สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นการตีความของทำวิทยานิพนธ์ฉบับนั้นที่มีความเห็นว่า การที่ราชสำนักรัชกาลที่ ๖ มีแต่ผู้ชาย ไม่มีฝ่ายในที่เป็นสตรีเช่นในรัชกาลที่ ๕ ทั้งนี้เพราะผู้ทำวิทยานิพนธ์ไม่เข้าใจสภาพสังคมในยุคที่ยังคงแบ่งแยกฝ่ายหน้าและฝ่ายในอย่างเด็ดขาด หากเอาความรู้สึกนึกคิดของคนปัจจุบันไปวิเคราะห์สภาพสังคมในยุคร่วม ๑๐๐ ปีที่ล่วงมา โดยการตีความเอาจากเอกสารบางเล่ม เช่น พระราชบันทึกประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ที่ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์มากพออ่านแล้วก็จะทำให้หลงเข้าใจผิดไปได้ง่ายๆ
ขอยกตัวอย่างบางตอนจาก "สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น" ซึ่งหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ทรงนิพนธ์ถึงรัชกาลที่ ๖ ซึ่งต่างไปจากความเห็นของผู้ทำวิทยานิพนธ์นั้นอย่างสุดขั้ว เนื้อความตอนหนึ่งในในพระนิพนธ์นั้น มีดังนี้
"ในเรื่องพระมเหสีนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถูกติเตียนทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ข้าพเจ้าได้ยิน, ได้อ่าน, จนวิงเวียนด้วยความเศร้าใจ ฉะนั้นในที่นี้เราจะต้องพูดกันให้เข้าใจความเป็นมาอย่างไรตั้งแต่ต้น โดยความเที่ยงตรงไม่โอนเอียงเข้าแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะถ้าถามข้างไหนข้างนั้นก็ย่อมจะต้องเห็นอีกฝ่ายหนึ่งผิดเป็นธรรมดา ข้าพเจ้าได้พยายามเรียนเรื่องนี้มาช้านานแล้ว ก็ยังไม่รู้เท่าที่พอใจจะรู้ จนพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้วถึง ๑๐ ปีกว่า จึงมีโอกาสได้สนทนากับท่านผู้มีชื่อต่าง ๆ นี้เกือบจะทุกคน ข้าพเจ้าจะไม่กล่าวว่าได้รู้จากผู้ใดโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ไม่มีความประสงค์จะให้เขาหมางใจกันต่อไปอีก ขอรับรองแต่ว่าได้รู้จากปากที่ ๑ ทั้งนั้น
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชของเราเสด็จกลับจากยุโรปเข้ามาเมืองไทยเมื่อพระชันษา ๒๒ ปีแล้ว พระรูปโฉมโนมพรรณ์ราวกับหล่อด้วยพระจันทร์สว่างไสว พระเกียรติยศยิ่งใหญ่รองแต่พระเจ้าแผ่นดินลงมาเท่านั้น ใครเล่าจะไม่มุ่งมาดปรารถนา แต่พระองค์ก็เสด็จอยู่เป็นโสดต่อมาโดยมิได้ด่างพร้อยวี่แววในเรื่องผู้หญิงเลย เพราะถ้ามีเรื่องอะไร แม้นิดหนึ่ง ก็จะต้องโจทย์กันแซ่จนเราเบื่อหน่ายที่จะฟัง ด้วยมนุษย์สนุกในการพูดเรื่อง Sex Affair เป็นอย่างยิ่ง โดยฉะเพาะในบางกอกด้วยแล้ว เกือบไม่พูดเรื่องอื่นกันเลยทีเดียว มีคนพูดว่าทรงมีพระชายาไม่ได้ อนิจจา คนที่มีอำนาจบังคับตนเองได้เป็นพิเศษ แทนที่จะได้รับการชมเชย หรือบูชา กลับถูกหาว่าเป็นผู้ไม่ปรกติ ! โลกนี้ช่างสกปรกจริงๆ เจ้าหญิงแมรีของสวีเดนเมื่อเข้ามาในงานบรมราชาภิเศกได้เฟลิทพระเจ้าอยู่หัวจนคนลือไปพักหนึ่ง แต่แล้ว เจ้าหญิงองค์นี้เองได้ตรัสกับพวกเจ้าๆ ว่า “มีได้ ทำไมจะมีไม่ได้” บางคนแอบกระซิบนินทาว่า ไม่เคยรู้รสแตะต้องผู้หญิงเท่านั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ได้เคยเห็นผู้หญิงเข้ากอดปล้ำด้วยทำเป็นเด็กครึ่งสาวครึ่งด้วยตาข้าพเจ้าเองทีเดียว เด็จลุงสรรพสาตร์ฯ ยังได้ตรัสว่า “แหม, เรานึกว่าเมียท่านอีก” แต่พระเจ้าอยู่หัวก็ตรัสไล่ว่า “อย่ากวนน่า” ทุกที ฉะนั้นคำกล่าวหานี้จึงไม่มีความจริงอย่างใด"
