เพียงครึ่งใจ (บทที่ 20)
“ยังไม่นอนเหรอคะ”
ละเมียดหยุดเพียงหน้าประตูห้องหนังสือมองดูชายหนุ่มที่เมื่อหลายปีมาแล้วเคยเป็นเพียง…คุณหนูตัวน้อย
บัดนี้ดวงตาคมอ่อนโยนของ
พ่อโฉมงาม ที่มักฉายความเชื่อมั่นอยู่เนืองนิตย์ กลับเจือโศก ด้วยเคล้าเศร้า ลังเล และอ่อนล้าที่ไม่แสดงให้ใครเห็นบ่อยนัก
สายตาของคนสูญเสียชัดแจ่มแจ้ง คล้ายเช่นเมื่อครั้งที่ท่านทูต…จากไปลับ
หรือแม้แต่เมื่อคราพรพิมล…หนี
เพลงคลาสสิคบรรเลงดัง พร้อมขวดวิสกี้ชั้นดีที่เก็บไว้หลายสิบปีตั้งแต่สมัยท่านทูตถูกรินใส่แก้วใส
“เกิดอะไรขึ้นคะ มีอะไรคะคุณนนท์” หญิงชราถามด้วยความกังวลตกใจ พลางสาวเท้าเข้าไปใกล้
ปรกติอนรรฆไม่ค่อยดื่ม นอกจากสังสรรค์ หรือดื่มแกล้มอาหารบางมื้อเท่านั้น น้อยครั้งที่จะเห็นเขารินเหล้าทีเป็นแก้วๆ ย้อมใจเพียงลำพังคนเดียว
“นอนไม่หลับจ้ะ”
“ใครทำให้คุณนนท์นอนไม่หลับคะ”
ละเมียดรู้…ครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะ
ใคร
และใครคนนั้นต้อง…
สำคัญ
เพราะแทบไม่มีอะไร หรือใครในโลกที่จะทำให้ ‘พ่อโฉมงามของเมียด’ กังวลใจ หมองใจ เมาอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้
ต้องเป็นเพราะ…
คน
คน…ที่เกี่ยวข้องกับสร้อยไพลินสีน้ำเงินเส้นนั้น ที่คุณนนท์กำลังแตะมันเบาๆ อ่อนโยนยิ่งนัก
“ใครคะ” ละเมียดนั่งลงบนเก้าอี้ว่างอีกตัว “ใครที่ทำให้คุณนนท์ของเมียดเป็นเช่นนี้”
“คนจากอดีตน่ะจ้ะ ที่คุณนนท์ไม่เคยตั้งใจจะจำ หากก็จำได้แม่น ยังรู้สึก…” เสียงถอนหายใจ…อาลัย นั้นเบา “แต่อนาคต เราก็คงเป็นได้แค่คนแปลกหน้า”
“ขนาดนั้นเชียวเหรอ” ละเมียดยิ้ม…เอ็นดูแกมสงสาร ดังที่เคยทำมาหลายครั้งหลายคราที่ต้องปลอบ 'คุณนนท์ของเมียด'
“คนเราจะโกรธ จะเกลียดก็ต้องดูออก แต่นี่…”
อนรรฆปล่อยมือจากสร้อยเส้นงามที่มีจี้พลอยไพลินสีน้ำเงินเนื้อดี แล้วทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหน้าหญิงชรา ก้มลงซบแนบตัก เช่นที่เคยทำหลายๆ ครั้งตั้งแต่จำความได้
“ถาม…ว่าผิดตรงไหน ก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด มันก็เลยไม่รู้ต้องปรับปรุงอะไร ปรับความเข้าใจ ก็ไม่ได้อีก เพราะไม่แน่ใจว่าผิดใจอะไร”
“โถ…คุณนนท์ของเมียด” ละเมียดลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ
ปลอบ…เช่นที่เคยทำตั้งแต่อีกฝ่ายยังเล็กๆ
รู้ดีว่า…พ่อโฉมงาม เคยแต่ทำให้คนอื่น…รักและหลง
แต่ก็ไม่เคยให้ความหวัง หรือทำให้ใครสับสน
ไม่เคยตั้งใจ จงใจ ทำร้ายให้ใครเจ็บ
‘บาปกรรมนะคะคุณนนท์ ถ้าไม่รักก็ต้องบอกเขาไป ไม่ใช่ทำเล่นๆ ให้ความหวัง คนทุกคนมีหัวใจ’
ละเมียดเคยสอนตั้งแต่คุณนนท์ย่างเข้าวัยรุ่น มีสาวๆ มารุม…
รัก
