อมตะธรรม คือ ? ...(อุปริ ม ๑๔/๗๙/๙๑-๙๒)

จากกระทู้ http://ppantip.com/topic/30301690/comment93
คคห 93
อ้าง  อุปริ ม ๑๔/๗๙/๙๑-๙๒   ---- อริยสัจจากพระโอษฐ์ หน้า ๕๐๔  พุทธทาสภิกขุ
********************************************

ดูก่อนอานนท์
อริยสาวกในกรณีนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า

๑ กามทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ (ทิฏฐธรรมนี้) เหล่าใดด้วย   กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า [( เบื้องหน้า คือ อุปปัชชะ - ต่อจากภพปัจจุบัน / ภพ คือ อาการที่ ๑๐ แห่งกระแสปฏิจจสมุปบาทรอบนั้นๆ กำหนด ตาม ๑๑ อาการ ที่จบลง "จึงเกิดขึ้นครบถ้วน (ซึ่ง) ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้]


^^^^
๑ กามทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย   กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า

๒  กามสัญญา ที่เป็นไปในภพปัจจุบัน เหล่าใดด้วย  กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย

๓ รูปทั้งหลาย ที่เป็นไปในภพปัจจุบัน เหล่าใดด้วย  รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย

๔ รูปสัญญา ที่เป็นไปในภพปัจจุบัน เหล่าใดด้วย  รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย

๕ อาเนญชา เหล่าใดด้วย -------------------------- (คือ ?  เทียบดูกับ ข้อที่ ๔  กับ ข้อที่ ๖ และ ๗ กำหนดได้มั๊ยว่า อาเนญชาคือ อะไร?)

๖ อากิญจัญญายตนะสัญญา เหล่าใดด้วย

๗ เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย


ธรรมทั้งหมด 7 หมู่ นั้น ล้วนแต่  เป็น สักกายะ

สักกายะมีประมาณเท่าใด ------------------------------------------------- (ทิฏฐิ  ที่เนื่องกับ สักกายะ 7 = สักกายทิฏฐิ ใช่มั๊ย)

อมตะธรรมนั้น  คือ วิโมกข์แห่งจิต  เพราะไม่ยึดมั่นซึ่ง สักกายะ
(อมตะธรรมจึง) มี ประมาณเท่านั้น

ฯลฯ

*********************************************

ประเด็น
อมตะธรรมนั้น  คือ วิโมกข์แห่งจิต (7 อย่าง)  เพราะไม่ยึดมั่นซึ่ง สักกายะ
(อมตะธรรมจึง) มี ประมาณเท่านั้น ----------------------------------------------- ใช่หรือไม่?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่