คู่กรรม 2013 ดีหมดทุกอย่าง แต่นางเอกเข้าไม่ถึงกับคำว่า "ความพยาบาทคือของหวาน" ของทมยันตี

ไปดูมาแล้ว เลยบอกต่อ
http://ppantip.com/topic/30357826



ขอบอกก่้อนว่าวิจารณ์หนังไม่เก่ง แต่ไม่เคยวิเคราะห์งานแสดงของใคร นอกจากนางเอกคนโปรดคือ "เอ๊ะ" ซึ่งดูทุกเรื่อง และรู้มุมกล้อง+ทางการแสดงเธอเป็นอย่างดี มันจึุงจับมาวิเคราะห์ได้ง่าย.....


คู่กรรม 2013 อย่างแรก ถ้าจะทำหนังเรื่องนี้ให้ประทับใจ ต้องตีความกับ แกนหลักของเรื่องก่อน "ความพยาบาืทคือของหวาน" ประโยคในหน้านิยายคู่กรรม ที่ทมยันตีต้องการจะสื่ออะไร ความหมายของเรื่องที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ความสูญเสีย ประดังประเด ต่างๆ นาๆ คืออารมณ์ของมนุษย์ ความทิฐิ ความไม่ลดละ ความไม่ยอม สงคราม ความพยาบาท ก่อให้เกิดความสูญเสีย ความพินาศ สงคราม ซึ่งสะท้อนผ่านอารมณ์ของนางเอก อังศุมาลิน และ หมู่มวลกองทัพ แม่ทัพญี่ปุ่น ที่เข้ามาตั้งรกราก ทำสงครามทั้งหลาย ล้วนเกิดจากอารมณ์ มันก็มาจากกิเลศของคนทั้งสิ้น


ฉะนั้นหนังเรื่องนี้ อังศุมาลิน ซึ่งผมคิดว่า บทเด่นและยากกว่าโกโบริอีก ตัวหลักของหนังมันต้องเล่นกับอารมณ์และสายตา ความรู้สึก ผ่านการแสดง "รักแต่เก็บไว้ข้างใน คืออะไร?" ซึ่งถือว่ายากมากๆ ถ้าไม่แน่จริง อย่าเล่นดีกว่า เท่าที่ดูมา มีพี่แหม่ม จินตหรา คนเดียว ที่ผมดูแล้ว ทำให้ผมเข้าถึงความรู้สึกแบบนี้นะครับ หนูนาก็กำลังจะตามๆ กันมา คือเวลานางเอกรักพระเอก คนดูจะรู้สึกรักไปด้วย นางเอกเกลียด คนดูก็จะรับรู้ได้ว่า "เกลียดจริงๆ อคติจริงๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง ฉันไม่ชอบ ประมาณนี้" เพราะพี่แหม่มแสดงหนังด้วยสายตาตลอดเลย แต่ริชชี่ยังไม่ใช่ และคงอีกนาน

แต่อย่างน้อยๆ คู่กรรมเวอร์ชั่นนี้ก็ยังถือเป็นเวอร์ฺชั่นที่ผมชอบมากที่สุดอยู่ดี ชอบมากกว่าของพี่เบิร์ด(ฉบับ)ภาพยนตร์ เ้พราะณเดช สามารถทำให้สะเทือนใจกับฉากจบได้ ร้องไห้เลย ในขณะที่ดูฉากจบของฉบับพี่เบิร์ด (โกโบริ) ผมไม่รู้สึกอะไรเลย หรือเป็นเพราะพี่เบิร์ดดูเป็นโกโบริที่นุ่มนวลเกินไป แต่ณเดช คือ ส่วนผสมของทหารญี่ปุ่นที่ีพอดิบพอดี ไม่จืด ไม่เลี่ยน ไม่เข้มเกินไป มีทั้งความเข้มแข็งและอ่อนโยนในตัว เขาเล่นได้ลงตัวและพอดี น้ำเสียง สุขุม แววตา บุคลิกการเดินเหินแบบทหารญี่ปุ่น ก็เพลินตา บ่งบอกว่าเขาทำการบ้านมาอย่างดี ไม่ได้เป็นแฟนคลัีบณเดช เป็นแฟนคลับพี่ติ๊ก ปกติไม่เคยร้องไห้กับการแสดงของนักแสดงชายคนไหน (ครั้งล่าสุดที่ร้องคือ ฉากตายของติ๊กเจษ บทอโณทัย ในเลือดขัตติยา ซึ่งเป็นนิยายทมยันตี เหมือนกัน) แล้วก็มาร้องอีกที กับคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้


