และแล้ววันแห่งการเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ก็จบลงไปด้วย อาการชวัญหนีดีฝ่อของพนักงานแต่ละคน ก็ใครมันจะไปคิดว่าจะเปิดตัว โหด...เอ้ย...เนียบซะขนาดนี้คงได้เปลื่ยนงานไปตามๆกัน แต่ใครเลยจะขวัญกระเจิงจนกู่แทบจะไม่กลับเท่ากีรดา คิดแล้วก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังหวังว่ายัยนั้นคงจะแยกแยะออกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เฮ้ย.........แล้วท่าทางหยั่งนั้นจะแยกออกหรือว่าเอามารวมกันจนเละก็ไม่รู้ คิดแง่ดีไม่ทันไรความคิดแง่ร้ายก็เริ่มเข้ามาปั่นป่วนหัวใจของกีรดาจนตอนนี้ ทำให้ท้องไส้เริ่มทำงานผิดปกติ เอาน่ะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ตอนนี้ขอไปจัดการกับข้าศึกที่มันไกล้จะพังประตูเมืองได้แล้วก่อนไม่ งั้น.........จะน่ากลัวกว่าอีก.*-*
“ ไปไหนมาค่ะกี เมย์ตามหาซะทั่ว ”
เสียง จากสาวนางหนึ่งเอ่ยเรียกกีรดาอย่างออดอ้อน ทำให้เจ้าตัวถึงกับเดินสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม ก็แห๋มเสียงหวานและอ้อนขนาดนี้ใครได้ยินรับรองท่าทางต้องไม่ต่างอะไรกับเธอ อย่างแน่นอน กีรดาค่อยๆหันหน้ามองเจ้าของเสียง ด้วยสีหน้าซื่อๆ
“ คุณเลขามีอะไรให้ดิฉันรับใช้ค่ะ ”
กีรดาอดแหย่เลขาสาวเสียงอ้อนไม่ได้ คนอะไรน่ารักแถมยังชอบมาล้อเล่นกับเธอบ่อยๆ จนเธออดแซวกลับไปไม่ได้ คนถูกแซวก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าค้อนพร้อมกับใช้มือบางๆทุบไปที่ไหล่ของคนตรง หน้า ปากดีจริงๆนะ กีรดาเป็นอย่างนี้เสมอเป็นกันเองกับคนทุกคน จนทำให้ใครหลายๆคนอดไม่ได้ที่จะแอบชอบ แอบมอง แต่เจ้าตัวไม่รู้หรอก จนเพื่อนๆต่างแซวเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องอื่นฉลาดนัก แต่โง่อยู่เรื่องนี้เรื่องเดียว ซึ่งคำพูดนี้ของเพื่อน เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่เก็บมาใส่ใจหรอก ก็มันไม่เห็นน่าสนใจตรงไหนเลย
“ ว่าแต่ว่าคุณเมย์มีอะไรหรือเปล่าค่ะ ถึงได้ตามหากี ”
กีรดา เปลื่ยนเรื่องเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยหอบของคุณเลขาคนสวย ท่าทางจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่ออกแรงทุบเธอแค่นี้ก็หอบซะแล้ว กีรดาอดคิดไม่ได้
“ ตายจริง!!! ลืมซะสนิทเลย ”
เสียงเลขาสาวอุทานออกมาอย่างเป็นกังวล
“ คุณชวิตราเรียกกีไปพบอะค่ะ ด่วนม๊ากมากนะค่ะ ”
กีรดายืนตัวแข็งจนเลขาต้องย้ำอีกที โอ..........ความจริงที่อีกไม่กี่ก้าวเธอก็จะได้พบ ยัยนั้นจะทำอะไรเธอนะ หากเธอเข้าไปเธอจะรอดออกมามั้ยนะ หรือว่า.........
“ ฉันไล่เธอออกกกกกกกกกก ”
กีรดาส่ายหัวไปมา ไม่จริง ไม่จริง อย่างคิดมากไม่มีอะไรน่ากลัว บางทียัยนั้นอาจจะพูดว่า...........
