Oh my destiny เมื่อรักแผลงฤทธิ์ 4.1

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3.1 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 3.2 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เสียงหัวเราะดังระเบิดออกไปนอกห้องหกเหลี่ยมที่ถูกกั้นผนังด้วยกระจกใสกลบเสียงฝนที่กำลังตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง ภายในห้องมีชุดโซฟาขนาดใหญ่สีขาวตั้งอยู่กลางห้อง แสงสีส้มลอดออกมาจากเตาผิง เจ้าของบ้านกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาสีขาวหน้าเตาผิง นัยน์ตาสีมรกตก้มมองแฟ้มเอกสารในมือ เขาไม่เห็นว่ามันจะน่าขำตรงไหน หน้าเรียวส่ายหน้าเบาๆพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่เห็นด้วยนัก ถึงเสียงคุยจะครื้นเครงแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาละความสนใจจากแฟ้มเอกสารนั้นไปได้

ใครอีกคนที่นั่งจิบไวน์อยู่ปลายเท้าใบหน้าหวานหยดทำให้เขาดูละม้ายคล้ายจะเป็นหญิงสาวแสนบอบบาง เขากำลังยิ้มให้ชายอีกคนที่นั่งดีดแกรนด์เปียโนอีกมุมสุดของห้องเสียงเปียโนพริ้วไหวไปตามเสียงหัวเราะของพวกเขา ใครที่อยู่ถัดไปเริ่มเล่าเรื่องทำให้ชายที่นั่งข้างกันต้องเบาเสียงเปียโนลงเพื่อฟังเรื่องราวแสนตลกให้ได้ถนัดหูขึ้น

“เชื่อมั๊ยว่าดอกไม้กระเด็นโดนหน้าอย่างจัง”นัยน์ตาสีฟ้าเปร่งประกายระยิบระยับขณะเริ่มเล่า

“ไม่เป็นเรื่องเหรอพี่”คนเล่นเปียโนถามขึ้นพร้อมกับเริ่มพรมนิ้วเป็นจังหวะน่าตื่นเต้น

“แกน่าจะไปเห็นรังสี เกือบจะทำคนทั้งห้องเป็นมะเร็งตาย”

“แล้วหล่อนตายมั๊ย”คนนั่งหน้าเตาผิงโยนไม้ท่อนเล็กเข้าไปในเตา

“จะกล้าเหรอ ผู้หญิงเป็นเพศแม่เป็นเหมือนดอกไม้ไว้ประดับโลกใบนี้”ชายหนุ่มสวยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่นลึก เขาเขย่าไวน์ในแก้วไปมา

“ผมว่ามันไม่ใช่เหตุผลนั้นหรอกมั๊ง พี่ชอบหล่อนแล้วสิ”คนดีดเปียโนสรุป เปลี่ยนทำนองเป็นหวานซึ้งให้เข้ากับบรรยากาศเขาหัวเราะรื่น นัยน์ตาสีน้ำตาลยิ้มกรุ่มกริ่ม

“ชอบเลยเหรอ”คนนั่งหน้าเตาผิงหัวเราะลุกขึ้นมาหยิบแก้วไวน์จิบเบาๆเหลือบตาคมกริบมองชายที่ถูกพาดพิงนั่งอ่านเอกสารไม่รู้สึกรู้สาอยู่บนโซฟา

“ถ้าไม่ชอบจะยอมให้สาดน้ำขนาดนั้นเหรอ เป็นคนทั่วไปคงโดนถล่มเละตั้งแต่รอบแรกละนี่นั่งให้โดนน้ำสาด พี่ว่าธรรมดาที่ไหนแม่สาวไทยคนสวยนั้น”หลายคนในวงเริ่มคล้อยตาม อยากให้คนที่นอนเหยียดยาวเฉลยเต็มทนเพราะการทายใจชาร์ลถูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก จนหลายครั้งพวกเขาก็เอามาเป็นเกมส์เล่นกินเงินกินบ้านกันสนุกสนาน “พี่เฉลยผมดีกว่า”

