Ref:รัฐอาจตัดสินใจ ตั้ง 3 จังหวัดชานแดนใต้เป็น มหานครปัตตานี โดย คุณชานเมือง
http://ppantip.com/topic/30225621
การเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพดับวิกฤติไฟใต้จะเริ่มเปิดการแสดง
ตั้งแต่วันที่ 28 เดือนนี้เป็นต้นไปมีการกำหนดตัวแทน 3 ฝ่าย
ที่จะพูดคุยแบบไตรภาคีฝ่ายมาเลเซีย มอบให้ ดาโต๊ะซัมซา มีน
อดีต ผอ.ข่าวกรองแห่งชาติเป็นผู้ประสานการเจรจา
ฝ่ายไทยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ
เป็นหัวหน้าทีม ฝ่ายกลุ่มแบ่งแยกดินแดน มี “นายฮัสซัน ตอยิบ”
แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นหัวขบวน“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าการพูดคุย
อาจใช้เวลายาวเป็นปีเริ่มจากสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากนั้นจึงเข้าสู่การรับฟังความคิดเห็นต้องมีข้อเสนอ มีข้อต่อรอง
เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันเมื่อได้ข้อตกลงร่วมกัน ยังต้องให้เวลาแกนนำ
บีอาร์เอ็นไปเกลี้ยกล่อมกลุ่มติดอาวุธ อาร์เคเค ให้เห็นพ้องที่จะยุติ
ความรุนแรงอย่างเป็นรูปธรรมมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนฉายหนังโฆษณา
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพครั้งนี้มีเงื่อนไขครบ 3 ประการ
1, รัฐบาลมาเลเซียได้แสดงความจริงใจอาสาเป็นโซ่ข้อกลาง
ครั้งแรกในรอบ 10 ปี
2, รัฐบาลไทยแสดงความจริงใจจะใช้แนวทางสันติวิธีแก้ปัญหา 3 จังหวัด
ภาคใต้เพื่อนำสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้อย่างยั่งยืน
3, ขบวนการบีอาร์เอ็น ก็แสดงความจริงใจยอมเปิดเผยตัวเองเข้าสู่ขบวน
การปรองดอง ยอมทำข้อตกลงร่วมกันแก้ปัญหาขัดแย้งในกรอบ
รัฐธรรมนูญไทย
นั่นคือยอมลดเงื่อนไขแบ่งแยกดินแดนโดยตรง
คำถามคือ ถ้าไม่เริ่มต้นนับหนึ่ง จะนับสาม? นับสี่? นับห้า? ได้อย่างไร?
นี่เพิ่งเริ่มก้าวที่หนึ่งเท่านั้นเอง ยังต้องก้าวต่อไป และต่อไป
และต่อไปอีกหลายก้าวกว่าจะถึงเป้าหมายที่แท้จริง
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยว่าการพูดคุยสันติภาพต้องเริ่มจากแกนนำ
ฝ่ายอุดมการณ์ก่อนก้าวลงไปถึงกองกำลังกลุ่มอาร์เคเค
เริ่มจาก “ฮัสซัน ตอยิบ” เพื่อก้าวต่อไปถึง “อับดุลเลาะ แวมะซอ”,
อิสมาแอ ยะหลง, มะแซ อุเซ็ง
และ สะแปอิง บาซอ ผู้นำสูงสุดของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
แน่นอนว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่กลุ่มนักรบติดอาวุธอาร์เคเค
กลุ่มที่นิยมความรุนแรงสุดขั้ว จะเกิดความไม่พอใจ
และออกอาการต่อต้านการพูดคุยสันติภาพ 3 ฝ่ายสุดลิ่มประตู
เพราะแนวทางสันติวิธี ขัดแย้งกับกลุ่มสุดโต่งสุดขั้วอย่างสิ้นเชิง
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจเช่นกันที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
จะดาหน้าออกมาคัดค้านข้อตกลงการพูดคุยสันติภาพ 3 ฝ่าย
กันอึกทึกครึกโครมอ้างว่าการทำข้อตกลงพูดคุยสันติภาพเท่ากับ
รัฐบาลไปเซ็นสัญญากับโจรเป็นการตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรง
การยอมให้รัฐบาลมาเลเซียเป็นคนกลาง เท่ากับยอมรับให้ต่างชาติ
แทรกแซงปัญหาภายในของไทย
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าฝ่ายค้านมองโลกแง่ร้ายเกินควร
การพูดคุยสันติภาพเกิดขึ้นได้เพราะรัฐบาลมาเลเซียยอมเป็นคนกลาง
ประสานทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยแก้ความขัดแย้งอย่างสันติวิธี
การเซ็นสัญญาแก้ปัญหาภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย
คือการตกลงยืนยันจะไม่มีการแบ่ง แยกดินแดน!!
พรรคประชาธิปัตย์คุยว่ารู้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้อย่างดี
แต่เป็นรัฐบาล 2 ปีครึ่ง ก็ไม่เห็นทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
ให้โอกาสรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลองทำบ้างไม่ได้หรือโยม.