“ คืนก่อนฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะ คุณคงเมาแย่เลย ”
ใช่ๆ น่าจะเป็นอย่างนี้ดีที่สุด โอ้ววววว........ความคิดกีรดาต้องมาสิ้นสุดที่หน้าประตู้ห้องผู้บริหารระดับ สูง เธอจ้องมองดูประตูอยู่นาน ลังเลว่าเมื่อเข้าไปคำแรกที่เธอจะทักควรเป็นอะไรดี “ สวัสดีค่ะเจอกันอีกแล้ว ” พูดจบก็ยิ้ม แต่ความคิดนี้ตัดไปได้เลย เพราะแจกันที่วางเด่นบนโต๊ะคงจะเปลื่ยนที่วางมาเป็นหัวเธอเป็นแน่ จะทักอะไรดีน้า..........คิดดดดดด
แต่แล้วกีรดาก็ต้องตกใจ เมื่อจู่ๆก็มีมือใครบางคนมาจัดการเคาะและเปิดประตูให้เธอ และเมื่อหันไปก็พบว่าเป็นแม่เลขาคนสวยนี่เอง ดูเด้.....ยืนยิ้มอยู่ได้ใครใช้ให้เธอมาช่วยเปิดประตูห๊าๆๆๆๆๆ ~ ~ ได้แต่คิดเมื่อริมฝีปากของเธอกลับส่งยิ้มตอบกลับไปให้ แต่คุณเลขาสาวกลับทำหน้าหัวเราะเป็นการใหญ่ ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ยังไง รอยยิ้มแบบเห่ยๆอย่างนี้นานๆทีถึงจะได้เห็น แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ^-^
“ อะไรนะยังไม่เรียบร้อยอีกเหรอ ทำงานกันภาษาอะไร ฉันบอกกี่ครั้งแล้วให้ดูให้ดี พลาดจนได้เห็นมั้ย จะทำไงกับพวกเธอดีนะ เตรียมตัวหางานใหม่เลยนะ ถ้าฉันกลับไปถึง ”
คำสนทนาทุกคำช่างน่ากลัวและบ่งบอกได้ถึงความเป็นตัวของตัวเองของผู้พูด และตอนนี้กีรดาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ไม่น่าเลยฉันนนน เข้ามาตอนแม่คุณอารมณ์เสียไม่ตายตั้งแต่จะอ้าปากเลยเหรอ ฮื่อๆๆๆๆ
“ เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู มารยาทน่ะหัดมีบ้างนะ ”
ชวิตราสะบัดน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างแรง เธอไม่ชอบคนที่ไม่รู้จักเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ยิ่งถ้ามาทำกับเธอแล้วด้วย มันต้องได้เห็นดีกัน
“ เออ.....เออ.... ”
ชวิตราหันหน้าไปมองคนที่ยืนตรงหน้า โถ นึกว่าใครที่แท้ก็...........อึม...........เธอค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆกีรดา อย่างช้าๆ ท่าทางคงกลัวเธอน่า
ดูเลย ดูสิตัวสั่นอย่างกับลูกหมาตกน้ำ หึ หึ น่าสงสาร รอยยิ้มค่อยๆปรากฏบนใบหน้าของชวิตรา แปลกจังทำไมจู่ๆอารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอกลับกลายมาเป็นอารมณ์ดีอย่างนี้นะ ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย แต่ก็ข่างเถอะอาจจะเป็นไปได้ว่าตอนนี้เธอมีที่ระบายอารมณ์แบบเป็นๆอยู่ตรง หน้าจะไม่ให้เธออารมณ์ดีได้ยังไง ^-^ 555 เธอตายแน่กีรดา...........
