เพียงครึ่งใจ (บทที่ 26)
ตอนนี้ เขาคลายมือทันทีที่ฝ่าฝูงคนออกมาจากร้านกึ่งบาร์นั้นได้ แต่ความรู้สึกอุ่นๆ ที่มือเล็กก็ยังไม่คลาย แม้นิหล่าเดินตามเขามาจนถึงหน้าห้องพักชั้นบน
เพียงแต่ว่าอนรรฆไม่ได้หยุดแค่ตรงห้องของเขา ร่างสูงก้าวเลยเพียงก้าวเดียวมายังบริเวณหน้าห้องของเธอ แล้วหยุดเพียงด้านหลัง ดวงตาจับจ้องไม่เว้นวาย แม้เมื่อนิหล่าเปิดประตูห้องแล้ว
“กู๊ดไนท์”
เสียงทุ้มกล่าวสั้นๆ หากหญิงสาวเพียงยิ้มบางๆ แย้มน้อยๆ ก่อนจะบอก
“ค่ะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มพยายามกลบแววโศก
“นิหล่า…” เสียงเรียบอาดูรด้วยความรู้สึกมากมาย แล้วเขาก็นิ่งไปครู่คล้ายหาคำพูด “จะเชิญผมไปงานแต่งของนิหล่าไหม”
อนรรฆยังคงถาม แม้เตรียมใจไว้แล้วว่าคงไม่ได้คำตอบ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อหญิงสาวเบี่ยงหน้าไปอีกทาง
“ทำไม เพราะริชาร์ด? ทำไมต้องเป็นริชาร์ด” เขาเริ่มคาดคั้น สาวเท้าเข้าไปชิด
“คือว่า…”
“นิหล่าไม่เคยให้โอกาสผม แต่กลับให้โอกาสริชาร์ด” แววเสียงไม่กลบรอยผิดหวัง “ตอนนั้น คืนนั้น ผมทำผิดมากใช่ไหม หรือว่าเป็นอะไรอื่นที่ผมทำ”
“คุณอนรรฆ…”
“ผมเคยให้สัญญาว่าจะไม่รื้อฟื้น ไม่ทำให้นิหล่าลำบากใจ แต่ผมก็มักผิดสัญญานั่นเสมอ นิหล่า…” อีกแล้ว การเรียกแฝงความรู้สึกลึกซึ้งจนคนถูกเรียกหายใจไม่คล่อง “ เราสองคนคงมีเวลาอยู่ด้วยกัน แบบนี้อีกไม่นาน แต่ระหว่างนี้ ผมอาจจะเผลอ อาจลืมตัว แต่ที่ทำเพราะผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ นิหล่ายกโทษให้ผมได้ไหม แม้ว่ามันอาจจะทำให้นิหล่าลำบากใจ”
อนรรฆถอนหายใจ มือเอื้อมไปโอบเอวเล็กบางไว้มั่น สายตาล้ำลึกวาววับจับจิตมองเธออยู่ไม่เว้นวาย พิจารณาทุกส่วนหน้านั่น เขาไร้นิ้วตามไรแก้มนวล เชยคางของเธอขึ้น
ริมฝีปากร้อนระอุทาบลงสนิทแน่นอย่างละมุนบนริมฝีปากนุ่มราวกลีบกุหลาบ จูบของเขานุ่มนวล และการตอบของหญิงสาวนั้นไร้ซึ่งอาการไม่มั่นใจ ลังเล ใดๆ
ครั้งนี้ การตอบสนองนั้นละมุนละไม จนอนรรฆเกือบห้ามใจไม่อยู่
“นิหล่า…” เขากระซิบปากจรดปาก
มือทั้งสองข้างประคองดวงหน้านวลนั่นอย่างทะนุถนอม มองลึกในดวงตาอ่อนหวาน แกมเขินอายของอีกฝ่าย
“เจอกันพรุ่งนี้นะ เราไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกันมานานแล้ว” เขายิ้มบอก รอยยิ้มฉายประกายวาววับยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้า “ผมรอนิหล่าเสมอ นานแค่ไหนก็จะรอ”