“แกพนันอะไร”ชาร์ลถามสั้นๆมีหรือเขาจะไม่รู้ว่าหนุ่มนักเปียโนที่มีใบหน้าหยกเปื้อนยิ้มกรุ่มกริ่มกับคุณชายเจ้าระเบียบที่แสนจะร่าเริงหน้าเตาผิงกำลังเล่นอะไรอยู่ เขาถึงได้พยายามเสนอความคิดของตัวเองจนออกนอกหน้าขนาดนี้

“ลานสกีที่เทือกเขาแอลฟ์พี่”คนถูกถามรีบพรวดออกมาอย่างรวดเร็ว

“ความชอบมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายแค่มองหน้า”ชาร์ลอธิบายเสียงเรียบราวกับรู้จักความชอบเป็นอย่างดี หนุ่มหน้าหวานเลิกคิ้วมองความคิดแปลกๆของบุคคลบนโซฟาสำหรับเขาแล้วจะชอบอะไรแทบจะไม่ต้องใช้เวลาก็ว่าได้

“แต่ผมได้ยินว่าพี่ก็ยอมไปหาหล่อนมาสามเดือนติดละ แถมยังพากันไปดูหนังเล่นสวนสนุกทำบุญกันอีก”นักเปียโนรีบเถียง กิจกรรมเด็กๆแบบนั้นชาร์ลหรือจะทำถ้าไม่มีอะไรพิเศษจริงๆ เมื่อดูภาพที่จ้างให้นักสืบไปสืบมาเขาก็แทบอยากจะเอาไปส่งให้หนังสือพิมพ์จริงๆจะได้เลือกประโคมข่าวพี่ชายของเขากับแม่นางแบบสุดสวยที่เบื้องหลังลึกลับนั่นเสียที

ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นรูปพวกเขาก็หัวเราะกันออกมายกใหญ่เริ่มจากชาร์ลมาหาเอวาแต่เช้านั่งทำงานรอจนเธอทำงานเสร็จก็สองทุ่มกว่าแค่เขารอคนอื่นได้นานขนาดนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วชาร์ล อิริแกนรอคนอื่น พอทำงานเสร็จเธอก็พาชายไปเดินห้างด้วยที่ท่าทางหวาดกลัวและระแวงสุดขีด แต่เธอก็พยายามที่จะทำใจดีสู้เสืออยู่นั่น พาเขาไปซื้อน้ำป๊อปคอร์น และดูหนัง ทั้งๆที่หน้าชายหนุ่มบอกบุญไม่รับด้วยซ้ำ ขณะที่รอเขาก็ถือไอแพดทำงานตลอดเวลา เธอพูดอะไรเขาก็ตอบเพียงใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องของเธอ เป็นเดทที่น่าเบื่อที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา

ครั้งที่สองเธอทำตัวว่างตั้งแต่เช้ายอมที่จะไม่ขายอาหาร ขายเพียงน้ำเท่านั้น เพื่อหาเขาไปเล่นเครื่องเล่น โดยเขาก็ยอมเล่นกับเธอทุกอย่างด้วยใบหน้าที่นั่งเฉยไม่ว่าจะเครื่องเล่นหวาดกลัวหวาดเสียวแค่ไหน เธอจะกรีดร้องกระโดดเกาะแขน หรืออะไรใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยความเรียบเฉยนิ่งสนิทจนเธอแอบหายใจทิ้งหลายต่อหลายหน ใครจะมองจะจ้องอย่างไรเขาก็ปล่อยให้พวกนั้นทำ ส่วนเขาก็ทำตัวราวกับอากาศในโลกมีเพียงงานเท่านั้น เธอจะวิวาทหงุดหงิดเขาก็ปล่อยให้เธอทำเหมือนเขาไม่เห็นเธออยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ครั้งล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นเมือสองวันก่อน เธอพาเขาไปทำบุญที่วัดปล่อยนกปล่อยปลา ดูจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวไปปล่อยปลาแต่แล้วเธอก็ทำท่าจะตกลงไปในน้ำชาร์ลมีสีหน้าเหมือนจะตกใจเล็กน้อยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาพยายามจะคว้าตัวเธอเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน หญิงสาวร่วงลงน้ำท่านกลางสายตาคนทั้งไป ระหว่างดูคลิปเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากนักสืบนั่นทำให้สามหนุ่มที่นั่งจ้องหัวเราะแถกตามไป แต่พอหล่อนตกน้ำเขาก็ปล่อยให้หล่อนขึ้นมาเองโดยตัวเองไปนั่งรอสบายใจบนรถ ที่น่าแปลกคือเขามีเสื้อผ้าที่เธอจะสามารถเปลี่ยนได้เตรียมพร้อมอยู่ที่นั่นแต่ที่น่าสงสัยคือเขาไปหามาจากไหนกันเพียงช่วงเวลาที่เธอขึ้นมาจากน้ำเพียงแปบเดียว

