จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา: ตอนที่ 37 เมรัยมายา (ครึ่งแรก)

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 36: วายุและอัคคี (ส่วนปลาย 3/3) http://ppantip.com/topic/30286787

คุยกันก่อนนะคะ

คุณ ซาลาสซา: หัสรังสียังมีทีเด็ดอีกเยอะ ไว้หลังๆ นะคะ

คุณ kiikifon: มาต่อให้แล้วนะคะ ^^

คุณ Psycho man: สักพักก็จะรู้ว่าไผเป็นไผแล้วค่ะ

คุณ ลูนาติก: นั่นสิคะ

คุณ Cool_blue: ไม่ได้คุยกันนานเลย สำหรับพาฬปักษ์มีบทต่ออย่างไรแน่ รออ่านหลังๆ นะคะ (ดูมันโยนไปหลังๆ หมดเลย)

คุณ น้องอัญญ์:  จ้า ยังไม่เก็บจ้า ^^

และ ขอขอบคุณผู้ให้ Give นะคะ:

คุณ Phoenixorus, คุณ zoi, คุณ ลูนาติก, คุณ Psycho man, คุณ ซาลาสซา (ให้ทุกตอนอีกแล้ว ขอบคุณมากๆ ค่ะ)  และคุณ ชัดเจนน้องนางค่ะ (มาแอบให้ท้ายบท)


ความเดิมจากตอนที่แล้ว

อารมันขัดขวางทหารฝ่ายตะวันออกไม่ให้ทำร้ายพาฬปักษ์ หัสรังสีจึงชี้แจงว่าหากไม่สังหารมันตอนนี้ มันจะผูกใจเจ็บและตามล่าอารมันในภายหลัง หากเทพเวนไตยกลับบอกว่าเขายินดีจะรับภาระทั้งหมดนั้้นไว้ที่ตนเอง จนในที่สุดฝ่ายเทพตะวันออกจึงยอมถอยพร้อมทั้งไม่เอาความใดๆ กับเมธิน






37. เมรัยมายา (ครึ่งแรก)


บุษบรรณชะงักฝีเท้าทันทีที่อารมันเปิดประตูโรงปักษาวลาหก เพราะภายในนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เสียงเฮดังลั่นทันทีเมื่ออารมันผลักประตูเข้ามาเพราะดูเหมือนว่าผู้ที่คอยอยู่ในโรงปักษากำลังพนันขันแข่งกันว่าอารมันจะสามารถรอดมาถึงโรงปักษาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

“เบาๆ หน่อย เรามีแขก” อารมันปราม จากนั้นเขาขยับหลบเพื่อให้ทุกคนเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายว่าเป็นใคร แต่พอทั้งหมดเห็นว่าเป็นผู้ใดแทนที่จะเงียบกลับยิ่งเป่าปากเสียงดังกว่าเดิมและต้อนรับเธออย่างยินดีจนบุษบรรณแปลกใจ เพราะแน่ใจว่าก่อนงานปัญจยุทธนอกจากท่านคงไคยแห่งวิหารไหมแล้วเธอไม่เคยพบเหล่านักล่านกแห่งเขาหิมวัตมาก่อน

ไหนว่าบรรดานักล่านกเหล่านี้ไม่ชอบสุงสิงกับเทวะนอกเผ่าและทะนงตนนักอย่างไรเล่า?

บุษบรรณเหลือบมองอารมันอย่างสงสัย แต่เทวะหนุ่มกลับทำไม่รู้ไม่ชี้ แล้วหลีกทางให้เธอเดินนำเข้าไปก่อน ในช่วงนั้นเองที่นักล่านกที่ดูแล้วเหมือนอายุน้อยที่สุดตะโกนลงมาจากหลังสดายุ

“พวกข้ารอนานทีเดียวกว่าจะมีโอกาสเห็น...โอ๊ย!”

คำหลังเจ้าคนพูดร้องเสียงหลงเพราะอารมันคว้าสิ่งของที่อยู่ใกล้มือขว้างข้ามหัวไปกระแทกโดนหน้าผากคนกล่าวอย่างจังจนอีกฝ่ายเสียหลักร่วงจากหลังนกดังโครม ดีที่ว่าก่อนหน้านี้พื้นโรงนกปูด้วยฟางหนาทำให้ผู้ที่ตกแอ้กลงมาไม่เป็นอันตรายนัก เพียงแต่ทำให้เสียงเฮฮายิ่งดังกว่าเดิม

อีกครั้งที่บุษบรรณหันไปมองผู้ที่เดินตามมาข้างหลัง แต่อารมันก็ยังทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขากระแอมขึ้นสองสามครั้งเพื่อเป็นการขัดจังหวะ เสียงเป่าปากเฮฮาจึงเบาลงบ้าง เทวะหนุ่มพาบุษบรรณเดินไปถึงปลายทางเดินของโรงปักษาซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งเพราะเป็นบริเวณที่เปิดออกสู่ลานบิน แต่ตอนนี้ประตูนั้นลั่นดาลไว้บ่งบอกว่าคงไม่มีปักษบาลหรือนักล่านกผู้ใดเดินทางมาถึงนอกไปจากอารมันซึ่งมาถึงเป็นรายสุดท้ายในราตรีนี้ ในขณะนั้นเองที่บุษบรรณเห็นท่านอุมาเมขลากำลังยืนมองลงมาจากระเบียงชั้นสองแล้วเอ่ยสั้นๆ กับอารมัน

“พวกเรากำลังรอเจ้าอยู่” เธอบอก ประโยคต่อมาจึงหันมากล่าวกับบุษบรรณโดยตรง “ตอนแรกที่อารมันบอกว่ามีแขกมา ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจ้า” จากนั้นอารมันจึงตะโกนกลับขึ้นไปบอกว่าให้รอสักพัก เขาจะตามขึ้นไปทีหลัง และเดินหายลับไปทางห้องด้านใน บุษบรรณจึงเดินแยกขึ้นบันไดไปยังที่ที่หัวหน้ามือปราบยืนรออยู่

“ทำไมทุกท่านที่นี่ถึงรู้จักข้าล่ะเจ้าคะ?” เธอถามอย่างประหลาดใจ

อุมาเมขลาเพียงแต่ยิ้มรับ ไม่ตอบคำถามตรงๆ จากนั้นเธอจึงพาบุษบรรณเดินมาตามระเบียงภายในอาคารพลางอธิบายช้าๆ “ตอนแรกข้าก็ลังเลใจเหมือนกันที่จะบอกเรื่องนี้ให้เจ้ารู้ ระหว่างรออารมันข้าจะอธิบายเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด” เธอเว้นช่วงนิดหนึ่งก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป

“โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเทพเวนไตยและปัญจยุทธ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่