พรพิมลรับรู้ถึงสายตาที่ต่างมองมาอย่างชื่นชม นับตั้งแต่ที่เธอก้าวลงจากรถหรู แล้วเดินเข้ามาในบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงเทพฯ
ใบหน้าเล็กผนวกกับนัยน์ตาหวาน รับกับจมูกโด่ง ทำให้ใบหน้านั้นดูคม เมื่อรับกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนวลละเอียด ท่วงท่าของเธอทุกย่างก้าวราวดุจพญาหงส์จึงดูเย้ายวนแก่ผู้พบเห็น
ขนาดริชาร์ดที่…เห็นมานัก ยังไม่วายตะลึง
“อนรรฆมันตาไม่ถึงจริง”
“ไม่หรอก” หญิงสาวกลับบอกเช่นนั้น
อนรรฆ…ตาถึงเสมอ
แต่ตอนนี้ สำหรับเธอแล้ว เงิน…เนรมิตทุกอย่างได้ ทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งกว่าเดิม
เงิน…ซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์ชิ้นงามและเครื่องประดับราคาแพงได้
ตอนนี้เธอมี จนไม่ต้องกลัวว่าใครจะดูถูก
เธอมีมากพอที่จะเรียกพี่เขยของอนรรฆให้มาพบได้ในวันนี้
“เข้าใจว่าคุณกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน” พรพิมลเข้าเรื่องทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้ว่างอีกตัว
“ริชาร์ดบอกคุณแพทแล้วเหรอ” ธาริตหันมองหนุ่มชาวสิงคโปร์ผู้ที่เป็นคนริเริ่มการนัดครั้งนี้
“ใช่ บอกด้วยว่าคุณมีเจ้าหนี้หลายรายที่กำลัง…ตาม” มือเรียวหยิบซองที่มีเช็คอยู่ใบหนึ่งออกมาจากระเป๋าสะพายราคาแพง “เช็คนี่อาจช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็จะช่วยคุณได้มาก ภายใต้เงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไร” คนถามเริ่มไม่ไว้ใจ
และใช่ว่าเขาจะไว้ใจหนุ่มสิงคโปร์ที่เป็นคนชักจูง แล้วยิ่ง…พรพิมล ผู้เป็นคนรักเก่าของอนรรฆ หรือศัตรูหัวใจของลูกสาว เขายิ่งไม่ไว้ใจ
“ดอกเบี้ยไม่คิด” คนมีเงินมากพอย่อมบอกเช่นนั้นกับเศษเงินที่ให้ยืมได้
“ทำไม” ถามได้แค่นั้น แต่ความละโมบทำให้ธาริตต้องต่อ “แล้วเงินที่เหลือ ที่ผมเป็นหนี้ล่ะ”
“นั่นเรื่องของคุณ แต่เงินจำนวนนี้ ฟรีๆ มันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งไม่ใช่หรือ ไม่แน่ ถ้าสิ่งที่คุณช่วยฉันสำเร็จ ฉันก็อาจจะมีอีกก้อนให้”
“ผมจะช่วยได้ไง ในเมื่อ มาเฟียเป็นสิบตามทวงหนี้กับผมอยู่”
คำบอกนั่นทำให้พรพิมลคว้าเช็คใบนั้นกลับมา เก็บเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น หากยังไม่ทันเดินออกไป เสียงเอะอะของธาริตก็ดังลั่นจนโต๊ะข้างๆ ตกใจ
“เดี๋ยวก่อน ตกลงๆ” ยังไง…กำเงิน ก็ยังดีกว่ากำอากาศ “จะให้ช่วยอะไร ว่ามา”
