อีก 13 ปีก๊าซหมดอ่าว...ปัญหาไฟฟ้าจะหนักกว่านี้ Source - เว็บไซต์ไทยรัฐ (Th) Friday, February 22, 2013 05:00 ถ้าจะว่าไปก็ต้องขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติของพม่าครับ ที่ประกาศหยุดส่งก๊าซให้ไทยชั่วคราว เพื่อซ่อมแท่นขุดเจาะของเขาเอง ในระหว่างวันที่ 4-12 เมษายนนี้ เพราะถ้าเขาไม่หยุดส่ง คนไทยเราก็จะไม่มีโอกาสรู้เรื่องรู้ราวเลยว่าสถานการณ์ด้านพลังงานของเรานั้นน่าวิตกกังวลจริงๆ การหยุดส่งก๊าซของพม่างวดนี้ จะทำให้ปริมาณผลิตไฟฟ้าของเราหายไป 6,000 เมกะวัตต์ เป็นเหตุให้รัฐบาลเต้น กระทรวงพลังงานเต้น จัดประชุมกำหนดแผนโน่นนี่ยกใหญ่ จะมีการเชิญชวนให้ประชาชนประหยัดการใช้ไฟฟ้า จะออกกฎออกกติกาให้หน่วยราชการลดการใช้ไฟฟ้ารวมไปถึงจะให้รางวัล ถ้าหน่วยไหนทำดีประหยัดได้มากกว่าเพื่อน รวมไปถึงมาตรการที่ว่า เวลาประชุม ครม.หรือคณะกรรมการชุดต่างๆ อาจจะขอให้งดการสวมเสื้อนอก เพื่อที่จะไม่ต้องเปิดแอร์เย็นมากนัก อันจะช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าไปด้วยโดยปริยาย นี่ขนาดพม่าหยุดส่งก๊าซเพียงแค่ไม่กี่วัน ยังสร้างความวุ่นวายและความกังวลใจได้ถึงเพียงนี้ สมมติว่าพม่าหยุดส่งก๊าซตลอดกาล จะเกิดอะไรขึ้น หรือถ้าสมมติต่อไปว่า ก๊าซที่เราขุดเจาะได้เองจากอ่าวไทยก็หมดด้วย...จะเกิดอะไรขึ้น คำตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ประเทศไทยของเราจะมืดมิดไปทันที 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะเราใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าในแต่ละวันของทุกวันนี้ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าแน่นอน ไม่เพียงแต่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย หรือสำนักงานต่างๆเท่านั้น แม้แต่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่มากมายก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย คำถามต่อมาก็คือ ก๊าซของเราจะหมดจริงหรือ หมดเมื่อไรพอจะทราบไหม คนไทยจะได้เตรียมตัวได้ทันท่วงที ผู้ที่จะให้คำตอบข้อนี้ดีที่สุดก็คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต นั่นแหละครับ... ท่านเขียนไว้เป็นบทความลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เมื่อไม่กี่วันนี้เองในหัวข้อเรื่อง "ความมั่นคงด้านพลังงานต้องตระหนักถึงภาวะวิกฤติแม้ในยามสถานการณ์ปกติ" สรุปว่า ก๊าซในอ่าวไทยของเราจะหมดภายใน 8 ปีนี้ แต่ก็อาจจะมีการสำรวจใกล้เคียง หรือขอดเอามาได้อีกนิดๆหน่อยๆ พอต่ออายุได้อีกสัก 4-5 ปี เป็น 12-13 ปี อย่างมาก ผมถึงได้บอกว่าต้องขอบคุณพม่าที่หยุดส่งก๊าซ ซึ่งนอกจากจะทำให้คนไทยตกใจแล้วก็ยังได้ความรู้เพิ่มเติมว่าจริงๆแล้วก๊าซของเราเองก็กำลังจะหมดเหมือนกัน อย่างเก่งก็แค่ 13 ปีเท่านั้น ขณะที่ผมนั่งเขียนอยู่นี้ทราบว่าคณะกรรมการของ "เฮียเพ้ง" หรือคุณ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำลังประชุมอย่างคร่ำเคร่ง หวังว่านอกจากจะได้หนทางแก้ปัญหาระยะสั้นหรือเฉพาะหน้าในช่วงก่อนสงกรานต์นี่แล้วก็คงจะได้แผนแก้ปัญหาระยะยาวมาด้วย ถึงเวลาที่จะต้องมีแผนแม่บทที่ชัดเจนแล้วครับว่าเราจะเอายังไงเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงต่างๆ ที่ในขณะนี้เป็นก๊าซธรรมชาติถึง 71 เปอร์เซ็นต์ ถ่านหิน 20 เปอร์เซ็นต์ พลังน้ำ 8 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นพลังอื่นๆ ในบทความประชาสัมพันธ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เสนอว่าอาจต้องมุ่งไปที่ถ่านหิน ซึ่งเรายังใช้น้อยอยู่โดยจะต้องหันมาใช้มากขึ้น เพียงแต่จะต้องระมัดระวังพวกมลภาวะต่างๆเอาไว้ด้วย ในส่วนของพลังงานนิวเคลียร์คงยากมากๆ เพราะไม่ค่อยมีคนเห็นด้วยและอีกอย่างหนึ่ง ท่านเพ้งก็แถลงข่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์ที่ค่อนข้างคับขันอย่างทุกวันนี้ การตัดสินใจว่าจะเดินหน้าไปทางไหน และอย่างไรจะต้องเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนแล้วครับ ขณะเดียวกันก็จะต้องหาทางทำความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน และผู้ที่จะคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้า เพราะหวาดวิตกในเรื่องมลภาวะให้เข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆควบคู่ไปด้วย 13 ปีเนี่ยแป๊บเดียวนะครับ...มัวแต่มะงุมมะงาหรา ไม่ทำอะไรเลย ประเดี๋ยวเวลา 13 ปี ก็จะผ่านไป ผมนึกไม่ออกจริงๆว่าคนไทยจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีพลังงานอะไรมาผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซธรรมชาติในช่วง 13 ปีข้างหน้า. "ซูม"
เพิ่งตั้งเป็นครั้งแรกครับผิดถูกห้องยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ(^__^)
อีก 13 ปีก๊าซหมดอ่าว...ปัญหาไฟฟ้าจะหนักกว่านี้
เพิ่งตั้งเป็นครั้งแรกครับผิดถูกห้องยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ(^__^)