ขอยกตัวอย่างบางตอนจาก "สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น" ซึ่งหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ทรงนิพนธ์ถึงรัชกาลที่ ๖ ซึ่งต่างไปจากความเห็นของผู้ทำวิทยานิพนธ์นั้นอย่างสุดขั้ว เนื้อความตอนหนึ่งในในพระนิพนธ์นั้น มีดังนี้
"ในเรื่องพระมเหสีนี้ เป็นเรื่องหนึ่งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถูกติเตียนทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ข้าพเจ้าได้ยิน, ได้อ่าน, จนวิงเวียนด้วยความเศร้าใจ ฉะนั้นในที่นี้เราจะต้องพูดกันให้เข้าใจความเป็นมาอย่างไรตั้งแต่ต้น โดยความเที่ยงตรงไม่โอนเอียงเข้าแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะถ้าถามข้างไหนข้างนั้นก็ย่อมจะต้องเห็นอีกฝ่ายหนึ่งผิดเป็นธรรมดา ข้าพเจ้าได้พยายามเรียนเรื่องนี้มาช้านานแล้ว ก็ยังไม่รู้เท่าที่พอใจจะรู้ จนพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้วถึง ๑๐ ปีกว่า จึงมีโอกาสได้สนทนากับท่านผู้มีชื่อต่าง ๆ นี้เกือบจะทุกคน ข้าพเจ้าจะไม่กล่าวว่าได้รู้จากผู้ใดโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ไม่มีความประสงค์จะให้เขาหมางใจกันต่อไปอีก ขอรับรองแต่ว่าได้รู้จากปากที่ ๑ ทั้งนั้น
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชของเราเสด็จกลับจากยุโรปเข้ามาเมืองไทยเมื่อพระชันษา ๒๒ ปีแล้ว พระรูปโฉมโนมพรรณ์ราวกับหล่อด้วยพระจันทร์สว่างไสว พระเกียรติยศยิ่งใหญ่รองแต่พระเจ้าแผ่นดินลงมาเท่านั้น ใครเล่าจะไม่มุ่งมาดปรารถนา แต่พระองค์ก็เสด็จอยู่เป็นโสดต่อมาโดยมิได้ด่างพร้อยวี่แววในเรื่องผู้หญิงเลย เพราะถ้ามีเรื่องอะไร แม้นิดหนึ่ง ก็จะต้องโจทย์กันแซ่จนเราเบื่อหน่ายที่จะฟัง ด้วยมนุษย์สนุกในการพูดเรื่อง Sex Affair เป็นอย่างยิ่ง โดยฉะเพาะในบางกอกด้วยแล้ว เกือบไม่พูดเรื่องอื่นกันเลยทีเดียว มีคนพูดว่าทรงมีพระชายาไม่ได้ อนิจจา คนที่มีอำนาจบังคับตนเองได้เป็นพิเศษ แทนที่จะได้รับการชมเชย หรือบูชา กลับถูกหาว่าเป็นผู้ไม่ปรกติ ! โลกนี้ช่างสกปรกจริงๆ เจ้าหญิงแมรีของสวีเดนเมื่อเข้ามาในงานบรมราชาภิเศกได้เฟลิทพระเจ้าอยู่หัวจนคนลือไปพักหนึ่ง แต่แล้ว เจ้าหญิงองค์นี้เองได้ตรัสกับพวกเจ้าๆ ว่า “มีได้ ทำไมจะมีไม่ได้” บางคนแอบกระซิบนินทาว่า ไม่เคยรู้รสแตะต้องผู้หญิงเท่านั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ได้เคยเห็นผู้หญิงเข้ากอดปล้ำด้วยทำเป็นเด็กครึ่งสาวครึ่งด้วยตาข้าพเจ้าเองทีเดียว เด็จลุงสรรพสาตร์ฯ ยังได้ตรัสว่า “แหม, เรานึกว่าเมียท่านอีก” แต่พระเจ้าอยู่หัวก็ตรัสไล่ว่า “อย่ากวนน่า” ทุกที ฉะนั้นคำกล่าวหานี้จึงไม่มีความจริงอย่างใด"