“เรื่องเดียว” ร่างระหงทรุดตังลงนั่งบนโซฟาตัวเดิม “บอกคุณนา ด้วยว่าตอนนี้น้องชายของเขาอยู่กับเด็กพม่าคนนั้นที่ฮูสตัน”
“คุณก็บอกเอง”
“คุณก็รู้ว่าฉันกับคุณนาไม่ลงลอยกันนัก”
ใช่…ถ้าลงรอยกันได้ ป่านนี้ เธอกับอนรรฆก็คงมีความสุขกัน โดยไม่ต้องกังวลถึงใครอื่นอีก
ตอนนั้น…เพราะอังคณา…ขัดขวางสารพัด หวงน้องชาย หวง...ราวจงอางหวงไข่
ตอนนี้…ชี้ทางให้อังคณาไปขัดขวางอนรรฆกับเด็กพม่านั่น
เพราะ…ถ้าเธอไม่ได้อนรรฆแล้ว ใครก็อย่าหวังว่าใครอื่นจะได้ ไม่ว่าจะเป็นนิหล่า มยิ่น ทเว หรือแม้แต่ลูกสาวทั้งสองของธาริต
“พม่าที่ไหนกัน” ธาริตตวัดเสียง ก่อนจะเกทับ “นนท์จีบลูกสาวผมอยู่”
“คุณก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ มีแต่คุณนาที่พยายามยัดเยียด”
“ทำไมผมต้องช่วยคุณด้วย” คำถามเช่นนี้เพราะเห็นว่าอีกฝ่าย...รู้ทัน “ถ้าลูกของผมคนใด คนหนึ่งแต่งกับอนรรฆ เงิน…เราก็มีมากพอ”
“แต่ไม่เท่าของฉัน” รอยยิ้มนั้นฉาบเสน่ห์ “และก็อย่าลืมนะว่า ฉันมีมากกว่าที่นนท์มีมากมายนัก มากพอที่จะมองว่าเช็คใบนี้เป็นเพียงเศษเงิน ที่จะจ้างใคร…ทำอะไรใครก็ได้”
นั่นแค่การสนทนา ไม่ใช่คำขู่ จนคนที่นั่งดูอยู่นอกสนามอย่างริชาร์ดต้องหัวเราะ
“ผลประโยชน์ร่วมด้วยกันทั้งคู่ คุณธาริต คุณจะไปคิดอะไรมากมาย อีกอย่างถ้าลูกของคุณมีความสามารถที่จะ…จับ อนรรฆได้ ก็คงสำเร็จไปนานแล้ว ทุกวันนี้น้องเมียของคุณก็ใช้คุณแพทเป็นเครื่องมือรับหน้าลูกๆ ของคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ จุดประสงค์ของคุณคือเงิน ซึ่งคุณแพทก็ยื่นให้อยู่…ส่วนหนึ่ง”
ริชาร์ดช่างสังเกต และในตอนนี้เขาสังเกตว่า สิ่งที่พูดจี้ใจของคนฟัง
อันที่จริง…คงเป็นเงินในมือเสียมากกว่าที่จี้ใจของคนฟัง
เงิน แม้ไม่มาก แต่ก็คือเงิน
และธาริตก็คงคิดได้จึงคว้าเช็คใบนั้นมา
“บอกคุณนาคืนนี้ เอ…เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมโทรฯ บอกเลยก็แล้วกัน”
“ทางที่ดี บอกลูกๆ ของคุณด้วยว่า อย่าไปยุ่งกับของรักของหวงของคนอื่น บางที เงินที่คุณจะได้ อาจจะมากกว่าหนี้…ที่คุณมี”
ริชาร์ดอุตส่าห์เตือนก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหลังอดีตแม่เลี้ยงออกมา
“อย่าลืมค่าตอบแทนของผมด้วยล่ะ แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอีก”
ของฟรีไม่มีในโลก โดยเฉพาะการใช้เงินที่เคยเป็นของพ่อเขาเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เขาต้องได้และต้องการ
(ต่อ)