ฉากที่ประทับใจส่วนตัว
1. ฉากปล้ำในห้องนอนละครับ ผู้กำกับสื่อออกมานุ่มนวล ไม่ผลีผลาม ดูเป็นเลิฟซีนที่แหวกแนว คือไม่รุนแรงแต่ชอบมากครับ สื่อออกมาแบบนุ่มๆ แบบนี้ ทำให้คนดูรู้สึกว่าโกโบริรักนางเอกแค่ไหน รักจนถึงขั้นกอดเท้าวิงวอนผู้หญิง นี่มันไม่เป็นธรรมดาแล้วนะ 55+ คือทุกเวอร์ชั่น ผมจะรู้สึกตำหนิโกโบริ ตลอดเวลา ว่า ทำไม "รักแล้วยิ้มต้องปล้ำ" แต่กับเวอร์ชั่นณเดช ดูฉากนี้แล้วเรากลับสงสาร เห็นใจ เหมือนเขาแสดงออกกับนางเอกด้วยความรัก จริงๆ เรียกให้นางเอกหันมามอง มาสนใจ แม้สุดท้ายจะลงเอยด้วยการปล้ำเหมือนเดิมก็ตามที แต่หนังทำให้ดูว่า เป็นการสมยอมแบบนี้ ก็เลยลดอคติที่ผมเคยมองว่า โกโบริใช้แต่กำลัง+ทำไม่ถูก ไปได้มากโขเลยครับ...ชอบตอนที่นางเอกชี้นิ้วลงพื้น มันสะท้อนถึงนิสัยลึกๆของอังศุมาลินที่ชอบควบคุมความรู้สึกของโกโบริ ชอบข่มสามีตัวเอง ชอบวางอำนาจ เรียกว่าผู้กำกับสื่อด้วยภาพนะเนี่ย ลึกซึ้ง บางคนดูฉากนี้อาจตลกๆ ขำๆ ว่ามันเล่นจินตะลีลาอะไรกันวะ 55+ แต่ผมชอบครับ มันอาร์ตดีนะครับ แนว

2. และฉากที่เป็นของณเดชๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว เราชอบมากๆๆๆๆๆ

3. ฉากระเบิดสะพาน ทำได้ดี ดูเหมือนจริงและตื่นเต้น แต่ก็ยังไม่ครบในสิ่งที่ใจอยากได้อยู่ดี

4. นักแสดงประกอบเล่นดีครับ คนที่เล่นเป็นแม่ทัพญี่ปุ่น ซึ่งผมประทับใจส่วนตัว ชอบบุคลิกของท่าน ดูมีอำนาจเหมือนทหารจริงๆ เออ...เข้าถึงนะ ทางฝั่งญี่ปุ่น ดูเหมือนจะเล่นได้ดีทุกคน


สิ่งที่ไม่ชอบ
1. หนังไม่ให้ความสำคัญกับวนัสเลย เหมือนแค่เดินผ่านฉากแล้วก็จบ บุึคลิกก็ไม่ประทับใจ เล่นแข็งมาก วนัสผมประทับใจ กัน เดอะสตาร์ครับ ลงตัวครับคนนี้ หน้าตาการแสดงแบบเสรีไทย เท่ห์ๆ มันต้องแบบเขาล่ะ อารมณ์รัก ความรู้สึกร่วม กันทำได้ดีจริงๆ เก่งครับ


ถ้าเลือกได้ อยากให้หนังมีอะไรเพิ่มเติม(อันนี้ไม่ต้องซีเรียส แต่ความอยากส่วนตัว 55+) ถ้าใครคิดจะทำเวอร์ชั่นหน้า ควรเน้นสงครามได้แล้วครับ ไม่งั้นคู่กรรมจะน่าเบื่อ ขาดสีสันเลย เพราะทุกภาคเน้นแต่เรื่องความรักของพระเอกนางเอก รวมทั้งภาคของณเดช ก็ยังเน้นความรัก คนดูเริ่มเอียนแล้วครับ

1. อยากให้มีฉากสงครามมากกว่านี้อีกนิด หนังก็อาร์ตดีแล้ว แต่ว่า อารมณ์ดิบๆ แห้งแล้งๆ แบบหนังสงคราม มันยังไปไม่ถึง ฉากที่น่าจะมี อย่างฉากทหารญี่ปุ่นทำโทษคนไทย ไม่น่าตัดออกเลย นั่นคือจุึดสำคัญในการแสดงความสามารถทางการแสดงของอังศุมาลินเลย (เอ๊ะ! หรือว่าที่ไม่กล้ามีฉากนี้ เพราะริชชี่เล่นไม่ได้)