‘รักด้วยหัวใจ มันสุขกว่า ที่จะรักเพียงลอง รักหลอกๆ ก็แค่สร้างแค้น สร้างเวร ก่อกรรม’
ดังนั้น อนรรฆมักรักใครรักจริง
แต่ถ้า ‘ไม่’ ก็คือ
ไม่ ดังที่ลั่นวาจาไว้เสมอ
เพียงแต่ว่า ตอนนี้
สายอะไรไม่บางเหมือนสายรัก
สายอื่นใดไม่ปักเช่นสายใย
สายสวาทมัดสิ้นซึ่งสายใจ
สายเกินไปสุดคว้าไว้มาครอบครอง
ใครกันหนอที่
พ่อโฉมงามของเมียด คว้ามาครอบครองไม่ได้
“มันคงสายไปแล้วล่ะเมียด ไม่มีอีกแล้ว มันจบแล้ว”
น้ำเสียงขมขื่นด้วยความรู้สึก บ่งบอกถึงความผิดหวังที่ผู้เป็นพี่เลี้ยงหยั่งถึงได้ชัดเจน
ละเมียดเพียงก้มลง แนบหน้าบนศีรษะของ ‘คุณนนท์’
รับรู้เพียงว่า
เมื่อคุณนนท์…รักมาก
ก็ย่อมเจ็บมาก
เพียงแต่ว่า ‘พ่อโฉมงาม’ เพิ่งจะเคยรักใคร…มาก ก็ตอนนี้นี่เอง
“ไม่มีอะไรที่…สายไปหรอกนะคะ อะไร…ถ้าเป็นของเราแล้วก็ไม่แคล้วหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าเขาไม่เคยเป็นของเราเลยล่ะจ๊ะ เมียด และเขาคงไม่สามารถเป็นของเราได้เลย”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น จะอาวรณ์อยู่ทำไมล่ะคะ การ…ปล่อย ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด” หญิงชรากุมมือใหญ่ของอีกฝ่ายไว้บีบแน่น “ปล่อย…คลายมือออก คลายความรู้สึก ค่อยๆ คลายความอาลัยอาวรณ์ มันอาจจะต้องใช้เวลา แต่ก็ควรจะมีก้าวแรก เพราะถ้าคุณนนท์ไม่ก้าว คุณนนท์ก็คงยังจะ…เจ็บ จะขมขื่นไปเช่นนี้”
มาถึงตอนนี้ อนรรฆ…จึงเริ่มปล่อย โดยไม่ยุ่งกับเรื่องของเคเอ็มเอ็น ไม่เหลือบมองแม้เมื่อเดินผ่านห้องกระชุมที่คนของเคเอ็มเอ็นใช้เป็นห้องทำงานมาสองเดือน
กำหนดการเดินทางของคณะจากพม่าไปสหรัฐอเมริกาก็ถูกมอบหมายให้สันติจัดการและตัดสินใจ
เขาจะ…ดู บ้าง ก็แค่เรื่องการเตรียมประมูล และแผนงานการสำรวจตรวจขั้นแรก หากเมื่อได้สัมปทานแล้ว แต่นั่นเพราะหน้าที่ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
เลี่ยงไม่ได้กระทั่งการเจอริชาร์ดที่มารับนิหล่าในตอนหัวค่ำของหลายวันทำงาน
วันนี้…หัวค่ำ
แต่หลายทีก็เช้า สาย บ่าย เย็น
จนในใจ เขาไม่วายแอบคิด
อาจเป็นเป็นริชาร์ดที่นิหล่าบินไปตามง้อถึงสิงคโปร์เมื่อหลายปีก่อน
ถ้าเป็นริชาร์ด แล้วนิหล่าจะไม่รู้เชียวหรือว่าพรพิมลกับผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์เช่นไร
หรือว่าตอนนั้น…เพิ่งเริ่มคบ
หรือ…
คำถามมากมายทำให้ใจร้อนรุ่ม แต่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้
แม้กระทั่งคำถามว่า ถ้าริชาร์ดคือ…ผู้ที่นิหล่าจะแต่งงานด้วยในไม่ช้า
แล้วเหตุใดเคเอ็มเอ็นถึงเลือกที่จะร่วมงานกับคอนโร
อนรรฆพอดูออกว่า นิหล่าค่อนข้างมีอิทธิพลโน้มน้าวการตัดสินใจของเคเอ็มเอ็นในระดับหนึ่ง
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่เลือก…ริชาร์ด
