วิปัสสนาภาวนาและสมถภาวนา
วิปัสสนาภาวนา หมายถึง การเจริญปัญญา คือการอบรมสติปัญญาให้รู้แจ้งชัดในสภาวธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงมีการดับทุกข์เป็นเป้าหมาย พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นทางสายเดียวที่จะดับทุกข์ได้
สมถภาวนา หมายถึง การเจริญความสงบมีสมาธิฌาน อภิญญา เป็นเป้าหมาย ไม่มีปัญญาที่จะดับทุกข์ได้ (พระพุทธองค์ตรัสว่าทางนี้ไม่ใช่ทางดับทุกข์)
หลายคนหลายท่านที่ฝึกฝนพัฒนาตนเอง เพื่อให้พ้นจากทุกข์แต่กลับไปเริ่มต้นในการฝึกฝนตนเองโดยสมถภาวนาจนได้ฌานก่อน ถึงฌาน ๔จึงเอาฌาน๔ ไปพิจารณาความหลุดพ้นตามที่พระพุทธองค์ปฏิบัติ และทรงปฏิบัติได้ในที่สุด แต่พวกเราที่เกิดมาภายหลังที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วสองพันห้าร้อยกว่าปี ไปเอาวิธีการปฏิบัติของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติกับตนเอง โดยไม่ได้มองตัวเองให้ดีก่อนว่า เราไม่ใช่พระพุทธเจ้า จะไปปฏิบัติอย่างพระพุทธเจ้าไม่ได้ เราไม่ใช่นกะไปบินอย่างนกไม่ได้ นั่นไม่ใช่วิสัยของเรา การกระทำอย่างนั้น มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทำได้ หรือไม่ก็พระอรหันต์ที่เกิดมาพร้อมพระพุทธเจ้าที่เกิดมาพร้อมพระพุทธเจ้า พระพุธเจ้าช่วยดึงขึ้นจากฌาน ๔ ไปสู่อาสวักขยญาน หรือ ญานแห่งความหลุดพ้น ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าช่วยดึงขึ้นก็ไม่มีผู้ใดดึงตัวเองไปพ้นจากฌาน ๔ ได้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ฌานอภิญญานี้คือตาข่ายดักพรหม ปัจจุบันผู้ปฏิบัติสมถะไปได้แค่พรหม ไปเป็นอริยบุคคลไม่ได้
จากหน้า๑๗ หนังสือตามรอยพระพุทธองค์ กับสินธพ ทรวงแก้ว พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๔๙
วิปัสสนาภาวนาและสมถภาวนา
วิปัสสนาภาวนา หมายถึง การเจริญปัญญา คือการอบรมสติปัญญาให้รู้แจ้งชัดในสภาวธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงมีการดับทุกข์เป็นเป้าหมาย พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นทางสายเดียวที่จะดับทุกข์ได้
สมถภาวนา หมายถึง การเจริญความสงบมีสมาธิฌาน อภิญญา เป็นเป้าหมาย ไม่มีปัญญาที่จะดับทุกข์ได้ (พระพุทธองค์ตรัสว่าทางนี้ไม่ใช่ทางดับทุกข์)
หลายคนหลายท่านที่ฝึกฝนพัฒนาตนเอง เพื่อให้พ้นจากทุกข์แต่กลับไปเริ่มต้นในการฝึกฝนตนเองโดยสมถภาวนาจนได้ฌานก่อน ถึงฌาน ๔จึงเอาฌาน๔ ไปพิจารณาความหลุดพ้นตามที่พระพุทธองค์ปฏิบัติ และทรงปฏิบัติได้ในที่สุด แต่พวกเราที่เกิดมาภายหลังที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วสองพันห้าร้อยกว่าปี ไปเอาวิธีการปฏิบัติของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติกับตนเอง โดยไม่ได้มองตัวเองให้ดีก่อนว่า เราไม่ใช่พระพุทธเจ้า จะไปปฏิบัติอย่างพระพุทธเจ้าไม่ได้ เราไม่ใช่นกะไปบินอย่างนกไม่ได้ นั่นไม่ใช่วิสัยของเรา การกระทำอย่างนั้น มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทำได้ หรือไม่ก็พระอรหันต์ที่เกิดมาพร้อมพระพุทธเจ้าที่เกิดมาพร้อมพระพุทธเจ้า พระพุธเจ้าช่วยดึงขึ้นจากฌาน ๔ ไปสู่อาสวักขยญาน หรือ ญานแห่งความหลุดพ้น ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าช่วยดึงขึ้นก็ไม่มีผู้ใดดึงตัวเองไปพ้นจากฌาน ๔ ได้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ฌานอภิญญานี้คือตาข่ายดักพรหม ปัจจุบันผู้ปฏิบัติสมถะไปได้แค่พรหม ไปเป็นอริยบุคคลไม่ได้
จากหน้า๑๗ หนังสือตามรอยพระพุทธองค์ กับสินธพ ทรวงแก้ว พิมพ์ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๔๙