“ ฉันถามก็ตอบมาสิ ชักช้าเสียเวลา ”
ชวิตราเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของกีรดาแบบระยะประชิด ดี กลัวเข้าไปหัวใจวายไปเลยยิ่งดี เธอค่อยๆขยับใบหน้าเข้ามาใกล้คนตรงหน้าที่ยืนตัวสั่นอย่างช้าๆ แต่จู่ๆเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อกีรดา รวบรวมความกล้าหันหน้ากลับมา ใบหน้าทั้งสองประจันหน้ากันอย่างไม่ทันตั้งตัว จมูกได้รูปสัมผัสกันจนทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนตรงหน้าได้อย่าง ชัดเจน กีรดาถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะจะขยับตัวก็กลัวว่าจะพาให้คนตรงหน้าล้มไป ด้วยกับตัวเอง จะทำยังไงดีน้า...กีรดา ~ ~
ฝ่ายชวิตราได้แต่ยืนนิ่ง อึ้ง จากที่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อ แต่ตอนนี้ความรู้สึกกลับกันอย่างสิ้นเชิง ทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกว่าแทบจะควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ มันเหมือนมีแรงดึงดูดให้ร่างกายของเธอค่อยๆเคลื่ยนที่เข้าหากีรดาอย่างช้าๆ หัวใจที่เริ่มสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ ส่งผลให้การหายใจของร่างกายเข้าออกถี่มากขึ้นเรื่อยๆ นี่เธอเป็นอะไรของเธอนะชวิตราคิด
“ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ”
กีรดาตัดสินใจถามออกไปเพราะรู้สึกว่าช่วงเวลานี้มันชักจะนานเกินไปแล้ว และถ้าปล่อยให้เวลานานกว่านี้เธอมีหวังโดนหมัดตรงจากคนตรงหน้าแน่นอน ฮ่าฮ่า เอาตัวรอดทักก่อนดีกว่าเรา กีรดาคิด - -
เสียงของคนตรงหน้าเรียกสติ ของชวิตรากลับคืนมาได้เป็นอย่างดี และแล้วสิ่งที่กีรดาคิดว่าป้องกันไว้แล้วกลับเกิดขึ้นมา แต่ผิดอยู่นิดเดียวไม่ใช้หมัดตรงแต่เป็นการตบที่เรียกได้ว่าทั้งเสียงดังและ ยังทิ้งรอยประทับไว้ครบทุกนิ้วอีกด้วย
“ เธอกล้ามากนะ ”
ชวิตราส่งสายตาพิฆาตมายังกีรดา เจอยัยนี่ทีไร...โดน.....เอ่อ.....โดน โดนจูบทุกที แถมยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์และร่างกายตัวเองได้อีก ยัยนี่ทำอะไรกับเธอนะ คอยดูนะวันนี้แหละเธอจะเล่นงานคนตรงหน้าให้สาสมเลย
กีรดาได้แต่ทำหน้า งง เป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรให้แม่คุณถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ สงสัยที่เธอเข้ามาผิดเวลาคงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องน่ากลัวนี้เกิดขึ้น แล้วฉันจะตกงานนนนน มั้ยเนื่ย....
ก๊อกๆ .............เสียงสวรรค์กีรดาคิด เธอเริ่มหายใจคล่องมากยิ่งขึ้นเมื่อจู่ก็มีคนที่สามเข้ามาในห้อง ดีจังความรู้สึกนี้ ดีกว่าอยู่กับยัยนี่สองต่อสองเธอรู้สึกอึดอัดยังไงพิกล แต่เอ๊ะใครหว่า? ไม่เห็นคุ้นเลย ผู้ชายตัวสูง ขาว แต่งตัวเนียบ ดูดีไปทุกระเบียบนิ้ว สงสัยเป็นแฟนกับผู้บริหารคนใหม่ของเธอ ดีหล่ะ เธอจะได้อ้างว่ามีแขกมาขอตัวออกไปก่อน อิอิ ฉลาดจริงๆเลยกีรดา ^-^
“ เอ่อ....ถ้าคุณชวิตรามีแขกฉันขอตัวก่อนนะค่ะ ”
