ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
อนุสรณ์สถานจัลเลียนวลาบาฆ
ที่มาภาพ: http://en.wikipedia.org/wiki/File:Massacre_memorial_in_Amritsar.jpg
นิวเดลี - เดวิด คาเมรอน เป็นผู้นำอังกฤษคนแรกที่ประณามการสังหารหมู่ในอมฤตสาร์เมื่อ 94 ปีก่อน ระบุเป็น "เหตุการณ์สุดอัปยศ" แต่ไม่ขอโทษ
เมื่อวันพุธ (20 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางเยือนเมืองอมฤตสาร์ ทางภาคเหนืออินเดีย ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายสิ้นสุดการเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ด้านการค้าเป็นหลัก ในโอกาสนี้ นายคาเมรอนได้เข้าคารวะอนุสรณ์สถานที่สวนสาธารณะจัลเลียนวลาบาฆ สถานที่ทหารเจ้าอาณานิคมอังกฤษสังหารหมู่ชาวอินเดียที่มีทั้งชาย หญิง และเด็กเสียชีวิตมากกว่า 300 คน เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2462
นายคาเมรอนได้เขียนด้วยลายมือไว้ในหนังสือเยี่ยมว่า "เป็นการกระทำอันน่าอัปยศอย่างมากในประวัติศาสตร์อังกฤษ" และวินสตัน เชอร์ชิลล์ (ซึ่งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสงครามในปี 2463) ได้เคยกล่าวไว้ ณ ขณะนั้นว่า เป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายทารุณ นอกจากนี้ นายคาเมรอนที่ถือเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนแรกที่เยือนอนุสรณ์สถานจัลเลียนวลาบาฆ ยังระบุด้วยว่า "เราจะต้องไม่ลืมสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ และในความทรงจำนั้น เราจะต้องตระหนักว่า สหราชอาณาจักรจะยืนหยัดเพื่อสิทธิการประท้วงอย่างสันติทั่วโลก"
แต่ถ้อยคำของนายคาเมรอนไม่ใช่การกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ สร้างความผิดหวังแก่ครอบครัวและญาติพี่น้องของเหยื่อสังหารหมู่
นายคาเมรอนให้เหตุผลว่า คงไม่ถูกต้องหากจะย้อนกลับไปขอโทษสิ่งผิดของลัทธิอาณานิคมอังกฤษซึ่งเกิดขึ้น 40 ปีก่อนตนเองจะถือกำเนิด สิ่งที่ควรทำคือ ยอมรับ เคารพ และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ เคยเสด็จฯ ไปยังอนุสรณ์สถานแห่งนี้เมื่อปี 2540 และมีพระราชดำรัสว่า การยิงกราดเป็นเหตุการณ์ที่น่าหดหู่
ส่วนนายโทนี่ แบลร์ ที่เคยเยือนก่อนนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า เป็นเครื่องเตือนความจำถึงมิติอันเลวร้ายที่สุดของลัทธิอาณานิคม
การสังหารหมู่ชาวอินเดียเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบภายในเมืองอัมฤตสาร์ ที่ต่อมาถือว่าเป็นชนวนเร่งเร้าของการเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชอินเดีย รัฐบาลอังกฤษในขณะนั้นระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 379 คน แต่นักรบเพื่อปลดแอกอินเดียระบุว่าเสียชีวิตเกือบพันคน
คาเมรอนไม่ขอโทษฆ่าหมู่อินเดีย ญาติเหยื่อผิดหวังแค่ประณาม 'อัปยศ'
อนุสรณ์สถานจัลเลียนวลาบาฆ
ที่มาภาพ: http://en.wikipedia.org/wiki/File:Massacre_memorial_in_Amritsar.jpg
นิวเดลี - เดวิด คาเมรอน เป็นผู้นำอังกฤษคนแรกที่ประณามการสังหารหมู่ในอมฤตสาร์เมื่อ 94 ปีก่อน ระบุเป็น "เหตุการณ์สุดอัปยศ" แต่ไม่ขอโทษ
เมื่อวันพุธ (20 ก.พ.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางเยือนเมืองอมฤตสาร์ ทางภาคเหนืออินเดีย ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายสิ้นสุดการเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ด้านการค้าเป็นหลัก ในโอกาสนี้ นายคาเมรอนได้เข้าคารวะอนุสรณ์สถานที่สวนสาธารณะจัลเลียนวลาบาฆ สถานที่ทหารเจ้าอาณานิคมอังกฤษสังหารหมู่ชาวอินเดียที่มีทั้งชาย หญิง และเด็กเสียชีวิตมากกว่า 300 คน เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2462
นายคาเมรอนได้เขียนด้วยลายมือไว้ในหนังสือเยี่ยมว่า "เป็นการกระทำอันน่าอัปยศอย่างมากในประวัติศาสตร์อังกฤษ" และวินสตัน เชอร์ชิลล์ (ซึ่งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสงครามในปี 2463) ได้เคยกล่าวไว้ ณ ขณะนั้นว่า เป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายทารุณ นอกจากนี้ นายคาเมรอนที่ถือเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนแรกที่เยือนอนุสรณ์สถานจัลเลียนวลาบาฆ ยังระบุด้วยว่า "เราจะต้องไม่ลืมสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ และในความทรงจำนั้น เราจะต้องตระหนักว่า สหราชอาณาจักรจะยืนหยัดเพื่อสิทธิการประท้วงอย่างสันติทั่วโลก"
แต่ถ้อยคำของนายคาเมรอนไม่ใช่การกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ สร้างความผิดหวังแก่ครอบครัวและญาติพี่น้องของเหยื่อสังหารหมู่
นายคาเมรอนให้เหตุผลว่า คงไม่ถูกต้องหากจะย้อนกลับไปขอโทษสิ่งผิดของลัทธิอาณานิคมอังกฤษซึ่งเกิดขึ้น 40 ปีก่อนตนเองจะถือกำเนิด สิ่งที่ควรทำคือ ยอมรับ เคารพ และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ เคยเสด็จฯ ไปยังอนุสรณ์สถานแห่งนี้เมื่อปี 2540 และมีพระราชดำรัสว่า การยิงกราดเป็นเหตุการณ์ที่น่าหดหู่
ส่วนนายโทนี่ แบลร์ ที่เคยเยือนก่อนนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า เป็นเครื่องเตือนความจำถึงมิติอันเลวร้ายที่สุดของลัทธิอาณานิคม
การสังหารหมู่ชาวอินเดียเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบภายในเมืองอัมฤตสาร์ ที่ต่อมาถือว่าเป็นชนวนเร่งเร้าของการเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชอินเดีย รัฐบาลอังกฤษในขณะนั้นระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 379 คน แต่นักรบเพื่อปลดแอกอินเดียระบุว่าเสียชีวิตเกือบพันคน