เพียงครึ่งใจ (บทที่ 26) โดย มานัส
ตอนนี้ เขาคลายมือทันทีที่ฝ่าฝูงคนออกมาจากร้านกึ่งบาร์นั้นได้ แต่ความรู้สึกอุ่นๆ ที่มือเล็กก็ยังไม่คลาย แม้นิหล่าเดินตามเขามาจนถึงหน้าห้องพักชั้นบน
เพียงแต่ว่าอนรรฆไม่ได้หยุดแค่ตรงห้องของเขา ร่างสูงก้าวเลยเพียงก้าวเดียวมายังบริเวณหน้าห้องของเธอ แล้วหยุดเพียงด้านหลัง ดวงตาจับจ้องไม่เว้นวาย แม้เมื่อนิหล่าเปิดประตูห้องแล้ว
“กู๊ดไนท์”
เสียงทุ้มกล่าวสั้นๆ หากหญิงสาวเพียงยิ้มบางๆ แย้มน้อยๆ ก่อนจะบอก
“ค่ะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มพยายามกลบแววโศก
“นิหล่า…” เสียงเรียบอาดูรด้วยความรู้สึกมากมาย แล้วเขาก็นิ่งไปครู่คล้ายหาคำพูด “จะเชิญผมไปงานแต่งของนิหล่าไหม”
อนรรฆยังคงถาม แม้เตรียมใจไว้แล้วว่าคงไม่ได้คำตอบ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อหญิงสาวเบี่ยงหน้าไปอีกทาง
“ทำไม เพราะริชาร์ด? ทำไมต้องเป็นริชาร์ด” เขาเริ่มคาดคั้น สาวเท้าเข้าไปชิด
“คือว่า…”
“นิหล่าไม่เคยให้โอกาสผม แต่กลับให้โอกาสริชาร์ด” แววเสียงไม่กลบรอยผิดหวัง “ตอนนั้น คืนนั้น ผมทำผิดมากใช่ไหม หรือว่าเป็นอะไรอื่นที่ผมทำ”
“คุณอนรรฆ…”
“ผมเคยให้สัญญาว่าจะไม่รื้อฟื้น ไม่ทำให้นิหล่าลำบากใจ แต่ผมก็มักผิดสัญญานั่นเสมอ นิหล่า…” อีกแล้ว การเรียกแฝงความรู้สึกลึกซึ้งจนคนถูกเรียกหายใจไม่คล่อง “ เราสองคนคงมีเวลาอยู่ด้วยกัน แบบนี้อีกไม่นาน แต่ระหว่างนี้ ผมอาจจะเผลอ อาจลืมตัว แต่ที่ทำเพราะผมรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ นิหล่ายกโทษให้ผมได้ไหม แม้ว่ามันอาจจะทำให้นิหล่าลำบากใจ”
อนรรฆถอนหายใจ มือเอื้อมไปโอบเอวเล็กบางไว้มั่น สายตาล้ำลึกวาววับจับจิตมองเธออยู่ไม่เว้นวาย พิจารณาทุกส่วนหน้านั่น เขาไร้นิ้วตามไรแก้มนวล เชยคางของเธอขึ้น
ริมฝีปากร้อนระอุทาบลงสนิทแน่นอย่างละมุนบนริมฝีปากนุ่มราวกลีบกุหลาบ จูบของเขานุ่มนวล และการตอบของหญิงสาวนั้นไร้ซึ่งอาการไม่มั่นใจ ลังเล ใดๆ
ครั้งนี้ การตอบสนองนั้นละมุนละไม จนอนรรฆเกือบห้ามใจไม่อยู่
“นิหล่า…” เขากระซิบปากจรดปาก
มือทั้งสองข้างประคองดวงหน้านวลนั่นอย่างทะนุถนอม มองลึกในดวงตาอ่อนหวาน แกมเขินอายของอีกฝ่าย
“เจอกันพรุ่งนี้นะ เราไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกันมานานแล้ว” เขายิ้มบอก รอยยิ้มฉายประกายวาววับยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้า “ผมรอนิหล่าเสมอ นานแค่ไหนก็จะรอ”