(ต่อ)
เพียงครึ่งใจ (บทที่ 20) โดย มานัส
“ยังไม่นอนเหรอคะ”
ละเมียดหยุดเพียงหน้าประตูห้องหนังสือมองดูชายหนุ่มที่เมื่อหลายปีมาแล้วเคยเป็นเพียง…คุณหนูตัวน้อย
บัดนี้ดวงตาคมอ่อนโยนของ พ่อโฉมงาม ที่มักฉายความเชื่อมั่นอยู่เนืองนิตย์ กลับเจือโศก ด้วยเคล้าเศร้า ลังเล และอ่อนล้าที่ไม่แสดงให้ใครเห็นบ่อยนัก
สายตาของคนสูญเสียชัดแจ่มแจ้ง คล้ายเช่นเมื่อครั้งที่ท่านทูต…จากไปลับ
หรือแม้แต่เมื่อคราพรพิมล…หนี
เพลงคลาสสิคบรรเลงดัง พร้อมขวดวิสกี้ชั้นดีที่เก็บไว้หลายสิบปีตั้งแต่สมัยท่านทูตถูกรินใส่แก้วใส
“เกิดอะไรขึ้นคะ มีอะไรคะคุณนนท์” หญิงชราถามด้วยความกังวลตกใจ พลางสาวเท้าเข้าไปใกล้
ปรกติอนรรฆไม่ค่อยดื่ม นอกจากสังสรรค์ หรือดื่มแกล้มอาหารบางมื้อเท่านั้น น้อยครั้งที่จะเห็นเขารินเหล้าทีเป็นแก้วๆ ย้อมใจเพียงลำพังคนเดียว
“นอนไม่หลับจ้ะ”
“ใครทำให้คุณนนท์นอนไม่หลับคะ”
ละเมียดรู้…ครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะ ใคร
และใครคนนั้นต้อง…สำคัญ
เพราะแทบไม่มีอะไร หรือใครในโลกที่จะทำให้ ‘พ่อโฉมงามของเมียด’ กังวลใจ หมองใจ เมาอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้
ต้องเป็นเพราะ…คน
คน…ที่เกี่ยวข้องกับสร้อยไพลินสีน้ำเงินเส้นนั้น ที่คุณนนท์กำลังแตะมันเบาๆ อ่อนโยนยิ่งนัก
“ใครคะ” ละเมียดนั่งลงบนเก้าอี้ว่างอีกตัว “ใครที่ทำให้คุณนนท์ของเมียดเป็นเช่นนี้”
“คนจากอดีตน่ะจ้ะ ที่คุณนนท์ไม่เคยตั้งใจจะจำ หากก็จำได้แม่น ยังรู้สึก…” เสียงถอนหายใจ…อาลัย นั้นเบา “แต่อนาคต เราก็คงเป็นได้แค่คนแปลกหน้า”
“ขนาดนั้นเชียวเหรอ” ละเมียดยิ้ม…เอ็นดูแกมสงสาร ดังที่เคยทำมาหลายครั้งหลายคราที่ต้องปลอบ 'คุณนนท์ของเมียด'
“คนเราจะโกรธ จะเกลียดก็ต้องดูออก แต่นี่…”
อนรรฆปล่อยมือจากสร้อยเส้นงามที่มีจี้พลอยไพลินสีน้ำเงินเนื้อดี แล้วทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหน้าหญิงชรา ก้มลงซบแนบตัก เช่นที่เคยทำหลายๆ ครั้งตั้งแต่จำความได้
“ถาม…ว่าผิดตรงไหน ก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด มันก็เลยไม่รู้ต้องปรับปรุงอะไร ปรับความเข้าใจ ก็ไม่ได้อีก เพราะไม่แน่ใจว่าผิดใจอะไร”
“โถ…คุณนนท์ของเมียด” ละเมียดลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ
ปลอบ…เช่นที่เคยทำตั้งแต่อีกฝ่ายยังเล็กๆ
รู้ดีว่า…พ่อโฉมงาม เคยแต่ทำให้คนอื่น…รักและหลง
แต่ก็ไม่เคยให้ความหวัง หรือทำให้ใครสับสน
ไม่เคยตั้งใจ จงใจ ทำร้ายให้ใครเจ็บ
‘บาปกรรมนะคะคุณนนท์ ถ้าไม่รักก็ต้องบอกเขาไป ไม่ใช่ทำเล่นๆ ให้ความหวัง คนทุกคนมีหัวใจ’
ละเมียดเคยสอนตั้งแต่คุณนนท์ย่างเข้าวัยรุ่น มีสาวๆ มารุม…รัก
