สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
กฎหมายมาตรา 112 เริ่มพ่นพิษอีกครั้งแล้ว คราวนี้ยังเปิดให้ศาลตีความได้อย่างไรขีดจำกัดอีกต่างหาก ใครอยากรู้ก็ลองไปหาอ่านดูในประชาไท จริงๆ แล้วกฎหมายนี้จำกัดอยู่ที่พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์ร้ชทายาท และผู้สำเร็จราชการ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ปัญหาคือกษัตริย์ในอดีตท่านก็ย่อมมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี หากโยงความผิดกันได้ถึงกษัตริย์ในอดีตละก็เราสามารถแจ้งความเล่นงานคนเขียนหนังสือประวัติศาสตร์ไทยเป็นร้อยเป็นพันเล่มที่ไม่ได้เสนอภาพตามที่ประวัติศาสตร์กระแสหลักได้วางไว้ อย่างนี้วงการประวัติศาสตร์ไทยคงจะไม่ไปถึงไหน
ความคิดเห็นที่ 7
ตอบความเห็นคุณ Nexus
เรืองการสงสัยนั้นทุกคนสามารถสงสัยกันได้ แต่ก่อนที่จะวิพากษ์คงจะต้องถามว่า ได้ศึกษาเรื่องที่จะวิพากษ์มามากพอแล้วหรือยัง
สำหรับเรื่องกบฏ ร.ศ. ๑๓๐ นั้น หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิกุล ทรงนิพนธ์ไว้ใน "พระราชวงศ์จักรี" ว่า แนวคิดที่จะก่อความไม่สงบนั้นมีมาแต่กลายรัชกาลที่ ๕ เผอิญผลัดรัชกาลเสียก่อนจึงมาปะทุในรัชกาลที่ ๖ และประเด็นที่หยิบยกขึ้นมากล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของการด่อกบฏคราวนั้น ได้มีการศึกษาข้อมูลโดยรอบด้านแล้วหรือยัง สำหรับตัวผู่การกำเริบคราวนั้นอย่าง ร.ต.เหรียญ ศรีจันทร์ และ ร.ต.เนตร พูนวิวัฒน์ ยังได้กล่าวไว้ใน "น้ำพระทัยพระมหาธรราชเจ้า" ซึ่งพิมพ์ใน "ปฏิวัติ ร.ศ. ๑๓๐" ว่า “พวกเรายังรำลึกถึง น้ำพระทัย ในครั้งกระนั้นอยู่มิรู้วาย และในที่สุดควรนำมากล่าวรวมกันไว้เสียเลย คือ พระองค์ได้ทรงตั้ง “ดุสิตธานี” เพื่อเป็นการฝึกข้าราชการในพระองค์ให้ได้ศึกษาการปกครองระบบประชาฑิปไตยไปในตัว ซึ่งพวกเราก็ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและในการสร้างบ้านเล็กเรือนน้อย ณ ดุสิตธานีนั้นด้วย” แต่ความดังกล่าวข้างต้นไม่เคยเห็นผู้ใดหยิบขึ้นมากล่าวถึง
เรืองการสงสัยนั้นทุกคนสามารถสงสัยกันได้ แต่ก่อนที่จะวิพากษ์คงจะต้องถามว่า ได้ศึกษาเรื่องที่จะวิพากษ์มามากพอแล้วหรือยัง
สำหรับเรื่องกบฏ ร.ศ. ๑๓๐ นั้น หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิกุล ทรงนิพนธ์ไว้ใน "พระราชวงศ์จักรี" ว่า แนวคิดที่จะก่อความไม่สงบนั้นมีมาแต่กลายรัชกาลที่ ๕ เผอิญผลัดรัชกาลเสียก่อนจึงมาปะทุในรัชกาลที่ ๖ และประเด็นที่หยิบยกขึ้นมากล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของการด่อกบฏคราวนั้น ได้มีการศึกษาข้อมูลโดยรอบด้านแล้วหรือยัง สำหรับตัวผู่การกำเริบคราวนั้นอย่าง ร.ต.เหรียญ ศรีจันทร์ และ ร.ต.เนตร พูนวิวัฒน์ ยังได้กล่าวไว้ใน "น้ำพระทัยพระมหาธรราชเจ้า" ซึ่งพิมพ์ใน "ปฏิวัติ ร.ศ. ๑๓๐" ว่า “พวกเรายังรำลึกถึง น้ำพระทัย ในครั้งกระนั้นอยู่มิรู้วาย และในที่สุดควรนำมากล่าวรวมกันไว้เสียเลย คือ พระองค์ได้ทรงตั้ง “ดุสิตธานี” เพื่อเป็นการฝึกข้าราชการในพระองค์ให้ได้ศึกษาการปกครองระบบประชาฑิปไตยไปในตัว ซึ่งพวกเราก็ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและในการสร้างบ้านเล็กเรือนน้อย ณ ดุสิตธานีนั้นด้วย” แต่ความดังกล่าวข้างต้นไม่เคยเห็นผู้ใดหยิบขึ้นมากล่าวถึง