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าถามผม เรื่องร.6 พระมเหสี และมหาดเล็ก มันก็ชวนให้มีเค้ามูล
แต่ก็ต้องดูสังคมขณะนั้นและต่อมาด้วย ช่วงร.6-7 มีการเปลี่ยนแปลงเยอะ
การจะรับเครือญาติใกล้ชิดมาแต่งงาน ก็ดูไม่ดีในสายตาฝรั่งศิวิไลซ์
การจะแต่งกับหญิงอื่นๆในไทย ก็จัดกับสารพัดมณเฑียรบาล ที่มีกำหนดไว้หลายอย่าง คิดอย่างนี้นะครับ
ส่วนสำหรับหนังสือเล่มนี้ผมว่าน่าสนใจดี อยากอ่านแต่ไม่คิดอะไรจริงจังมาก
เรื่องที่ผ่านมาแล้ว คนจะตั้งข้อสันนิษฐานอย่างไรก็ได้ จะหาหลักฐานเอกสารอะไรมาก็ได้
และบางทีอาจพบเอกสารที่่น่าเชื่อถือใหม่ๆเพิ่มก็เป็นไปได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น
สำหรับผมก็คงหามาอ่่านแบบใจเป็นกลาง ดูเอกสารอ้างอิง ความเห็นต่างๆ แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเป็นอย่งไร
และที่สำคัญพระจริยวัตรส่วนพระองค์ กับประโยชน์ต่างๆที่ท่านทรงทำเพื่อชาติ ผมว่าผมให้น้ำหนักข้อหลังมากกว่าครับ
แต่ก็ต้องดูสังคมขณะนั้นและต่อมาด้วย ช่วงร.6-7 มีการเปลี่ยนแปลงเยอะ
การจะรับเครือญาติใกล้ชิดมาแต่งงาน ก็ดูไม่ดีในสายตาฝรั่งศิวิไลซ์
การจะแต่งกับหญิงอื่นๆในไทย ก็จัดกับสารพัดมณเฑียรบาล ที่มีกำหนดไว้หลายอย่าง คิดอย่างนี้นะครับ
ส่วนสำหรับหนังสือเล่มนี้ผมว่าน่าสนใจดี อยากอ่านแต่ไม่คิดอะไรจริงจังมาก
เรื่องที่ผ่านมาแล้ว คนจะตั้งข้อสันนิษฐานอย่างไรก็ได้ จะหาหลักฐานเอกสารอะไรมาก็ได้
และบางทีอาจพบเอกสารที่่น่าเชื่อถือใหม่ๆเพิ่มก็เป็นไปได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น
สำหรับผมก็คงหามาอ่่านแบบใจเป็นกลาง ดูเอกสารอ้างอิง ความเห็นต่างๆ แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเป็นอย่งไร
และที่สำคัญพระจริยวัตรส่วนพระองค์ กับประโยชน์ต่างๆที่ท่านทรงทำเพื่อชาติ ผมว่าผมให้น้ำหนักข้อหลังมากกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
หนังสือ "นายใน สมัยรัชกาลที่ ๖" คำว่า 'นายใน' ในที่นี้คืออะไรคะ
เราเห็นการโปรโมตผ่านตาในเฟสบุคสักระยะนึงแล้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราเข้าใจว่า คำว่า 'นายใน' คงจะคล้าย 'มหาดเล็ก' กลายๆ
และการตั้งชื่อให้น่าสนใจคงเป็นการตลาดนึงของสำนักพิมพ์
แต่กลายเป็นว่า คนในเฟสบุคแทบจะทั้งหมด เข้าใจว่า 'นายใน' ก็คือ 'นางใน' เพียงแต่เป็นผู้ชาย
ดังเช่นความเห็นนี้เมื่อสักครู่ "ใครๆก็รู้ แต่ไม่ค่อยกล้าพูด เพราะอยู่ในเมืองดัดจริต"
อืม 'ใครๆก็รู้' ไม่ทราบว่า ใครๆก็รู้ จริงรึเปล่าคะ เพราะเราไม่รู้ค่ะ
รบกวนเรียนถามว่า แท้จริงแล้ว "นายใน" คืออะไรหรอคะ ทำหน้าที่ยังไง มีบทบาทยังไงต่อราชสำนัก
ส่วนข้างล่างคือคำโปรยหนังสือค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณค่ะ