ทั้งหมดทั้งมวลถ้าเขาไม่ชอบไม่คิดจะทำก็ไม่มีใครบังคับเขาได้ทั้งสิ้น

“มันเป็นข้อตกลง”

“ผมไม่เห็นพี่จะได้อะไร จากการเล่นเครื่องเล่นเด็กพวกนั้นยกเว้นความสุขใจ”

“ฉันเบื่อชีวิตแบบนี้”สี่คนถลึงตามองชายหนุ่มที่นอนอยู่บนโซฟา เขาปิดเอกสารลง “บางทีควรจะมีจุดมุ่งหมายในชีวิตเรื่องอื่นบ้าง”

“เช่นเรื่องผู้หญิง”โดมินิคยกตัวอย่าง มองหน้าเขานิ่ง

“นอกจากพวกโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ก็ควรจะเริ่มหันมามองร้านอาหารบ้าง”

“เธอเป็นแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยก็เลยอยากจะได้เธอมาทำงานด้วย”ไมเคิลคาดการณ์ตามความน่าจะเป็นที่พอจะเป็นไปได้ที่สุด “ถ้าแต่งงานกับเธอ นายก็ไม่ต้องจ้างพ่อครัว หรืออาจารย์ทำอาหารราคาแพง” โดมินิคไม่อยากจะให้การคาดการณ์ของไมเคิลเป็นไปได้เลยแม้แต่นิด

“ถ้าสร้างร้านอาหารให้เธอซักร้านภายใต้อิริแกนกรุ๊ป มันก็จะมีชื่อเสียงเธอก็จะสอนพ่อครัวฉันทำอาหาร ตอนหลังค่อยซื้อตัวกลับ ถือว่าเป็นการลงทุนให้เธอด้วยวินวิน”สี่คนที่นั่งฟังคำอธิบายของชาร์ลตะลึงจนตาค้าง “จริงๆฉันก็ไม่เห็นประโยชน์ของหล่อนเท่าไหร่เพราะเธอเป็นนางจอมมาร แต่ถ้าฉันแต่งงานแล้วก็จะลดจำนวนผู้หญิงที่เข้ามายุ่งได้อีก ได้เงินไปทำบุญอีกหลายปอนด์”

“นายมันเหลือเชื่อ”ชายที่ยืนข้างแกรนด์เปียโนตาค้าง

“สงครามยังไม่จบอย่างเพิ่งนับศพทหาร”คนดีดเปียโนรีบห้ามเมื่อคนที่นั่งอยู่หน้าเตาผิงทำท่ากุมชัยชนะไว้ เขาเองก็ทำธุรกิจแต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการลดต้นทุนจะสำคัญกับชาร์ล อิริแกนขนาดนี้

“นายมันเห็นแก่ตัว นายจะเห็นแก่ตัวกับใครก็ได้ทำไมต้องผู้หญิง”คนจิบไวน์นิ่วหน้าไม่พอใจ