แม่ลูกจันทร์
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/330877
เอามาฝากกองเชียร์ คุณชานเมือง ...แบบคุณม่วงคัน และมิตรสหายค่ะ
"แม่ลูกจันทร์" เขียนใน "ไทยรัฐ" อ่านได้ทั้งจาก สังคมภายนอก
และโลกไซเบอร์ .... มาเทียบกันดู ...ใครมีมุมมอง ...กว้างกว่ากัน
เอามาให้เพื่อนๆ เปรียบเทียบกันนะคะ
หรือว่า "ทักษิณ" ซื้อ "แม่ลูกจันทร์" ไปซะแล้ว 
ถึงยากก็ต้องลอง ....แม่ลูกจันทร์ ...ไทยรัฐออนไลน์ .....แตกประเด็นกระทู้ คุณ "ชานเมือง"
http://ppantip.com/topic/30225621
การเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพดับวิกฤติไฟใต้จะเริ่มเปิดการแสดง
ตั้งแต่วันที่ 28 เดือนนี้เป็นต้นไปมีการกำหนดตัวแทน 3 ฝ่าย
ที่จะพูดคุยแบบไตรภาคีฝ่ายมาเลเซีย มอบให้ ดาโต๊ะซัมซา มีน
อดีต ผอ.ข่าวกรองแห่งชาติเป็นผู้ประสานการเจรจา
ฝ่ายไทยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ
เป็นหัวหน้าทีม ฝ่ายกลุ่มแบ่งแยกดินแดน มี “นายฮัสซัน ตอยิบ”
แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นหัวขบวน“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าการพูดคุย
อาจใช้เวลายาวเป็นปีเริ่มจากสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากนั้นจึงเข้าสู่การรับฟังความคิดเห็นต้องมีข้อเสนอ มีข้อต่อรอง
เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันเมื่อได้ข้อตกลงร่วมกัน ยังต้องให้เวลาแกนนำ
บีอาร์เอ็นไปเกลี้ยกล่อมกลุ่มติดอาวุธ อาร์เคเค ให้เห็นพ้องที่จะยุติ
ความรุนแรงอย่างเป็นรูปธรรมมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนฉายหนังโฆษณา
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพครั้งนี้มีเงื่อนไขครบ 3 ประการ
1, รัฐบาลมาเลเซียได้แสดงความจริงใจอาสาเป็นโซ่ข้อกลาง
ครั้งแรกในรอบ 10 ปี
2, รัฐบาลไทยแสดงความจริงใจจะใช้แนวทางสันติวิธีแก้ปัญหา 3 จังหวัด
ภาคใต้เพื่อนำสันติสุขกลับสู่ชายแดนใต้อย่างยั่งยืน
3, ขบวนการบีอาร์เอ็น ก็แสดงความจริงใจยอมเปิดเผยตัวเองเข้าสู่ขบวน
การปรองดอง ยอมทำข้อตกลงร่วมกันแก้ปัญหาขัดแย้งในกรอบ
รัฐธรรมนูญไทย
นั่นคือยอมลดเงื่อนไขแบ่งแยกดินแดนโดยตรง
คำถามคือ ถ้าไม่เริ่มต้นนับหนึ่ง จะนับสาม? นับสี่? นับห้า? ได้อย่างไร?
นี่เพิ่งเริ่มก้าวที่หนึ่งเท่านั้นเอง ยังต้องก้าวต่อไป และต่อไป
และต่อไปอีกหลายก้าวกว่าจะถึงเป้าหมายที่แท้จริง
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยว่าการพูดคุยสันติภาพต้องเริ่มจากแกนนำ
ฝ่ายอุดมการณ์ก่อนก้าวลงไปถึงกองกำลังกลุ่มอาร์เคเค
เริ่มจาก “ฮัสซัน ตอยิบ” เพื่อก้าวต่อไปถึง “อับดุลเลาะ แวมะซอ”,
อิสมาแอ ยะหลง, มะแซ อุเซ็ง
และ สะแปอิง บาซอ ผู้นำสูงสุดของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
แน่นอนว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจที่กลุ่มนักรบติดอาวุธอาร์เคเค
กลุ่มที่นิยมความรุนแรงสุดขั้ว จะเกิดความไม่พอใจ
และออกอาการต่อต้านการพูดคุยสันติภาพ 3 ฝ่ายสุดลิ่มประตู
เพราะแนวทางสันติวิธี ขัดแย้งกับกลุ่มสุดโต่งสุดขั้วอย่างสิ้นเชิง
“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจเช่นกันที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
จะดาหน้าออกมาคัดค้านข้อตกลงการพูดคุยสันติภาพ 3 ฝ่าย
กันอึกทึกครึกโครมอ้างว่าการทำข้อตกลงพูดคุยสันติภาพเท่ากับ
รัฐบาลไปเซ็นสัญญากับโจรเป็นการตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรง
การยอมให้รัฐบาลมาเลเซียเป็นคนกลาง เท่ากับยอมรับให้ต่างชาติ
แทรกแซงปัญหาภายในของไทย
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าฝ่ายค้านมองโลกแง่ร้ายเกินควร
การพูดคุยสันติภาพเกิดขึ้นได้เพราะรัฐบาลมาเลเซียยอมเป็นคนกลาง
ประสานทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยแก้ความขัดแย้งอย่างสันติวิธี
การเซ็นสัญญาแก้ปัญหาภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทย
คือการตกลงยืนยันจะไม่มีการแบ่ง แยกดินแดน!!
พรรคประชาธิปัตย์คุยว่ารู้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้อย่างดี
แต่เป็นรัฐบาล 2 ปีครึ่ง ก็ไม่เห็นทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน
ให้โอกาสรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลองทำบ้างไม่ได้หรือโยม.
แม่ลูกจันทร์
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/330877
เอามาฝากกองเชียร์ คุณชานเมือง ...แบบคุณม่วงคัน และมิตรสหายค่ะ
"แม่ลูกจันทร์" เขียนใน "ไทยรัฐ" อ่านได้ทั้งจาก สังคมภายนอก
และโลกไซเบอร์ .... มาเทียบกันดู ...ใครมีมุมมอง ...กว้างกว่ากัน
เอามาให้เพื่อนๆ เปรียบเทียบกันนะคะ
หรือว่า "ทักษิณ" ซื้อ "แม่ลูกจันทร์" ไปซะแล้ว