เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษแสดงความหวังระหว่างเยือนไทยว่า ไทยจะเพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน (Gripen)
นายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษเยือนจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย ในวันนี้ (20 มี.ค.2567) เพื่อตรวจสอบเครื่องบินรบกริพเพนที่สร้างโดยบริษัทซ้าบ (Saab) ของสวีเดนผ่านความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ของอังกฤษ
นายคาเมรอนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ขณะเดินทางเยือนไทย โดยระบุว่า เขาหวังว่าไทยจะจัดซื้อเครื่องบินรบกริพเพนเพิ่มขึ้นในข้อตกลงที่ไม่ระบุรายละเอียดที่เขากล่าวว่าจะมีมูลค่า 400 ล้านปอนด์ (508.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ
นายคาเมรอนเปิดเผยว่าจะมีการลงนามความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอังกฤษกับไทยที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
สวีเดนและสหราชอาณาจักร ยืนเคียงข้างกันในการเสนอเครื่องบินรบ Gripen E/F ซึ่งมีขีดความสามารถที่ดีที่สุดสําหรับกองทัพอากาศไทย
“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นมหาอำนาจทางการค้า และ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด การทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้หมายถึงงานและการเติบโตในสหราชอาณาจักร” เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวขณะเยือนประเทศไทยเมื่อวัน 20 มี.ค.2567
นอกจากนี้ยังหมายถึงความสามารถและโอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมในประเทศไทยอีกด้วย
เปิดเหตุผลหลักที่สำคัญทำไมอังกฤษถึงกล้าเปิดหน้าสู้ พี่เบิ้มสหรัฐอเมริกา
รัฐบาลอังกฤษและสวีเดนจะร่วมมือกันส่งเสริมการขายเครื่องบินรบ JAS 39 Gripen E ของ Saab ระหว่างประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างทั้งสองประเทศ
ข้อความของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่ระหว่างสหราชอาณาจักรและสวีเดน ซึ่งลงนามโดยนายกรัฐมนตรีสวีเดน Ulf Kristersson และนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Rishi Sunak ในเมืองวิสบี ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 เป็นการเรียกร้องให้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านโอกาสในการส่งออกร่วมกัน รวมถึง "
การทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการขาย Gripen E ระหว่างประเทศและแพ็คเกจอาวุธที่เกี่ยวข้อง" เอกสารระบุ
เครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E/F ใช่ชิ้นส่วนหลายรายการจากยุโรป ในขณะที่ใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกามีเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น หากกองทัพอากาศไทยเลือก JAS 39 Gripen E/F เท่ากับอังกฤษจะได้ผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมอากาศยานนี้ด้วย อีกทั้งการที่อังกฤษเปิดหน้าสนับสนุนเครื่องบินรบสวีเดน ทำให้สหรัฐอเมริกาจะมาใช้มุกเดิมๆเหมือนในอดีตบีบให้ไทยเลือก F-16 C/D Block 70 คงจะยากขึ้น
หลายๆคนจินตนาการไปเองว่า ยุโรปไม่มีทางขายขีปนาวุธชั้นสูง Meteor ให้ไทย ถ้ากองทัพอากาศไทยซื้อเครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E/F ก็ต้องกลับไปใช้ขีปนาวุธ AIM 120 ของสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิม ควรเลิกมโนกันไปเองได้แล้ว
อ้างอิง
เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
1.
https://www.infoquest.co.th/2024/384985
2..
https://thestandard.co/david-cameron-visits-thailand/
3.
https://www.facebook.com/photo/?fbid=797487372403332&set=a.641843461301058
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่ระหว่างสหราชอาณาจักรและสวีเดน ในการขายเครื่องบินรบ
1.