กีรดาพูดโดยที่ไม่มองแม้แต่หน้าคนฟัง หากเธอสังเกตุสักนิดก็จะพบใบหน้าที่บึ้งตึงยิ่งกว่าเก่าแถมใบหน้านั้นยังไม่ มีแม้แต่รอยยิ้มต้อนรับผู้มาใหม่ด้วยซ้ำ แต่มีหรือที่ชวิตราจะปล่อยให้กีรดาออกไปเธอไม่อยากอยู่กับผู้ชายคนนี้ตาม ลำพัง ไม่อยากแม้แต่จะพูดคุยแต่หากไม่ใช่เพราะงานไอ้หมอนี่ไม่มีทางจะได้เข้าพบเธอ อย่างแน่นอน ชวิตราคว้ามือของคนที่กำลังจะออกไปอย่างรวดเร็วและดึงให้มานั่งกับเธอจะว่า ให้กีรดาเป็นไม้กันหมาก็คงว่าได้
ฝ่ายกีรดาก็ไม่รู้จะทำไง เธอจึงยอมให้ชวิตราดึงไปได้อย่างง่ายดาย
“ สวัสดีครับวิ ”
ชายหนุ่มเอ่ยทักออกมาอย่างคุ้นเคยแต่สีหน้าและท่าทางของชวิตรากลับบ่งบอกว่าฉันไปทันสนิทสนมกับอีตานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ
“ ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่ ”
การทักทายที่ดูตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งทักทายอย่างดูคุ้นเคยเป็นที่สุด แต่อีกคนกลับตอบอย่างห่างเหินที่สุด ทำให้กีรดาอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็ต้องรีบก้มหน้าลงเพราะสายตาของคนข้างๆ ที่เหมือนกับเป็นการห้ามให้หยุดความคิดทั้งหมดลงเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะโดนดี
“ แหมๆ วิก็คนรักกันต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะมาหากันได้ ”
ชายหนุ่มยังไม่หยุดที่จะแสดงความสนิทสนม ที่เขาพูดก็ความจริงจากใจทั้งนั้น เขารักชวิตราตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ผู้หญิงคนนี้จะหันมามองเขา แต่ไม่ว่ายังไงหากชวิตรายังไม่มีเจ้าของ เขาก็ยังมีสิทธิ์ และเขาก็จะทำทุกอย่างให้ได้ชวิตรามา เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมาเขาพบคนมากหน้าหลายตาแต่ก็ไม่เคยที่จะเจอคนที่สวย เก่ง และที่สำคัญถูกใจเขาไปซะหมดอย่างชวิตรา มีหรือที่คนอย่างนพรุจคนนี้จะปล่อยไปง่ายๆ
“ พูดให้ดีหน่อยนะค่ะ ใครรักกับใคร ”
ชวิตราหน้าเสียทันที เธออุตสาห์แสดงให้คนตรงหน้ารู้ชัดเจนเลยว่าเธอคิดอะไรแต่ทำไมนะ อีตานี่ถึงได้ไม่ยอมจะเข้าใจอะไรเลย เฮ้ย.......น่าเบื่อที่สุด
ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆเพราะไม่รู้จะตอบโต้กับคน(แอบ)รักตรงหน้ายังไง
“ แล้วนี่ใครเอ่ย ”
นพรุจพึ่งจะสังเกตุว่านอกจากชวิตราแล้วยังมีคนอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ แถมน่าตาน่ารักน่าแอนดูไม่ใช่ จนทำให้เขาอดแอบชำเลืองมองอยู่บ่อยๆ แล้วมีหรือที่คนอย่างชวิตราจะดูไม่ออกว่าคนตรงหน้าคิดอย่างไร
“ นี่คุณกีรดา ”
ชวิตราแนะนำกีรดาให้นพรุจรู้จัก นี่ล่ะน้าผู้ชายเห็นผู้หญิงน่ารักๆหน่อยก็อดใจไม่ได้ เชอะ.....แต่เอ...นี่ฉันชมยัยนี่ว่าน่ารักเหรอเนื่ย...เหอะๆๆ
นพรุจยื่นมือออกๆไปทักทายกีรดาตามแบบฉบับของเขาแต่ฝ่ายกีรดายกมือไหว้แทน การจับมือ ก็เธอเป็นคนไทยการไหว้จึงเป็นสิ่งที่เหมาะแก่การทักทายมากที่สุด ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้นพรุจถึงกับหน้าถอดสี รีบดึงมือกลับมารับไหว้แทน การกระทำโดยไม่ได้คิดอะไรของกีรดากลับทำให้ชวิตราแอบอมยิ้มไม่ได้ ยัยนี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ^-^ ชวิตราคิด
“ เย็นนี้ผมมารับไปทานข้าวนะครับ อ้อ...อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ผมขอร้อง ”
