จากมติชนออนไลน์
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า เพียงระยะเวลา ไม่กี่วัน เพจเฟซบุ๊กในกระแส ถึงกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนาน อย่าง เพจ "ทวงคืนผัดกะเพราไม่ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน และหอมหัวใหญ่" จะฮอตฮิต มีผู้กดไลค์ปาเข้าไปกว่า 22,000 ไลค์ เข้าไปแล้ว กลายเป็นประเด็นที่สื่อต่างๆ หยิบไปเล่น
แม้แต่นักวิชาการชื่อดังอย่าง อาจารย์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังหยิบไปพูดถึง หลังผู้ดูแลเพจนี้ แสดงจุดยืนชัดเจน อยู่ข้างผัดกะเพราแบบดั้งเดิม และพร้อมจะส่งเสริมการขายให้ร้านนั้นๆ ทันที หากไม่ใส่เจ้าถั่วฝักยาว กับข้าวโพดอ่อนเข้าไปเจือปน ... โดยจะมีการอัพรูปภาพ ข้าว ราดผัดกระเพรา พร้อมไข่ดาว สูตรออริจินอล มีแค่ใบกะเพรา กับเนื้อสัตว์ อยู่แค่ลำพัง เรา 2-3 อย่าง เท่านั้น พร้อมบอกชื่อร้าน ที่ตั้งประชาสัมพันธ์ ยกย่องกันให้เสร็จสรรพ
ไม่รอช้า ทีมข่าวมติชนออนไลน์ เลยลงพื้นที่ สำรวจตามร้านอาหารตามสั่ง ที่มีเมนู ผัดกระเพรา ต่างๆ เป็นเมนูหลัก ซึ่งแต่ละร้านจะมีรูปร่าง วิธีการปรุง การผัด และใส่วัตถุดิบต่างกันตามสูตรความอร่อย เทียบกันให้เห็นจะจะ
ร้านแรก เข้าคอนเซปต์ จัดเต็ม ผัดกะเพราแบบใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน แครอทและหอมหัวใหญ่เพิ่มลงไป โดยทางเจ้าของร้านให้เหตุผลเหตุที่ใส่สารพัดผัก ลงไปร่วมกับ ผัดกะเพราว่า ช่วยบำรุงสุขภาพ ช่วยให้ลูกค้าได้ทานผักหลากหลายชนิด รวมถึงเพิ่มสีสันให้กับจานอาหารนั้นเป็นอย่างดี เมื่อถามถึงผลตอบรับก็ได้คำตอบว่า ลูกค้าชอบและยังไม่เคยมีใครปฏิเสธ การใส่ผักต่างๆเพิ่มเติมเลย
อีกร้าน ก็ เบสิกๆ ผัดกะเพราแบบดั้งเดิม ตามความพึงใจของเพจทวงคืนฯ นี่ล่ะ ซึ่งเจ้าของร้าน บอกว่า ที่ไม่ได้คิดสูตรใหม่ ครีเอทต้องใส่อะไรลงไป ก็เพราะต้องการรักษาอาหารแบบดั้งเดิมไม่ให้ถูกดัดแปลง
แต่ที่ร้านอาหารบางร้านใส่ผักต่างๆเพิ่มเติม นั่น ก็เพราะ อาจต้องการสร้างสีสันรวมถึงลดต้นทุน จากการใส่เนื้อสัตว์ไปใส่ผักแทน แต่หากลูกค้าต้องการใส่ผักเพิ่ม ทางร้านก็ยินดีจัดไปผัดลงกะทะให้ (นะ)
ไม่ว่าจะผัดกะเพรา มีแค่เนื้อสัตว์ กับใบกะเพรา หรือ ผัดกะเพรา แบบผสมสารพัดผัก ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคก็เป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกรับประทานผัดกะเพราแบบไหน
แหม! ก็เมืองไทย เป็นเมืองที่มีอาหารสมบูรณ์หลากหลายยขนาดนี้ แต่ละร้าน ก็ต้องงัดเมนูพลิกแพลงมาเรียกลูกค้าเข้าร้าน หนีความจำเจกันอยู่แล้ว ร้านไหน อาหารฟิวชั่นมากเท่าไหร่ ก็อาจมีทางเลือก ให้ผู้คนสรรหารับประทานเท่านั้น เพราะถึงอย่างไร ทานอะไรไป ก็ได้คุณค่า ทำให้อิ่มท้องเช่นกัน ... ว่ามั้ย ?