https://aviationweek.com/defense-space/aircraft-propulsion/uk-sweden-agree-cooperate-gripen-e-international-sales?fbclid=IwAR2QaN07klYPaVUQDUT2T9ixgxSXjnkL9VCwkmRtLJjE_kFRZ8JyQ1lIEAM
พี่ใหญ่ยุโรปมาเอง ! รมว. ต่างประเทศอังกฤษ หนุนทัพฟ้าไทยซื้อ “Gripen” พร้อมเตรียมลงนาม ‘หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์’ 2 ประเทศ
นายเดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษเยือนจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย ในวันนี้ (20 มี.ค.2567) เพื่อตรวจสอบเครื่องบินรบกริพเพนที่สร้างโดยบริษัทซ้าบ (Saab) ของสวีเดนผ่านความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ของอังกฤษ
นายคาเมรอนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ขณะเดินทางเยือนไทย โดยระบุว่า เขาหวังว่าไทยจะจัดซื้อเครื่องบินรบกริพเพนเพิ่มขึ้นในข้อตกลงที่ไม่ระบุรายละเอียดที่เขากล่าวว่าจะมีมูลค่า 400 ล้านปอนด์ (508.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ
นายคาเมรอนเปิดเผยว่าจะมีการลงนามความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอังกฤษกับไทยที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
สวีเดนและสหราชอาณาจักร ยืนเคียงข้างกันในการเสนอเครื่องบินรบ Gripen E/F ซึ่งมีขีดความสามารถที่ดีที่สุดสําหรับกองทัพอากาศไทย
“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นมหาอำนาจทางการค้า และ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด การทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้หมายถึงงานและการเติบโตในสหราชอาณาจักร” เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวขณะเยือนประเทศไทยเมื่อวัน 20 มี.ค.2567
นอกจากนี้ยังหมายถึงความสามารถและโอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมในประเทศไทยอีกด้วย
เปิดเหตุผลหลักที่สำคัญทำไมอังกฤษถึงกล้าเปิดหน้าสู้ พี่เบิ้มสหรัฐอเมริกา
รัฐบาลอังกฤษและสวีเดนจะร่วมมือกันส่งเสริมการขายเครื่องบินรบ JAS 39 Gripen E ของ Saab ระหว่างประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างทั้งสองประเทศ
ข้อความของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่ระหว่างสหราชอาณาจักรและสวีเดน ซึ่งลงนามโดยนายกรัฐมนตรีสวีเดน Ulf Kristersson และนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร Rishi Sunak ในเมืองวิสบี ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 เป็นการเรียกร้องให้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านโอกาสในการส่งออกร่วมกัน รวมถึง "การทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการขาย Gripen E ระหว่างประเทศและแพ็คเกจอาวุธที่เกี่ยวข้อง" เอกสารระบุ
เครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E/F ใช่ชิ้นส่วนหลายรายการจากยุโรป ในขณะที่ใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกามีเพียงเครื่องยนต์เท่านั้น หากกองทัพอากาศไทยเลือก JAS 39 Gripen E/F เท่ากับอังกฤษจะได้ผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมอากาศยานนี้ด้วย อีกทั้งการที่อังกฤษเปิดหน้าสนับสนุนเครื่องบินรบสวีเดน ทำให้สหรัฐอเมริกาจะมาใช้มุกเดิมๆเหมือนในอดีตบีบให้ไทยเลือก F-16 C/D Block 70 คงจะยากขึ้น
หลายๆคนจินตนาการไปเองว่า ยุโรปไม่มีทางขายขีปนาวุธชั้นสูง Meteor ให้ไทย ถ้ากองทัพอากาศไทยซื้อเครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E/F ก็ต้องกลับไปใช้ขีปนาวุธ AIM 120 ของสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิม ควรเลิกมโนกันไปเองได้แล้ว
อ้างอิง
เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
1. https://www.infoquest.co.th/2024/384985
2.. https://thestandard.co/david-cameron-visits-thailand/
3. https://www.facebook.com/photo/?fbid=797487372403332&set=a.641843461301058
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่ระหว่างสหราชอาณาจักรและสวีเดน ในการขายเครื่องบินรบ
1. https://aviationweek.com/defense-space/aircraft-propulsion/uk-sweden-agree-cooperate-gripen-e-international-sales?fbclid=IwAR2QaN07klYPaVUQDUT2T9ixgxSXjnkL9VCwkmRtLJjE_kFRZ8JyQ1lIEAM