ความขี้ลืมของเขา ทำให้เรารู้สึกผิด (หลักการครองเรือน ที่เพิ่งจะคิดได้วันนี้)

กระทู้สนทนา
ก่อนที่จะเข้าเรื่องว่า เขาลืมอะไร จนทำให้เรารู้สึกผิด ขอเกริ่นก่อนว่าคือเราแต่งงานมาได้ 3 ปีกว่าๆแล้วค่ะ เราแต่งงานปุ๊บสามีก็ต้องมาเรียนต่อที่ต่างประเทศปั๊บ เราลาออกจากงานเพื่อติดตามสามีมาก็เพื่อมาปฏิบัติภาระกิจอันยิ่งใหญ่คือดูแลให้เขากินอิ่ม นอนหลับ เป็นกำลังใจให้เรียนหนังสือจบไวๆ จะได้กลับบ้านกลับช่องกันเสียที

เราสองคนใช้ชีวิตในต่างประเทศก็จริงๆ แต่เราก็กินอยู่เหมือนตอนที่อยู่เมืองไทยเลย คือต้องกินข้าว 3 มื้อเช้า-เที่ยง-เย็น ที่ต้องมีข้าวเพราะหนุ่มร่างท้วมของเราไม่ค่อยชอบกินอาหารฝาหรั่งพวก หนมปังปิ้ง คอนเฟล็ค แซนวิช พาสต้า มันฝรั่ง ฯลฯ เหตุผลหลักคือมันไม่อิ่ม ไม่อยู่ท้อง และไม่ถูกปาก (อ่ะแน่ะ ถึงแม้จะท้วมแต่เขาก็แอบเรื่องเยอะเรื่องของกินน้า) และที่สำคัญถ้ากินอาหารพวกนี้ตอนเช้า ตอนสายๆ ท้องใหญ่ๆมันก็ส่งเสียงก่อกวนเพื่อนๆในห้องให้เจ้าของท้องเขิลลลน่านเอง หน้าที่หลักของเราก็คือดูแลเรื่องอาหารการกิน เพราะกองทัพบ้านเราจะเดินได้ด้วยท้อง 555 โดยเฉพาะอาหารกลางวันของสามี ที่เราจะต้องทำเตรียมใส่กล่องใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนอน เนื่องจากเราทำงานตอนเย็น กว่าจะกลับถึงบ้านก็สี่ทุ่มแล้ว ทำให้เราตื่นนอนก่อน 8 โมงเช้าได้ยากมาก  ครั้นจะตื่นมาทำกระเพราหมูสับ ทำข้าวผัดอร่อยๆ หรือเส้นเล็กผัดซีอิ๊ว ตอน 7 โมงเช้านี่ ขอโทษนะฮ่ะ เดี๊ยนไม่ไหวจริงๆค่ะ เลยต้องใช้วิธีทำใส่ตู้เย็นไว้แบบนี้ล่ะฮ่ะ (ฉันยอมนอนดึก แต่ขอล่ะ อย่าให้ฉันตื่นเช้าละกัน) แต่ถ้าวันไหนที่หนุ่มเหลือน้อยของเราลืมหยิบกล่องข้าวไป (อ๊ะ แสดงว่าลืมบ่อย) สิ่งแรกและสิ่งเดียวที่เขาจะเลือกกินที่มหาลัยคือ Subway เพราะถูกปาก และอยู่ท้องมากกว่าอย่างอื่น (จากการสุ่มกินอาหารมาร่วมสองปี)

เข้าเรื่องเลยละกัน วันนี้สามีเรามีเรียนเช้าต้องออกบ้านก่อน 8 โมงเช้า (แน่นอนเรายังไม่ตื่น) จริงๆมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากบ้านมาก แต่ก็ต้องออกเช้าเพราะต้องไปหาที่จอดรถ ด้วยหน้าที่ที่ไม่เคยขาดตกบกพร่องของศรีภรรยา ตอนเช้าก็แว้บออกมากำชับหนุ่มเหลือน้อยว่า พี่อย่าลืมกล่องข้าวกลางวันกับช้อนนะ (แน่ะ ฉันรอบคอบจังเลย แต่ฉันคิดไม่ได้ไปมากกว่านี้หรอกนะว่าฉันควรทำอะไรมากกว่าการกำชับ)  สามีก็ตบปากรับคำอย่างหนักแน่นพร้อมๆกับนั่งกินไข่พะโล้เป็นอาหารเช้า  อย่างที่บอกว่าเราต้องกำชับเพราะถ้าลืมข้าวแล้วหลักๆคือ ต้องหาอะไรไม่ถูกปากกิน และถ้าเป็นแซนวิชที่ฝรั่งทั่วไปกินเป็นอาหารกลางวันกันเพียงหนึ่งชิ้นแล้วอยู่ท้อง ของสามีเราต้อง 2-3 ชิ้นค่ะ แน่นอนว่ามันเปลือง และไม่อยู่ท้องถึง 4 โมง แต่เรื่องช้อนกับส้อมนี่ก็ต้องเน้นเป็นพิเศษเหมือนกัน (คือบางทีพี่ท่านหยิบกล่องข้าวไปค่ะ แต่ไม่เปิดลิ้นชักหยิบช้อนไปด้วย) เพราะพี่ท่านจะรู้สึกเซ็งและหงุดหงิดเวลากินข้าวมากๆการกินข้าวกับส้อม เป็นเรื่องที่ทำให้อาหารมื้อนั้นไม่อร่อยลงไปทันที (ถึงแม้ว่าเรารู้ตัวว่าอาหารที่เราทำไปมันอร่อยและน่ากินมว๊ากขนาดไหน) ฝรั่งไม่ใช้ช้อนกินอาหาร ดังนั้นที่โรงอาหารโรงเรียนก็จะมีส้อมพลาสติกให้ใช้แก้ขัดไปก่อน แต่ก็เข้าใจอ่ะว่ามันไม่ค่อยจะล่ายหลั่งใจเหมือนกินข้าวกับช้อนอ่ะ

