กระทู้นี้ได้แรงบันดาลใจจาก กระทู้หนึ่งค่ะ
http://ppantip.com/topic/30348849
สืบเนื่องจาก " อาจารย์ " สอนลูกศิษย์แบบนั้น และคนทั่วไปในสังคมไทยก็คิดแบบนั้น ( คงเป็นเพราะ " อาจารย์ " ต่างสอนมาเหมือนๆ กัน 5555+ ) ดิฉันก็เลยสงสัยน่ะค่ะว่า คนเราจำเป็นต้องซื้อบ้านไหม มันควรเป็นความฝันอันสูงสุด หรือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในชีวิตคนไหม เวลาจะประเมินใคร ควรประเมินว่าเค้ามีบ้าน ( และมีรถยนต์ ) อย่างที่ " อาจารย์ " บอกหรือไม่ --- แต่เรื่องรถยนต์ อาจารย์ผิดนะคะ -_-"a
ดิฉันคิดว่า มันอาจจะมีบางกรณี ที่เราไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านก็ได้ และในต่างประเทศ เท่าที่สัมผัสมาบ้าง ก็มีบางคนที่คิดว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านก็ได้ มันแล้วแต่ปัจจัย เช่น สมมติว่าคุณเป็นคนโสดหรือมีครอบครัวเล็ก สมมติว่าต้องย้ายที่ทำงาน สมมติว่าสามารถเก็บเงินไว้ลงทุนเพื่อเพิ่มทรัพย์สินที่เป็นเงินสด และสภาพคล่องในการใช้จ่าย การเช่าบ้านอยู่อาจจะดีกว่า
คนที่ผ่านบ้านหมดภายใน 5 ปี อย่างที่กระทู้นั้นบอก ก็คงมีล่ะค่ะ แต่เอาแบบ " วางแผนได้จริงในทางปฏิบัติ " ก็คง 25-30 ปี เพื่อที่จะได้รู้สึกว่า " นี่ฉันได้มีบ้านแล้วนะ / คนนี้มีบ้านแล้ว ถือว่ามั่นคง ฯลฯ " ตอนอายุ 50 - 60 ปี ชีวิตมันหมดแรงแล้วอ่ะค่ะ ( ถ้าคุณต้องประหยัดมาก ได้เงินมาก็โปะบ้านก่อนเท่านั้น ฯลฯ )
ปล. 1 ดิฉันไม่ได้คิดว่า บ้านเป็นการลงทุนนะคะ บ้านเป็นสินค้าที่เช่าซื้อแล้วได้สินค้ามาใช้ประโยชน์ก่อน แล้วจ่ายค่าสินค้าไปเรื่อยๆ แต่ถ้าซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่า แล้วคุณเองก็ต้องผ่อนมัน สุดท้ายก็จะมีเรื่องของการเสื่อมสภาพ เกิดผู้เช่าทำบ้านเราเลอะเทอะ ก็เสียดายอีก ( ยกเว้นรวยมาก หรือทำเป็นหอพัก นั่นคนละกรณี )
ปล. 2 ถ้าจะ " ประเมิน " ชีวิตของคนจริงๆ ดิฉันว่า ความสำเร็จของคน น่าจะเป็นไปตาม " ดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทย " ที่กระทรวงสาธารณสุข ผลิตออกมามากกว่านะคะ
http://www.dmh.go.th/test/thaihapnew/
ถามจริงๆว่า คนเราจำเป็นต้อง " ซื้อบ้าน " หรือคะ แล้วมันควรเป็นความฝันสูงสุด หรือตัวชี้วัดความสำเร็จไหม
สืบเนื่องจาก " อาจารย์ " สอนลูกศิษย์แบบนั้น และคนทั่วไปในสังคมไทยก็คิดแบบนั้น ( คงเป็นเพราะ " อาจารย์ " ต่างสอนมาเหมือนๆ กัน 5555+ ) ดิฉันก็เลยสงสัยน่ะค่ะว่า คนเราจำเป็นต้องซื้อบ้านไหม มันควรเป็นความฝันอันสูงสุด หรือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในชีวิตคนไหม เวลาจะประเมินใคร ควรประเมินว่าเค้ามีบ้าน ( และมีรถยนต์ ) อย่างที่ " อาจารย์ " บอกหรือไม่ --- แต่เรื่องรถยนต์ อาจารย์ผิดนะคะ -_-"a
ดิฉันคิดว่า มันอาจจะมีบางกรณี ที่เราไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านก็ได้ และในต่างประเทศ เท่าที่สัมผัสมาบ้าง ก็มีบางคนที่คิดว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านก็ได้ มันแล้วแต่ปัจจัย เช่น สมมติว่าคุณเป็นคนโสดหรือมีครอบครัวเล็ก สมมติว่าต้องย้ายที่ทำงาน สมมติว่าสามารถเก็บเงินไว้ลงทุนเพื่อเพิ่มทรัพย์สินที่เป็นเงินสด และสภาพคล่องในการใช้จ่าย การเช่าบ้านอยู่อาจจะดีกว่า
คนที่ผ่านบ้านหมดภายใน 5 ปี อย่างที่กระทู้นั้นบอก ก็คงมีล่ะค่ะ แต่เอาแบบ " วางแผนได้จริงในทางปฏิบัติ " ก็คง 25-30 ปี เพื่อที่จะได้รู้สึกว่า " นี่ฉันได้มีบ้านแล้วนะ / คนนี้มีบ้านแล้ว ถือว่ามั่นคง ฯลฯ " ตอนอายุ 50 - 60 ปี ชีวิตมันหมดแรงแล้วอ่ะค่ะ ( ถ้าคุณต้องประหยัดมาก ได้เงินมาก็โปะบ้านก่อนเท่านั้น ฯลฯ )
ปล. 1 ดิฉันไม่ได้คิดว่า บ้านเป็นการลงทุนนะคะ บ้านเป็นสินค้าที่เช่าซื้อแล้วได้สินค้ามาใช้ประโยชน์ก่อน แล้วจ่ายค่าสินค้าไปเรื่อยๆ แต่ถ้าซื้อบ้านเพื่อปล่อยเช่า แล้วคุณเองก็ต้องผ่อนมัน สุดท้ายก็จะมีเรื่องของการเสื่อมสภาพ เกิดผู้เช่าทำบ้านเราเลอะเทอะ ก็เสียดายอีก ( ยกเว้นรวยมาก หรือทำเป็นหอพัก นั่นคนละกรณี )
ปล. 2 ถ้าจะ " ประเมิน " ชีวิตของคนจริงๆ ดิฉันว่า ความสำเร็จของคน น่าจะเป็นไปตาม " ดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทย " ที่กระทรวงสาธารณสุข ผลิตออกมามากกว่านะคะ http://www.dmh.go.th/test/thaihapnew/