ผมไม่รู้ว่าริชชี่จะเล่นฉากนี้ได้ไหม เพราะผู้กำกับดันตัดออกซะนี่ เลยทำให้น้องเหมือนถูกลดทอนความสำคัญของบทบาทลง มันอะไรไม่รู้ งุงิ ๆ พูดเพ้ออยู้ได้คนเีดียว ฉากแต่งงาน อึดอัดและรำคาญครับ บอกตรงๆ อังศุมาลินการแสดงต้องดูนิ่ง ดูแข็งจริง แต่ไม่ใช่แข็งบ้าแบบนี้นะครับ แต่ก็เข้าใจริชชี่ ว่าต้องการจะสื่อแบบ "นี่หนูคือความรู้สึกแบบตุ๊กตาหินอ่อนผู้ไร้หััวใจที่รักโกโบริ เป็นยังไง" แต่นี่ โอ้ยๆ อะไรเธอ พยายามจะแบ๊วให้ดูดุ ดูน่ารัก แต่มันไม่ใช่ ไม่ใช่จริงๆ ไม่รู้สึกคล้อยตามเหมือนของหนูนา พี่แหม่ม พี่กวาง ! มีฉากเดียวที่ริชชี่ทำให้ดี คือ ฉากจบ ถือตะเกียงส่องไฟตามหาคนรัก เหมือนน้องจะถูกเคี่ยวมาเยอะแล้ว ประมาณนี้ เลยมาดีเอาตอนท้ายนิดส์นึง ส่วนณเดชนั้น ดีตั้งแต่ต้นจรดปลาย ครบทุกเม็ด เกินบรรยาย อีตาคนนี้!


2. อยากให้มีฉากโจมตีทางอากาศ การรบแบบบูชิโด คาดหวังมาก ตอนแรก ตัวอย่างหนังเหมือนจะน่าดู มีธงรบสีแดง มีขบวนกองทัพอะไรมามากมาย แต่พอดูจริงๆ มันไม่มีแฮะ น่าเสียดาย ผกก. เน้นเรื่องรัก จนขาดอารมณ์ดิบแบบหนังสงครามไป ซึ่งตรงข้่ามกับที่ทมยันตี ออกมาพูดว่า หนังเขาต้องการสื่อ ความพินาศ สงคราม ความสูญเสีย ผกก. ไม่ได้เน้นจุดนี้เลยครับ มีแต่รักๆ มึนๆ งงๆ มุมกล้องเวียนๆ หัว สลับไปมา ของนางเอก และเน้นขายการแสดงของพระเอก!
Facepalm

3. อยากเห็นฉากทีมีในประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 2  อารมณ์แบบนานกิง ดิบๆ ประมาณนี้

4. อยากให้มีฉากสะพานข้ามแม่น้ําแคว ทรมานเชลยศึก อยากให้สะท้อนความโหดร้ายของทหารญี่ปุ่นบ้าง


* ถ้าไม่นับจุดบอดคือ นางเอก คนเดียว หนังถือว่าผ่าน อย่าเสียใจนะ เรื่องหน้ายังมีโอกาสแก้ตัว

โกโบริ เวอร์ชั่น ไม้ปักท้อง ผมให้ 95 คะแนนเลยครับ ตัดความน่ารำคาญของนางเอก ออกไปซะ 5 คะแนน คงไม่ว่ากันนะครับ ^^ คิดว่าทุกคนควรไปดูครับ การแสดงของณเดช เป็นสิ่งที่น่าจดจำ เขาทุ่มเท ถึงไม่ใช่แฟนคลับ แต่เชื่อว่าต้องประทับใจและต้องได้ตุ๊กตาทองแน่นอน เก่งมากๆ ขอชมจ๊ะ

ถ้าเอาความราบเรียบของบทหนัง ผมคิดว่าคนไทยคงไม่ชอบแนวนี้แน่ๆ แต่ต่างประเทศน่าจะขายได้ครับ ด้วยความอาร์ตของหนัง หนังก็ไม่น่าทำเงิน มันไม่เหมือนกับพ่อมากนะ ที่ดูมีสีสัน บทเด่นก็โยนให้นักแสดงทุกตัว แต่คู่กรรมเหมือนเน้นแค่คนๆเ ดียว ซึ่งเหมือนจะ พยุงหนังไปได้ไม่ไกล คนๆ เดียวไม่เพียงพอแล้ว แต่บทต้องแน่นด้วย และนางเอกก็สำคัญ !

แต่้อย่างไร คิดว่าทุกคนควรไปดูในโรงมากกว่าแผ่นนะครับ ไปดูเหอะครับ อารมณ์หนังในโรง ไม่เหมือนแผ่นครับ หนังแบบนี้ เราต้องดูในโรงเท่านั้น อารมณ์มันเข้าถึง สรุปคือผมชอบเหมือนที่ทมยันตีชอบ ก็เลยให้ตั้ง 95 คะแนนแน่ะครับ ^^

ไซบีเรียนฮัสกี้

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่