เทียบจะจะ กะเพรา"ฟิวชั่น" ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อนฯลฯ VS กะเพรา "ออริจินอล" แบบไหนน่ากิน?
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า เพียงระยะเวลา ไม่กี่วัน เพจเฟซบุ๊กในกระแส ถึงกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนาน อย่าง เพจ "ทวงคืนผัดกะเพราไม่ใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน และหอมหัวใหญ่" จะฮอตฮิต มีผู้กดไลค์ปาเข้าไปกว่า 22,000 ไลค์ เข้าไปแล้ว กลายเป็นประเด็นที่สื่อต่างๆ หยิบไปเล่น
แม้แต่นักวิชาการชื่อดังอย่าง อาจารย์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังหยิบไปพูดถึง หลังผู้ดูแลเพจนี้ แสดงจุดยืนชัดเจน อยู่ข้างผัดกะเพราแบบดั้งเดิม และพร้อมจะส่งเสริมการขายให้ร้านนั้นๆ ทันที หากไม่ใส่เจ้าถั่วฝักยาว กับข้าวโพดอ่อนเข้าไปเจือปน ... โดยจะมีการอัพรูปภาพ ข้าว ราดผัดกระเพรา พร้อมไข่ดาว สูตรออริจินอล มีแค่ใบกะเพรา กับเนื้อสัตว์ อยู่แค่ลำพัง เรา 2-3 อย่าง เท่านั้น พร้อมบอกชื่อร้าน ที่ตั้งประชาสัมพันธ์ ยกย่องกันให้เสร็จสรรพ
ไม่รอช้า ทีมข่าวมติชนออนไลน์ เลยลงพื้นที่ สำรวจตามร้านอาหารตามสั่ง ที่มีเมนู ผัดกระเพรา ต่างๆ เป็นเมนูหลัก ซึ่งแต่ละร้านจะมีรูปร่าง วิธีการปรุง การผัด และใส่วัตถุดิบต่างกันตามสูตรความอร่อย เทียบกันให้เห็นจะจะ
ร้านแรก เข้าคอนเซปต์ จัดเต็ม ผัดกะเพราแบบใส่ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน แครอทและหอมหัวใหญ่เพิ่มลงไป โดยทางเจ้าของร้านให้เหตุผลเหตุที่ใส่สารพัดผัก ลงไปร่วมกับ ผัดกะเพราว่า ช่วยบำรุงสุขภาพ ช่วยให้ลูกค้าได้ทานผักหลากหลายชนิด รวมถึงเพิ่มสีสันให้กับจานอาหารนั้นเป็นอย่างดี เมื่อถามถึงผลตอบรับก็ได้คำตอบว่า ลูกค้าชอบและยังไม่เคยมีใครปฏิเสธ การใส่ผักต่างๆเพิ่มเติมเลย
อีกร้าน ก็ เบสิกๆ ผัดกะเพราแบบดั้งเดิม ตามความพึงใจของเพจทวงคืนฯ นี่ล่ะ ซึ่งเจ้าของร้าน บอกว่า ที่ไม่ได้คิดสูตรใหม่ ครีเอทต้องใส่อะไรลงไป ก็เพราะต้องการรักษาอาหารแบบดั้งเดิมไม่ให้ถูกดัดแปลง
แต่ที่ร้านอาหารบางร้านใส่ผักต่างๆเพิ่มเติม นั่น ก็เพราะ อาจต้องการสร้างสีสันรวมถึงลดต้นทุน จากการใส่เนื้อสัตว์ไปใส่ผักแทน แต่หากลูกค้าต้องการใส่ผักเพิ่ม ทางร้านก็ยินดีจัดไปผัดลงกะทะให้ (นะ)
ไม่ว่าจะผัดกะเพรา มีแค่เนื้อสัตว์ กับใบกะเพรา หรือ ผัดกะเพรา แบบผสมสารพัดผัก ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคก็เป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกรับประทานผัดกะเพราแบบไหน
แหม! ก็เมืองไทย เป็นเมืองที่มีอาหารสมบูรณ์หลากหลายยขนาดนี้ แต่ละร้าน ก็ต้องงัดเมนูพลิกแพลงมาเรียกลูกค้าเข้าร้าน หนีความจำเจกันอยู่แล้ว ร้านไหน อาหารฟิวชั่นมากเท่าไหร่ ก็อาจมีทางเลือก ให้ผู้คนสรรหารับประทานเท่านั้น เพราะถึงอย่างไร ทานอะไรไป ก็ได้คุณค่า ทำให้อิ่มท้องเช่นกัน ... ว่ามั้ย ?