ชายหนุ่มส่งสายตาวิงวอนอย่างสุดซึ้งให้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า จนชวิตราเกือบเคลิ้มอยาก....อยากเอานิ้วไปจิ้มตาซะให้เข็ด น่ารำคาญชะมัด แต่จะปฏิเสธยังไงดีนะให้อีตานี่รู้ตัวซะทีว่าเธอ เบื่อ เบื่อ เบื่อที่สุดแล้วที่จะต้องถูกตอกแยแบบไม่เต็มใจ
“ ฉันมีนัดแล้ว ไม่ว่าง ”
ชวิตราตอบออกมาเพื่อจะปัดๆไป ทั้งที่จริงแล้วเธอจะมีนัดไปยังไง อยู่ที่นี่ไม่รู้จักใครเลยถ้าจะได้ทานข้าวก็คงต้องทานคนเดียว แต่หากจะต้องทานกับผู้ชายตรงหน้าเธอขอเลือกกินข้าวคนเดียวดีกว่า
นพรุจทำหน้าแปลกใจ เท่าที่เขารู้มาชวิตราไม่น่าจะรู้จักกับใคร เพราะเธอพึ่งย้ายเขามารับตำแหน่ง แต่เอ...........หรือมีอะไรมากกว่าที่เขารู้
“ ใคร...คุณไปทานกับใคร ”
เสียงของชายหนุ่มที่เคยฟังดูสุภาพกลับกลายเป็นดุดัน ตอนนี้เขารู้สึกร้อนใจเป็นที่สุด อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันนะที่บังอาจมาตัดหน้าเขา อยากรู้เหลือเกิน ใคร ใคร..........เขาแค้นใจนัก
ชวิตรานิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วเธอจะไปกินกับใครดีนะ มาถึงที่นี่ยังไม่เคยได้รู้จักใครเลย........จริงสิ
“ นี่ไงค่ะ ”
ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri ตอนที่ 3 คนกลาง
“ ไปไหนมาค่ะกี เมย์ตามหาซะทั่ว ”
เสียง จากสาวนางหนึ่งเอ่ยเรียกกีรดาอย่างออดอ้อน ทำให้เจ้าตัวถึงกับเดินสะดุดขาตัวเองเกือบล้ม ก็แห๋มเสียงหวานและอ้อนขนาดนี้ใครได้ยินรับรองท่าทางต้องไม่ต่างอะไรกับเธอ อย่างแน่นอน กีรดาค่อยๆหันหน้ามองเจ้าของเสียง ด้วยสีหน้าซื่อๆ
“ คุณเลขามีอะไรให้ดิฉันรับใช้ค่ะ ”
กีรดาอดแหย่เลขาสาวเสียงอ้อนไม่ได้ คนอะไรน่ารักแถมยังชอบมาล้อเล่นกับเธอบ่อยๆ จนเธออดแซวกลับไปไม่ได้ คนถูกแซวก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าค้อนพร้อมกับใช้มือบางๆทุบไปที่ไหล่ของคนตรง หน้า ปากดีจริงๆนะ กีรดาเป็นอย่างนี้เสมอเป็นกันเองกับคนทุกคน จนทำให้ใครหลายๆคนอดไม่ได้ที่จะแอบชอบ แอบมอง แต่เจ้าตัวไม่รู้หรอก จนเพื่อนๆต่างแซวเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องอื่นฉลาดนัก แต่โง่อยู่เรื่องนี้เรื่องเดียว ซึ่งคำพูดนี้ของเพื่อน เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่เก็บมาใส่ใจหรอก ก็มันไม่เห็นน่าสนใจตรงไหนเลย
“ ว่าแต่ว่าคุณเมย์มีอะไรหรือเปล่าค่ะ ถึงได้ตามหากี ”
กีรดา เปลื่ยนเรื่องเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยหอบของคุณเลขาคนสวย ท่าทางจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่ออกแรงทุบเธอแค่นี้ก็หอบซะแล้ว กีรดาอดคิดไม่ได้
“ ตายจริง!!! ลืมซะสนิทเลย ”
เสียงเลขาสาวอุทานออกมาอย่างเป็นกังวล
“ คุณชวิตราเรียกกีไปพบอะค่ะ ด่วนม๊ากมากนะค่ะ ”
กีรดายืนตัวแข็งจนเลขาต้องย้ำอีกที โอ..........ความจริงที่อีกไม่กี่ก้าวเธอก็จะได้พบ ยัยนั้นจะทำอะไรเธอนะ หากเธอเข้าไปเธอจะรอดออกมามั้ยนะ หรือว่า.........
“ ฉันไล่เธอออกกกกกกกกกก ”
กีรดาส่ายหัวไปมา ไม่จริง ไม่จริง อย่างคิดมากไม่มีอะไรน่ากลัว บางทียัยนั้นอาจจะพูดว่า...........