‘รักด้วยหัวใจ มันสุขกว่า ที่จะรักเพียงลอง รักหลอกๆ ก็แค่สร้างแค้น สร้างเวร ก่อกรรม’
ดังนั้น อนรรฆมักรักใครรักจริง
แต่ถ้า ‘ไม่’ ก็คือ ไม่ ดังที่ลั่นวาจาไว้เสมอ
เพียงแต่ว่า ตอนนี้
สายอะไรไม่บางเหมือนสายรัก
สายอื่นใดไม่ปักเช่นสายใย
สายสวาทมัดสิ้นซึ่งสายใจ
สายเกินไปสุดคว้าไว้มาครอบครอง
ใครกันหนอที่ พ่อโฉมงามของเมียด คว้ามาครอบครองไม่ได้
“มันคงสายไปแล้วล่ะเมียด ไม่มีอีกแล้ว มันจบแล้ว”
น้ำเสียงขมขื่นด้วยความรู้สึก บ่งบอกถึงความผิดหวังที่ผู้เป็นพี่เลี้ยงหยั่งถึงได้ชัดเจน
ละเมียดเพียงก้มลง แนบหน้าบนศีรษะของ ‘คุณนนท์’
รับรู้เพียงว่า
เมื่อคุณนนท์…รักมาก
ก็ย่อมเจ็บมาก
เพียงแต่ว่า ‘พ่อโฉมงาม’ เพิ่งจะเคยรักใคร…มาก ก็ตอนนี้นี่เอง
“ไม่มีอะไรที่…สายไปหรอกนะคะ อะไร…ถ้าเป็นของเราแล้วก็ไม่แคล้วหรอกค่ะ”
“แล้วถ้าเขาไม่เคยเป็นของเราเลยล่ะจ๊ะ เมียด และเขาคงไม่สามารถเป็นของเราได้เลย”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น จะอาวรณ์อยู่ทำไมล่ะคะ การ…ปล่อย ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด” หญิงชรากุมมือใหญ่ของอีกฝ่ายไว้บีบแน่น “ปล่อย…คลายมือออก คลายความรู้สึก ค่อยๆ คลายความอาลัยอาวรณ์ มันอาจจะต้องใช้เวลา แต่ก็ควรจะมีก้าวแรก เพราะถ้าคุณนนท์ไม่ก้าว คุณนนท์ก็คงยังจะ…เจ็บ จะขมขื่นไปเช่นนี้”
มาถึงตอนนี้ อนรรฆ…จึงเริ่มปล่อย โดยไม่ยุ่งกับเรื่องของเคเอ็มเอ็น ไม่เหลือบมองแม้เมื่อเดินผ่านห้องกระชุมที่คนของเคเอ็มเอ็นใช้เป็นห้องทำงานมาสองเดือน
กำหนดการเดินทางของคณะจากพม่าไปสหรัฐอเมริกาก็ถูกมอบหมายให้สันติจัดการและตัดสินใจ
เขาจะ…ดู บ้าง ก็แค่เรื่องการเตรียมประมูล และแผนงานการสำรวจตรวจขั้นแรก หากเมื่อได้สัมปทานแล้ว แต่นั่นเพราะหน้าที่ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
เลี่ยงไม่ได้กระทั่งการเจอริชาร์ดที่มารับนิหล่าในตอนหัวค่ำของหลายวันทำงาน
วันนี้…หัวค่ำ
แต่หลายทีก็เช้า สาย บ่าย เย็น
จนในใจ เขาไม่วายแอบคิด
อาจเป็นเป็นริชาร์ดที่นิหล่าบินไปตามง้อถึงสิงคโปร์เมื่อหลายปีก่อน
ถ้าเป็นริชาร์ด แล้วนิหล่าจะไม่รู้เชียวหรือว่าพรพิมลกับผู้ชายคนนั้นมีความสัมพันธ์เช่นไร
หรือว่าตอนนั้น…เพิ่งเริ่มคบ
หรือ…
คำถามมากมายทำให้ใจร้อนรุ่ม แต่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้
แม้กระทั่งคำถามว่า ถ้าริชาร์ดคือ…ผู้ที่นิหล่าจะแต่งงานด้วยในไม่ช้า
แล้วเหตุใดเคเอ็มเอ็นถึงเลือกที่จะร่วมงานกับคอนโร
อนรรฆพอดูออกว่า นิหล่าค่อนข้างมีอิทธิพลโน้มน้าวการตัดสินใจของเคเอ็มเอ็นในระดับหนึ่ง
เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่เลือก…ริชาร์ด
(ต่อ)