“ฉันว่าเป้าหมายของนายก็คือการประสบความสำเร็จในธุรกิจเหมือนเดิมนั่นแหละชาร์ล”ไมเคิลสรุป ไม่ว่าจะมองยังไงก็ยังเป็นธุรกิจอยู่นั่น นี่หรือที่เรียกได้ว่าเป้าหมายใหม่ “ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะคือเรื่องแบบนี้ได้เลยชาร์ล”

“ถูกเลยไมค์”โดมินิครีบสนับสนุน

“ฉันมีทุกอย่างแล้วตอนนี้ทำแค่แผ่กิ่งก้านสาขาก็พอ”

“นางควรจะผลิดอกออกผลให้ร่มเงาไปด้วย”

“นายหมายถึงสืบพันธ์”เขาตั้งคำถามออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คนฟังทั้งสี่ถึงกับถลึงตาใส่กัน ถอนหายใจแน่หรือว่าเป็นความคิดของคนที่ได้ชื่อว่ามีสมองเป็นอาวุธ หึหึฉายานี้อาจมากไปสำหรับชาร์ลบางทีเขาอาจจะไม่มีสมองก็เป็นได้  

“ผลิดอกออกใบของฉันหมายถึงทำให้ตัวเองดูมีค่าขึ้นมาเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์ มีร่มเงาสายงามพวกนั้น”

“แตกแขนงมากนายว่ามันไม่สมบูรณ์เหรอ มีคนมากมายที่หวังจะพึ่งฉันทั้งนั้น”

“ฉันหมายถึง หมายถึง นายมันไม่ใช่ต้นไม้”ในที่สุดไมเคิลก็ทำท่ายอมแพ้ โดมินิคก็ได้แต่ถอนหายใจ “นายมันเป็นแค่กิ่งไม้ที่ไม่มีใบแล้วนายจะเหี่ยวตายในที่สุด”

“นายเป็นอะไรมากรึเปล่าชาร์ล”โอลิเวอร์ถามหน้ามึน

นับวันปัญหาทางด้านความรู้สึกของชาร์ลก็เหมือนจะแสดงออกมามากขึ้นเรื่อยๆยิ่งเรื่องความรู้สึกที่เรียกว่ารักมัน เขาไม่คิดแม้แต่น้อยว่าผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนเขาที่มักจะพูดน้อยเสมอคิดอะไรง่ายๆได้กลับหัวและสุดขั้วขนาดนี้

“งั้นผมของถามพี่จริงๆถ้าพี่ไม่ชอบหล่อนทำไมพี่ไม่จัดการหล่อนไปซ่ะให้มันรู้เรื่องรู้ราวตั้งแต่วันแรก ถ้าพี่จะอ้าปากบอกผมว่าพี่ไม่รู้เรื่องที่ดินนั่นเป็นของพี่ผมว่าพี่ควรจะคิดใหม่ ผมรู้จักพี่ดี รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะพันครั้งพี่ไม่มีทางปล่อยช่องว่างให้ผู้หญิงธรรมดาๆชนะพี่ได้หรอก”

“....”นั่นสิเขาเองก็แปลกใจที่ตัดสินใจแปลกๆลงไป ทั้งๆที่เอาเรื่องบ้านกับร้านอาหารของหล่อนมาพูดมันก็จบ แต่ตอนนั้นเขานึกไม่ถึงจริงๆว่าอะไรที่ทำให้เธอกล้าแสดงท่าทางเหนือกว่าแบบมั่นใจสุดๆกัน ใบหน้าเธอตอนนั้นออกจะมั่นใจเกินร้อยว่าอย่างไรเสียเธอก็จะต้องชนะเขาแน่ นั่นทำให้เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยงเดินหมากตามที่วางแผนไว้ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นทำให้เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรรุนแรงลงไป ทั้งๆที่ปกติแล้วเขาเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียเป็นที่สุด ไม่ว่าครั้งไหนๆเขาจะต้องเหนือกว่าเท่านั้น