“ คืนก่อนฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะ คุณคงเมาแย่เลย ”
ใช่ๆ น่าจะเป็นอย่างนี้ดีที่สุด โอ้ววววว........ความคิดกีรดาต้องมาสิ้นสุดที่หน้าประตู้ห้องผู้บริหารระดับ สูง เธอจ้องมองดูประตูอยู่นาน ลังเลว่าเมื่อเข้าไปคำแรกที่เธอจะทักควรเป็นอะไรดี “ สวัสดีค่ะเจอกันอีกแล้ว ” พูดจบก็ยิ้ม แต่ความคิดนี้ตัดไปได้เลย เพราะแจกันที่วางเด่นบนโต๊ะคงจะเปลื่ยนที่วางมาเป็นหัวเธอเป็นแน่ จะทักอะไรดีน้า..........คิดดดดดด
แต่แล้วกีรดาก็ต้องตกใจ เมื่อจู่ๆก็มีมือใครบางคนมาจัดการเคาะและเปิดประตูให้เธอ และเมื่อหันไปก็พบว่าเป็นแม่เลขาคนสวยนี่เอง ดูเด้.....ยืนยิ้มอยู่ได้ใครใช้ให้เธอมาช่วยเปิดประตูห๊าๆๆๆๆๆ ~ ~ ได้แต่คิดเมื่อริมฝีปากของเธอกลับส่งยิ้มตอบกลับไปให้ แต่คุณเลขาสาวกลับทำหน้าหัวเราะเป็นการใหญ่ ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ยังไง รอยยิ้มแบบเห่ยๆอย่างนี้นานๆทีถึงจะได้เห็น แต่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ^-^
“ อะไรนะยังไม่เรียบร้อยอีกเหรอ ทำงานกันภาษาอะไร ฉันบอกกี่ครั้งแล้วให้ดูให้ดี พลาดจนได้เห็นมั้ย จะทำไงกับพวกเธอดีนะ เตรียมตัวหางานใหม่เลยนะ ถ้าฉันกลับไปถึง ”
คำสนทนาทุกคำช่างน่ากลัวและบ่งบอกได้ถึงความเป็นตัวของตัวเองของผู้พูด และตอนนี้กีรดาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ไม่น่าเลยฉันนนน เข้ามาตอนแม่คุณอารมณ์เสียไม่ตายตั้งแต่จะอ้าปากเลยเหรอ ฮื่อๆๆๆๆ
“ เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู มารยาทน่ะหัดมีบ้างนะ ”
ชวิตราสะบัดน้ำเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างแรง เธอไม่ชอบคนที่ไม่รู้จักเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ยิ่งถ้ามาทำกับเธอแล้วด้วย มันต้องได้เห็นดีกัน
“ เออ.....เออ.... ”
ชวิตราหันหน้าไปมองคนที่ยืนตรงหน้า โถ นึกว่าใครที่แท้ก็...........อึม...........เธอค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆกีรดา อย่างช้าๆ ท่าทางคงกลัวเธอน่า
ดูเลย ดูสิตัวสั่นอย่างกับลูกหมาตกน้ำ หึ หึ น่าสงสาร รอยยิ้มค่อยๆปรากฏบนใบหน้าของชวิตรา แปลกจังทำไมจู่ๆอารมณ์ที่ขุ่นมัวของเธอกลับกลายมาเป็นอารมณ์ดีอย่างนี้นะ ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย แต่ก็ข่างเถอะอาจจะเป็นไปได้ว่าตอนนี้เธอมีที่ระบายอารมณ์แบบเป็นๆอยู่ตรง หน้าจะไม่ให้เธออารมณ์ดีได้ยังไง ^-^ 555 เธอตายแน่กีรดา...........
“ ฉันถามก็ตอบมาสิ ชักช้าเสียเวลา ”
ชวิตราเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของกีรดาแบบระยะประชิด ดี กลัวเข้าไปหัวใจวายไปเลยยิ่งดี เธอค่อยๆขยับใบหน้าเข้ามาใกล้คนตรงหน้าที่ยืนตัวสั่นอย่างช้าๆ แต่จู่ๆเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อกีรดา รวบรวมความกล้าหันหน้ากลับมา ใบหน้าทั้งสองประจันหน้ากันอย่างไม่ทันตั้งตัว จมูกได้รูปสัมผัสกันจนทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนตรงหน้าได้อย่าง ชัดเจน กีรดาถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะจะขยับตัวก็กลัวว่าจะพาให้คนตรงหน้าล้มไป ด้วยกับตัวเอง จะทำยังไงดีน้า...กีรดา ~ ~
ฝ่ายชวิตราได้แต่ยืนนิ่ง อึ้ง จากที่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อ แต่ตอนนี้ความรู้สึกกลับกันอย่างสิ้นเชิง ทำไมตอนนี้เธอถึงรู้สึกว่าแทบจะควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ มันเหมือนมีแรงดึงดูดให้ร่างกายของเธอค่อยๆเคลื่ยนที่เข้าหากีรดาอย่างช้าๆ หัวใจที่เริ่มสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ ส่งผลให้การหายใจของร่างกายเข้าออกถี่มากขึ้นเรื่อยๆ นี่เธอเป็นอะไรของเธอนะชวิตราคิด
“ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ”
กีรดาตัดสินใจถามออกไปเพราะรู้สึกว่าช่วงเวลานี้มันชักจะนานเกินไปแล้ว และถ้าปล่อยให้เวลานานกว่านี้เธอมีหวังโดนหมัดตรงจากคนตรงหน้าแน่นอน ฮ่าฮ่า เอาตัวรอดทักก่อนดีกว่าเรา กีรดาคิด - -
เสียงของคนตรงหน้าเรียกสติ ของชวิตรากลับคืนมาได้เป็นอย่างดี และแล้วสิ่งที่กีรดาคิดว่าป้องกันไว้แล้วกลับเกิดขึ้นมา แต่ผิดอยู่นิดเดียวไม่ใช้หมัดตรงแต่เป็นการตบที่เรียกได้ว่าทั้งเสียงดังและ ยังทิ้งรอยประทับไว้ครบทุกนิ้วอีกด้วย
“ เธอกล้ามากนะ ”
ชวิตราส่งสายตาพิฆาตมายังกีรดา เจอยัยนี่ทีไร...โดน.....เอ่อ.....โดน โดนจูบทุกที แถมยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์และร่างกายตัวเองได้อีก ยัยนี่ทำอะไรกับเธอนะ คอยดูนะวันนี้แหละเธอจะเล่นงานคนตรงหน้าให้สาสมเลย
กีรดาได้แต่ทำหน้า งง เป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำอะไรให้แม่คุณถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ สงสัยที่เธอเข้ามาผิดเวลาคงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องน่ากลัวนี้เกิดขึ้น แล้วฉันจะตกงานนนนน มั้ยเนื่ย....
