ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญคะ ประชาชนอย่างดิฉันอยากจะบอกท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญตามหัวข้อที่ท่านพูดมานะคะ

กระทู้สนทนา
เสียงข้างมากได้รับมอบหมายให้ดูแลประเทศ แต่บางครั้งก็ยึดติดกับอำนาจ ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์ฮิตเลอร์ยังได้เป็นผู้นำที่ได้มาจากการเลือกตั้ง เมื่อชนะการเลือกตั้งได้พรรคพวกมาในสภาก็ได้แก้ไขกฎหมายเพื่อรักษาอำนาจของ ตัวเอง ในที่สุดผู้นำเสียงข้างมากก็นำพาเยอรมันไปสู่หายนะก็คือประเทศเยอรมัน เยอรมันจึงมีศาลรัฐธรรมนูญและมีอำนาจมาก และมีบทบัญญัติพิทักษ์รัฐธรรมนูญสำหรับประชาชน ส่วนของไทยก็คือมาตรา 68 ที่เป็นปัญหาของประเทศไทยที่เป็นอยู่นี้ ซึ่งเราก็เอาของเขามาใช้ ส่วนที่มีคนข้องใจเรื่องการยื่นมาต้องมีการรีบประชุม เพราะคำร้องอันนี้มีคำขอให้คุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินเข้ามาด้วย ก่อนที่พิจารณาถึงคำร้องก็ต้องพิจารณาก่อนว่าจะรับคำร้องหรือไม่ ความถูกต้องกับความถูกใจอาจจะเดินคนละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นศาลไหนเราให้ความเคารพในเสียงข้างมากและรับฟังเสียงข้างน้อย เพราะฉะนั้นคำวิจารณ์ที่บอกว่าลุกลนก็คือเป็นการสู่รู้ บางคนอ้างว่าจบปริญญาเอกทางกฎหมายแต่แกก็ไม่รู้ ต้องให้เกียรติเสียงข้างน้อย บางครั้งเอาเหตุผลเสียงข้างน้อยมาฟังเหตุผลในบางประเด็น ประชาธิปไตยไม่ใช่เอาเสียงข้างมากมาเป็นเกณฑ์ และคนที่คุมกติกาต้องมาจากองค์กรอื่น คนที่มีหน้าที่ตัดสินต้องเป็นคนที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร องค์กรที่ตัดสินคือองค์กรตุลาการ
=================================================
อมยิ้ม23
ตามที่ท่านได้พูดมาว่าศาลไหนเราให้ความเคารพในเสียงข้างมากและรับฟังเสียงข้างน้อย เพราะฉนั้นคำวิจารณ์ที่บอกว่าลุกลนก็คือเป็นการสู่รู้ ต้องให้เกียรติสียงข้างน้อย สงสัยว่าตอนนี้เสียงข้างมากไม่ให้เกียรติเสียงข้างน้อยตรงใหนคะ เสียงข้างน้อยต่างหากที่ไม่ให้เกียรติเสียงข้างมาก
ไม่ยอมและเคารพเสียงข้างมาก  ประชาธิปไตยแบบที่ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญพูดมาที่บอกไม่ใช่เอาเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์แล้วจะให้เสียง
ข้างน้อยเป็นเกณฑ์หรืออย่างไร และคนที่คุมกติกาต้องมาจากองค์กรอื่น อันนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว องค์กรอื่นได้รับการเลือกตั้งมาหรือไม่
แล้วการคัดเลือกเข้ามาหนะท่านคิดว่าจะไม่มีนอกมีในหรือคะหรือมีส่วนได้ส่นเสียหรือคะทำใมประชาชนอย่างดิฉันถึงต้องฟังเสียงข้างน้อยอย่าง
ท่านประธานศาลฯ แล้วทำใมประธานศาลฯกับองค์กรตุลาการศาลทั้งเก้าคน ถึงไม่ยอกที่จะฟังเสียงข้างมากอย่างประชาชนแบบดิฉัน
==================================================
นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าองค์กรตุลาการไม่ได้ยึดโยงประชาชน ก็ถามตรงๆ ว่าเอาเลือกตั้งผู้พิพากษาเลยไหม เห็นว่าประธานศาลฎีกาก็เอาจากสภาฯเห็นชอบ ใครอยากเป็นประธานศาลฎีกาก็โปรดทำตัวเป็นสมุนนักการเมือง ถามว่าต้องการอย่างนั้นหรือไม่ ท่านต้องให้คนกลางมาทำหน้าที่ความรับผิดชอบหน้าที่ทั้งหลาย เมื่อต่างฝ่ายต่างทำอะไรอำเภอใจประเทศก็ไม่สงบ
===================================================
อมยิ้ม07
ท่านบอกว่าอยากให้เลือกตั้งผู้พิพากษาเลยใหม ประชาชนแบบดิฉัน ขอกระซิบบอกว่าอยากให้มีการเลือกตั้งผู้พิพากษามากเลยนะคะแล้วถามว่า
ทุกวันนี้คนกลางหนะกลางจริงหรือไม่ ในเมื่อคนกลางเป็นเสียงส่วนน้อยที่ไม่ยอมรับฟังเหตุผลของเสียงส่วนมาก
====================================================
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเป็นองค์กรตุลาการของศาลคือการต้องมีหลักปฏิบัติเคารพเสียงข้างมาก และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ว่าสองมาตรฐาน คนพูดบางคนยังไม่เข้าใจ คำว่าสองมาตรฐานนั้นคือเรื่องเหมือนกันทุกอย่างแต่ตัดสินไม่เหมือนกัน ทำไมการวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิชา กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นคนละประเด็นใช้กฎหมายตัดสินคนละฉบับแต่ก็ถูกโยงว่า เป็นสองมาตรฐาน ข้อหาคนล่ะอย่างตัดสินไม่เหมือนกันไม่ใช่สองมาตรฐาน คำพูดที่ว่าสองมาตรฐานคือคนที่ไม่เข้าใจ
=====================================================
อมยิ้ม04
สำหรับประชาชนอย่างดิฉันอยากจะบอกท่านประธานศาลฯสักอย่างหนึ่งคือถ้าตอนนั้นท่านตัดสินให้ยุบพรรคทั้งหมด แล้วมาเลือกตั้งกันใหม่
ประชาชนอย่างดิฉันรับได้นะ  ท่านจะมาพูดว่าข้อหาคนละอย่างตัดสินไม่เหมือนกันไม่ใช่สองมาตราฐานแบบนี้มันคานสายตาประชาชน
อย่างดิฉันเป็นอันมากนะคะท่านประธานศาลฯ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่