พอครั้งที่สองที่เขาเจอหน้าเธอ ก็ให้เธอเอาน้ำสาดหน้าง่ายๆแล้วลุกจากไปถึงจะโกรธแต่เขาก็ไม่ได้โยนไพ่ตายใส่เธออย่างจริงๆจังๆทั้งที่จะทำก็ทำได้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรแม้ซักนิด ไหนจะสวนสนุกที่เกิดมาชาตินี้ไม่คิดจะเล่น จริงอยู่ที่เขามีท่าทางแปลกๆ คิดอะไรแปลกๆเวลาที่อยู่กับเธอ แต่... เขากลับไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย ออกจะรำคาญหล่อนที่พูดมากจนอยากจะเอาทิชชู่ยัดปากไปหลายครั้ง และเบื่อที่หล่อนดูไม่มีสีสันต์อะไรซักนิด กิจวัตรทั้งจำเจและซ้ำซาก

“ถ้าเทียบกับอแมนด้า อแมนด้าก็พิเศษกว่า”ชาร์ลสรุปในที่สุด เขากำลังพูดถึงนางแบบสาวสวยที่กำลังเป็นข่าวอยู่กับเขาในตอนนี้

“พี่ไม่เห็นจะเด็จขาดกับหล่อนเหมือนอแมนด้าเลย”ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบมีเพียงอลัน น้องเล็กของกลุ่มเท่านั้นที่กล้าที่จะถามอะไรชาร์ลตรงๆ

“สงสัยจะเก็บไว้เป็นของเล่น”เขาตอบเสียงเรียบ เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมแต่ที่แน่ๆเขาไม่ได้จัดหล่อนไว้ในพวกผู้หญิงที่น่าสนใจเท่าไหร่

“ของเล่น? ผู้หญิงไม่ใช่ของเล่นนะชาร์ล”โดมินิคค้านเสียงแข็ง ชาร์ลเลิกคิ้วเล็กน้อย

“ฉันก็ไม่รู้ อาจจะไม่ใช่ของเล่นแต่ก็ไม่ได้จัดอยู่ในพวกสิ่งของที่น่าสนใจ”อลันขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยจะเชื่อในคำพูดของชายตรงหน้านัก

“เชื่อผมเถอะ นับจากพรุ่งนี้ชีวิตพี่จะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ พี่จะมานึกเสียใจตอนหลังไม่ได้แล้วที่ใช้ทุกวิถีทางบังคับพี่สะใภ้แล้วยังไม่เห็นค่าพี่สะใภ้อีก”อลันมั่นใจเกินร้อยว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องชนะพนันแน่ เขาไม่มีทางยอมเสียลานสกีไปทั้งยังต้องได้เพิ่มอีกเท่านั้น รอยยิ้มกรุ่มกริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่ารุ่นน้องสุดเจ้าเล่ห์ของพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ที่แน่ๆสิ่งที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องดีแน่ โอลิเวอร์หัวเราะหึๆในลำคอเขาเองก็ไม่อยากจะเสียลานสกีไปแต่ถ้าความคิดชั่วร้ายของอลันจะทำให้ชาร์ลเหมือนคนปกติมากขึ้น บางทีเขาอาจจะต้องพนันเรื่องอื่นอีกเพื่อเอาลานสกีกลับมาในตอนหลัง





เมาส์มัน..............
ขอบคุณผู้อ่านน่ารักที่หลงเข้ามาอ่านมาเม้นนะจ้า
^_^ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยคะ อย่างไรก็ฝากนิยาย ฝากเม้น ฝากติดตามด้วยยนะคะ อิอิ

แบบว่ามันนี้อึมครึมจังเลย เฮ้ยยยยย ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เลยเหรอเนี่ย - -^
มีพรีเทสไฟนอลด้วย >O< บึ้ยๆอากาศแบบนี้ใครเขาอยากจะตื่นเช้ากัน เฮ้ยยย
มันฤดูอะไรกันน้อ T_T ใครที่มีสอบเหมือนเค้าก็สู้ๆแล้วกันคะ ใครไปทำงานก็ไฟติ้งน้อ
แต่จะว่าไป... อาจจะดีกว่ามีแดดแผดเผาก็ได้เน๊อะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่