เมื่อสามีออกบ้านไปมหาลัยสักพัก เราก็ตื่นมา สิ่งแรกที่ทำคือเดินไปเปิดตู้เย็น (เห็นมั้ยบอกแล้วว่าเรารอบคอบ) ปรากฎว่า กล่องข้าวยังวางสวยอยู่ในตู้เย็นตำแหน่งเดียวกับที่เราจับมันยัดไว้เมื่อคืนเป๊ะ เห็นกล่องข้าวแล้วก็ปรี๊ดว่า เอาอีกแระ ลืมอีกแระ เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยขี้ลืมเนี่ย ขณะเดียวกันเสียงเรียกเข้ามือถือของสามีก็โทร.มารายงานตัวว่าถึงยูนิแล้วนะ เราก็สวนไปอย่างผู้ชนะทุกทิศว่า "อืมๆ แล้วทำไมไม่หยิบกล่องข้าวไปด้วยอ่ะ เนี่ยอุตสาห์กำชับแล้วนะ แล้วเที่ยงนี้จะกินไรอ่ะ ฝากท้องไปกับ Subway ก่อนแระกัน พี่อ่ะขี้ลืม ตลอด ตลอด" สามีก็แอร๊ย พี่ลืมอีกแล้ว วันหลังจะไม่ลืมนะ (การลืมกล่องข้าวกลางวันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 100 แล้วเห็นจะได้ค่ะ)

พอวางสายปุ๊บ สติเราเริ่มมา และปัญญาเริ่มเกิดว่า เฮ้อ นี่มันความบกพร่องของหน้าที่ภรรยาอย่างเราล้วนๆเลยนะเนี่ย (ในใจก็ฮัมเพลง ฉันทำพลาดไปแล้ว ฉันมันพลาดไปแล้ว ของญารินดา...ญารินดาอย่าทำเหมือนเจ้นะ) จริงๆ เรารู้มานานหลายปีแล้วล่ะ ว่าเขาเป็นคนขี้ลืม ซึ่งเราก็เข้าใจธรรมชาติของสามีเรา รวมถึงผู้ชายทั่วไปด้วยว่า พวกเขาจำไม่ได้ละเอียดยิบเหมือนผู้หญิงอย่างเราๆหรอก ในเมื่อเราจัดการกับปัญหาขี้ลืมของเขาไม่ได้ เราก็ควรจัดการทำเองในสิ่งที่เราทำได้สิฟร่ะ อย่างกรณีนี้เราสำนักผิดอ่ะว่าเราควรหาวิธีที่ไม่ไม่ทำให้เขาลืมอีกได้นี่หว่า ไม่ควรที่จะโทษเขาเลยแม้แต่นิดเดียว นี่แหละหนาศาสตร์ของการของเรือน ฮิฮิ

คือเราว่าเรื่องการครองเรือนเนี่ย มันไม่ยากนะ แต่บางเรื่องมันก็ไม่ง่าย อย่างเรื่องของเราเนี่ยมันดูไร้สาระ แต่บางทีมันก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา เราว่าบางทีคนเป็นสามีภรรยากันก็ควรใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆอ่ะ อย่าละเลยกัน  การเริ่มต้นที่จะดูแลเรื่องเล็กๆนี่แหละ มันจะทำให้คนในครอบครัวเรามีความสุข  ที่สำคัญสามีเราจะได้มีมื้อเที่ยงไปกินด้วยนะ อืมสาระสำคัญอยู่ตรงย่อหน้าสุดท้ายหน่อยเดียวนี่แหละ (เยอะนะเรา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่