ก๊อกๆ .............เสียงสวรรค์กีรดาคิด เธอเริ่มหายใจคล่องมากยิ่งขึ้นเมื่อจู่ก็มีคนที่สามเข้ามาในห้อง ดีจังความรู้สึกนี้ ดีกว่าอยู่กับยัยนี่สองต่อสองเธอรู้สึกอึดอัดยังไงพิกล แต่เอ๊ะใครหว่า? ไม่เห็นคุ้นเลย ผู้ชายตัวสูง ขาว แต่งตัวเนียบ ดูดีไปทุกระเบียบนิ้ว สงสัยเป็นแฟนกับผู้บริหารคนใหม่ของเธอ ดีหล่ะ เธอจะได้อ้างว่ามีแขกมาขอตัวออกไปก่อน อิอิ ฉลาดจริงๆเลยกีรดา ^-^
“ เอ่อ....ถ้าคุณชวิตรามีแขกฉันขอตัวก่อนนะค่ะ ”
กีรดาพูดโดยที่ไม่มองแม้แต่หน้าคนฟัง หากเธอสังเกตุสักนิดก็จะพบใบหน้าที่บึ้งตึงยิ่งกว่าเก่าแถมใบหน้านั้นยังไม่ มีแม้แต่รอยยิ้มต้อนรับผู้มาใหม่ด้วยซ้ำ แต่มีหรือที่ชวิตราจะปล่อยให้กีรดาออกไปเธอไม่อยากอยู่กับผู้ชายคนนี้ตาม ลำพัง ไม่อยากแม้แต่จะพูดคุยแต่หากไม่ใช่เพราะงานไอ้หมอนี่ไม่มีทางจะได้เข้าพบเธอ อย่างแน่นอน ชวิตราคว้ามือของคนที่กำลังจะออกไปอย่างรวดเร็วและดึงให้มานั่งกับเธอจะว่า ให้กีรดาเป็นไม้กันหมาก็คงว่าได้
ฝ่ายกีรดาก็ไม่รู้จะทำไง เธอจึงยอมให้ชวิตราดึงไปได้อย่างง่ายดาย
“ สวัสดีครับวิ ”
ชายหนุ่มเอ่ยทักออกมาอย่างคุ้นเคยแต่สีหน้าและท่าทางของชวิตรากลับบ่งบอกว่าฉันไปทันสนิทสนมกับอีตานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ
“ ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่ ”
การทักทายที่ดูตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งทักทายอย่างดูคุ้นเคยเป็นที่สุด แต่อีกคนกลับตอบอย่างห่างเหินที่สุด ทำให้กีรดาอดสงสัยไม่ได้ แต่ก็ต้องรีบก้มหน้าลงเพราะสายตาของคนข้างๆ ที่เหมือนกับเป็นการห้ามให้หยุดความคิดทั้งหมดลงเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะโดนดี
“ แหมๆ วิก็คนรักกันต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะมาหากันได้ ”
ชายหนุ่มยังไม่หยุดที่จะแสดงความสนิทสนม ที่เขาพูดก็ความจริงจากใจทั้งนั้น เขารักชวิตราตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ผู้หญิงคนนี้จะหันมามองเขา แต่ไม่ว่ายังไงหากชวิตรายังไม่มีเจ้าของ เขาก็ยังมีสิทธิ์ และเขาก็จะทำทุกอย่างให้ได้ชวิตรามา เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมาเขาพบคนมากหน้าหลายตาแต่ก็ไม่เคยที่จะเจอคนที่สวย เก่ง และที่สำคัญถูกใจเขาไปซะหมดอย่างชวิตรา มีหรือที่คนอย่างนพรุจคนนี้จะปล่อยไปง่ายๆ
“ พูดให้ดีหน่อยนะค่ะ ใครรักกับใคร ”
