. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ ถ้าจะให้ทันสมัย ก็ Put the right man into the right job นั่นแหละค่ะ
๒. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ ความเป็นอยู่
- ให้ของขวัญวันเกิด
- ช่วยเหลือเวลาเดือดร้อนเรื่องเงิน เบิกล่วงหน้าได้ แต่ไม่ให้เบิกเยอะ เพราะกลัวเค้าไม่มีวินัยในการใช้เงิน
– เวลามาเที่ยวต่างประเทศ เราก็จะซื้อกระเป๋าฝากลูกน้อง เพราะเราเป็นผู้หญิงชอบชอปปิ้ง 55555 ตอนนี้ลูกน้องก็มีกระเป๋า Coach, Lacost , Ray Band ไว้ในครอบครองกันทุกคนแล้ว ให้ฟรีบ้าง ออกเงินแค่ครึ่งนึงบ้าง ถ้าราคาสูง ฯลฯ )
๓. จัดสวัสดิการดีมีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ ( พามันไปหาหมอ ฝากท้อง คลอดลูก โดนผัวทิ้ง ก็ให้เงินซื้อนม เลี้ยงยันลูกพนักงานค่ะ ก็ว่ากันไป อิๆ สงสารค่ะ )
๔. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้ ( อันนี้ทำบ่อยมาก เพราะเรารู้ว่าบางที อาหารบางอย่างลูกน้องอยากกินแต่ไม่มีเงินซื้อ เราก็ซื้อมาให้กิน และเลยกลายเป็นธรรมเนียมไปเลย จะไปไหนมาก็ตาม ต้องหาของที่พวกเค้าไม่เคยได้กิน มาให้ได้ลิ้มลองรส ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง ก็ต้องดูว่าอันไหนพวกกินหมดช้า หมดเร็ว )
๕. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส อันควร ( อันนี้แปลกมาก วันหยุดประจำสัปดาห์ บางคนบ้านอยู่ใกล้ร้าน ก็มาอยู่ที่ร้านทั้งวัน มาทำกับข้าวให้เพื่อนๆ กิน มันเหมือนไม่ได้หยุด บางคนถึงเวลากลับบ้านไม่อยากกลับ เพราะแม่เล่นไพ่ ไม่ชอบหน้าพ่อเลี้ยง )
อื่นๆ ที่จูงใจเพิ่มเติมก็คือ เราจะซื้อบ้านเอื้ออาทรไว้สองห้อง ให้ลูกน้องที่เป็นโสดแล้วไม่มีคนแชร์ค่าห้องมาอยู่รวมกัน ให้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตเอง
ที่เราทำและคิดว่าสำคัญมากเลย คือ เรื่องไม่ศักดินา เราปูเสื่อนั่งกินข้าวกับเค้าได้ กินได้ทุกอย่าง เพราะมันได้อะไรมากกว่ารสชาดอาหารและความสนุก เพราะตอนกินข้าว เรามักจะได้รู้เรื่องราว ชีวิต ความเป็นอยู่ เรื่องครอบครัว เรื่องแฟน อื่นๆ จิปาถะ เพราะบางคนลาออกเพราะปัญหาส่วนตัว เราเป็นนายจ้าง ก็อยากช่วยเหลือให้เต็มความสามารถ เราไม่ค่อยได้กำไรอะไรมากมายหรอกค่ะ แต่เรารู้แค่ว่า ถ้าเราให้เค้าได้กินอิ่ม นอนอุ่น พวกเค้าก็ไม่ไปไหนหรอกค่ะ มันเหนื่อยถ้าต้องหาคนมาฝึกงานบ่อยๆ
เราอยากรู้ว่าเจ้าของกิจการท่านอื่นๆ ใช้วิธีไหนบ้าง เผื่อเอามาปรับใช้เพิ่มเติม ขอบคุณค่ะ
ลืมบอกไป เรามีพนักงาน 15 คนค่ะ ตอนนี้