พรพิมลรับรู้ถึงสายตาที่ต่างมองมาอย่างชื่นชม นับตั้งแต่ที่เธอก้าวลงจากรถหรู แล้วเดินเข้ามาในบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงเทพฯ
ใบหน้าเล็กผนวกกับนัยน์ตาหวาน รับกับจมูกโด่ง ทำให้ใบหน้านั้นดูคม เมื่อรับกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนวลละเอียด ท่วงท่าของเธอทุกย่างก้าวราวดุจพญาหงส์จึงดูเย้ายวนแก่ผู้พบเห็น
ขนาดริชาร์ดที่…เห็นมานัก ยังไม่วายตะลึง
“อนรรฆมันตาไม่ถึงจริง”
“ไม่หรอก” หญิงสาวกลับบอกเช่นนั้น
อนรรฆ…ตาถึงเสมอ
แต่ตอนนี้ สำหรับเธอแล้ว เงิน…เนรมิตทุกอย่างได้ ทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งกว่าเดิม
เงิน…ซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์ชิ้นงามและเครื่องประดับราคาแพงได้
ตอนนี้เธอมี จนไม่ต้องกลัวว่าใครจะดูถูก
เธอมีมากพอที่จะเรียกพี่เขยของอนรรฆให้มาพบได้ในวันนี้
“เข้าใจว่าคุณกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน” พรพิมลเข้าเรื่องทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้ว่างอีกตัว
“ริชาร์ดบอกคุณแพทแล้วเหรอ” ธาริตหันมองหนุ่มชาวสิงคโปร์ผู้ที่เป็นคนริเริ่มการนัดครั้งนี้
“ใช่ บอกด้วยว่าคุณมีเจ้าหนี้หลายรายที่กำลัง…ตาม” มือเรียวหยิบซองที่มีเช็คอยู่ใบหนึ่งออกมาจากระเป๋าสะพายราคาแพง “เช็คนี่อาจช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็จะช่วยคุณได้มาก ภายใต้เงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไร” คนถามเริ่มไม่ไว้ใจ
และใช่ว่าเขาจะไว้ใจหนุ่มสิงคโปร์ที่เป็นคนชักจูง แล้วยิ่ง…พรพิมล ผู้เป็นคนรักเก่าของอนรรฆ หรือศัตรูหัวใจของลูกสาว เขายิ่งไม่ไว้ใจ
“ดอกเบี้ยไม่คิด” คนมีเงินมากพอย่อมบอกเช่นนั้นกับเศษเงินที่ให้ยืมได้
“ทำไม” ถามได้แค่นั้น แต่ความละโมบทำให้ธาริตต้องต่อ “แล้วเงินที่เหลือ ที่ผมเป็นหนี้ล่ะ”
“นั่นเรื่องของคุณ แต่เงินจำนวนนี้ ฟรีๆ มันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งไม่ใช่หรือ ไม่แน่ ถ้าสิ่งที่คุณช่วยฉันสำเร็จ ฉันก็อาจจะมีอีกก้อนให้”
“ผมจะช่วยได้ไง ในเมื่อ มาเฟียเป็นสิบตามทวงหนี้กับผมอยู่”
คำบอกนั่นทำให้พรพิมลคว้าเช็คใบนั้นกลับมา เก็บเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น หากยังไม่ทันเดินออกไป เสียงเอะอะของธาริตก็ดังลั่นจนโต๊ะข้างๆ ตกใจ
“เดี๋ยวก่อน ตกลงๆ” ยังไง…กำเงิน ก็ยังดีกว่ากำอากาศ “จะให้ช่วยอะไร ว่ามา”