ชวิตราหน้าเสียทันที เธออุตสาห์แสดงให้คนตรงหน้ารู้ชัดเจนเลยว่าเธอคิดอะไรแต่ทำไมนะ อีตานี่ถึงได้ไม่ยอมจะเข้าใจอะไรเลย เฮ้ย.......น่าเบื่อที่สุด
ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆเพราะไม่รู้จะตอบโต้กับคน(แอบ)รักตรงหน้ายังไง
“ แล้วนี่ใครเอ่ย ”
นพรุจพึ่งจะสังเกตุว่านอกจากชวิตราแล้วยังมีคนอีกคนนั่งอยู่ข้างๆ แถมน่าตาน่ารักน่าแอนดูไม่ใช่ จนทำให้เขาอดแอบชำเลืองมองอยู่บ่อยๆ แล้วมีหรือที่คนอย่างชวิตราจะดูไม่ออกว่าคนตรงหน้าคิดอย่างไร
“ นี่คุณกีรดา ”
ชวิตราแนะนำกีรดาให้นพรุจรู้จัก นี่ล่ะน้าผู้ชายเห็นผู้หญิงน่ารักๆหน่อยก็อดใจไม่ได้ เชอะ.....แต่เอ...นี่ฉันชมยัยนี่ว่าน่ารักเหรอเนื่ย...เหอะๆๆ
นพรุจยื่นมือออกๆไปทักทายกีรดาตามแบบฉบับของเขาแต่ฝ่ายกีรดายกมือไหว้แทน การจับมือ ก็เธอเป็นคนไทยการไหว้จึงเป็นสิ่งที่เหมาะแก่การทักทายมากที่สุด ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้นพรุจถึงกับหน้าถอดสี รีบดึงมือกลับมารับไหว้แทน การกระทำโดยไม่ได้คิดอะไรของกีรดากลับทำให้ชวิตราแอบอมยิ้มไม่ได้ ยัยนี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ^-^ ชวิตราคิด
“ เย็นนี้ผมมารับไปทานข้าวนะครับ อ้อ...อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ผมขอร้อง ”
ชายหนุ่มส่งสายตาวิงวอนอย่างสุดซึ้งให้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า จนชวิตราเกือบเคลิ้มอยาก....อยากเอานิ้วไปจิ้มตาซะให้เข็ด น่ารำคาญชะมัด แต่จะปฏิเสธยังไงดีนะให้อีตานี่รู้ตัวซะทีว่าเธอ เบื่อ เบื่อ เบื่อที่สุดแล้วที่จะต้องถูกตอกแยแบบไม่เต็มใจ
“ ฉันมีนัดแล้ว ไม่ว่าง ”
ชวิตราตอบออกมาเพื่อจะปัดๆไป ทั้งที่จริงแล้วเธอจะมีนัดไปยังไง อยู่ที่นี่ไม่รู้จักใครเลยถ้าจะได้ทานข้าวก็คงต้องทานคนเดียว แต่หากจะต้องทานกับผู้ชายตรงหน้าเธอขอเลือกกินข้าวคนเดียวดีกว่า
นพรุจทำหน้าแปลกใจ เท่าที่เขารู้มาชวิตราไม่น่าจะรู้จักกับใคร เพราะเธอพึ่งย้ายเขามารับตำแหน่ง แต่เอ...........หรือมีอะไรมากกว่าที่เขารู้
“ ใคร...คุณไปทานกับใคร ”
เสียงของชายหนุ่มที่เคยฟังดูสุภาพกลับกลายเป็นดุดัน ตอนนี้เขารู้สึกร้อนใจเป็นที่สุด อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันนะที่บังอาจมาตัดหน้าเขา อยากรู้เหลือเกิน ใคร ใคร..........เขาแค้นใจนัก
ชวิตรานิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วเธอจะไปกินกับใครดีนะ มาถึงที่นี่ยังไม่เคยได้รู้จักใครเลย........จริงสิ
“ นี่ไงค่ะ ”