ความคิดเห็นที่ 5
ร 6 โชคดีที่ได้รับการวางรากฐานที่ดีที่วางไว้สมัยร 5 ครับ
แต่ก็บ้านเมืองก็มีปัญหาหลายอย่างอยู่เหมือนกันตามปกติของโลก
เช่นปัญหาความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับเสือป่า
ปัญหาความขัดแย้งกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับสืบทอดมาจากสมัยรัชกาลที่ 5
ปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือยจนกลายเป็นปัญหาที่สืบทอดมาให้รัชกาลที่ 7 ต้องมานั่งแก้ครับ
สำหรับผม ผมมองว่า ผลงานที่เป็นรูปธรรมของ ร 6 ก็อย่างเช่น พระราชบัญญัติประถมศึกษา
การเลือกข้างสัมพันธมิตร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
การไม่จำกัดเสรีภาพของสื่อ ทำให้เกิดความรุ่งเรืองของวงการหนังสือพิมพ์
ส่วนไอพวก บ้าพิซซ่านะ ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ พวกนี้บ้าพิซซ่าจนเป็นโรคพิซซ่า Addict ครับ
แต่ก็บ้านเมืองก็มีปัญหาหลายอย่างอยู่เหมือนกันตามปกติของโลก
เช่นปัญหาความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับเสือป่า
ปัญหาความขัดแย้งกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับสืบทอดมาจากสมัยรัชกาลที่ 5
ปัญหาการใช้เงินฟุ่มเฟือยจนกลายเป็นปัญหาที่สืบทอดมาให้รัชกาลที่ 7 ต้องมานั่งแก้ครับ
สำหรับผม ผมมองว่า ผลงานที่เป็นรูปธรรมของ ร 6 ก็อย่างเช่น พระราชบัญญัติประถมศึกษา
การเลือกข้างสัมพันธมิตร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
การไม่จำกัดเสรีภาพของสื่อ ทำให้เกิดความรุ่งเรืองของวงการหนังสือพิมพ์
ส่วนไอพวก บ้าพิซซ่านะ ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ พวกนี้บ้าพิซซ่าจนเป็นโรคพิซซ่า Addict ครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไม รัชกาลที่ 6 ถึงครองราชย์ แค่ระยะเวลาสั้นๆ คะ
รวมระยะเวลาครองราชย์ก็แค่ 15 ปีเอง ถือว่าสั้นมากๆ
ในตอนที่พระองค์อยู่ บ้านเมืองก็สงบสุขร่มเย็นดี ทางด้านกวี วรรณศิลป์ การประพันธ์ก็รุ่งเรืองดี มีนักปราชมีชื่อแห่งรัตนโกสินทร์หลายคน เกิดขึ้นในยุคนั้น ถ้าพระองค์ท่านไม่ สวรรคต เร็ว สยามคงได้เกิดอะไรดีดีอีกเยอะ ทางด้านกวี ศิลปะ วัฒนธรรม โดยเฉพาะถ้าพระองค์ครองราชย์ได้ถึง 30 ปีนี่ อัจฉริยะภาพ พระปรีชาสามารถทางด้านกวี และการประพันธ์ ต้องเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก มากกว่านี้แน่
น่าเสียดายยุคที่ผ่านไปเร็ว พอเปลี่ยนรัชกาลใหม่ ก็เหมือนสิ้นสุคยุคกวีทองสยามนะ เพราะกษัตริย์องค์อื่นก็ทรงพระปรีชาสามารถทางด้านอื่นๆ แตกต่างกันไป แต่ถ้ากวีนิพนธ์ งานวรรณกรรม นี่ ยังไงก็ต้อง รัชกาลที่ 6 เพราะพระองค์ทรงโปรดและใส่พระทัยในด้านนี้มาก
เป็นเพราะการเสวยพระกระยาหารที่ตามใจพระทัยหรือเปล่า หรือเพราะสมัยนั้น มีโรคระบาด เกิดขึ้นเยอะ พระองค์จึงเสด็จสู่สวรรค์ครรลัย