“เรื่องเดียว” ร่างระหงทรุดตังลงนั่งบนโซฟาตัวเดิม “บอกคุณนา ด้วยว่าตอนนี้น้องชายของเขาอยู่กับเด็กพม่าคนนั้นที่ฮูสตัน”
“คุณก็บอกเอง”
“คุณก็รู้ว่าฉันกับคุณนาไม่ลงลอยกันนัก”
ใช่…ถ้าลงรอยกันได้ ป่านนี้ เธอกับอนรรฆก็คงมีความสุขกัน โดยไม่ต้องกังวลถึงใครอื่นอีก
ตอนนั้น…เพราะอังคณา…ขัดขวางสารพัด หวงน้องชาย หวง...ราวจงอางหวงไข่
ตอนนี้…ชี้ทางให้อังคณาไปขัดขวางอนรรฆกับเด็กพม่านั่น
เพราะ…ถ้าเธอไม่ได้อนรรฆแล้ว ใครก็อย่าหวังว่าใครอื่นจะได้ ไม่ว่าจะเป็นนิหล่า มยิ่น ทเว หรือแม้แต่ลูกสาวทั้งสองของธาริต
“พม่าที่ไหนกัน” ธาริตตวัดเสียง ก่อนจะเกทับ “นนท์จีบลูกสาวผมอยู่”
“คุณก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ มีแต่คุณนาที่พยายามยัดเยียด”
“ทำไมผมต้องช่วยคุณด้วย” คำถามเช่นนี้เพราะเห็นว่าอีกฝ่าย...รู้ทัน “ถ้าลูกของผมคนใด คนหนึ่งแต่งกับอนรรฆ เงิน…เราก็มีมากพอ”
“แต่ไม่เท่าของฉัน” รอยยิ้มนั้นฉาบเสน่ห์ “และก็อย่าลืมนะว่า ฉันมีมากกว่าที่นนท์มีมากมายนัก มากพอที่จะมองว่าเช็คใบนี้เป็นเพียงเศษเงิน ที่จะจ้างใคร…ทำอะไรใครก็ได้”
นั่นแค่การสนทนา ไม่ใช่คำขู่ จนคนที่นั่งดูอยู่นอกสนามอย่างริชาร์ดต้องหัวเราะ
“ผลประโยชน์ร่วมด้วยกันทั้งคู่ คุณธาริต คุณจะไปคิดอะไรมากมาย อีกอย่างถ้าลูกของคุณมีความสามารถที่จะ…จับ อนรรฆได้ ก็คงสำเร็จไปนานแล้ว ทุกวันนี้น้องเมียของคุณก็ใช้คุณแพทเป็นเครื่องมือรับหน้าลูกๆ ของคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ จุดประสงค์ของคุณคือเงิน ซึ่งคุณแพทก็ยื่นให้อยู่…ส่วนหนึ่ง”
ริชาร์ดช่างสังเกต และในตอนนี้เขาสังเกตว่า สิ่งที่พูดจี้ใจของคนฟัง
อันที่จริง…คงเป็นเงินในมือเสียมากกว่าที่จี้ใจของคนฟัง
เงิน แม้ไม่มาก แต่ก็คือเงิน
และธาริตก็คงคิดได้จึงคว้าเช็คใบนั้นมา
“บอกคุณนาคืนนี้ เอ…เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมโทรฯ บอกเลยก็แล้วกัน”
“ทางที่ดี บอกลูกๆ ของคุณด้วยว่า อย่าไปยุ่งกับของรักของหวงของคนอื่น บางที เงินที่คุณจะได้ อาจจะมากกว่าหนี้…ที่คุณมี”
ริชาร์ดอุตส่าห์เตือนก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหลังอดีตแม่เลี้ยงออกมา
“อย่าลืมค่าตอบแทนของผมด้วยล่ะ แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอีก”
ของฟรีไม่มีในโลก โดยเฉพาะการใช้เงินที่เคยเป็นของพ่อเขาเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่เขาต้องได้และต้องการ
(ต่อ)