สอบคืบ80%ฮั้วประมูลโรงพัก ดีเอสไอพบพิรุธเส้นทางการเงินพีซีซีฯ เบิกเงินเข้าบัญชีไม่สอดคล้องกับการเบิกจ่ายให้ผู้รับเหมา

กระทู้สนทนา
สอบคืบ80%ฮั้วประมูลโรงพัก
ดีเอสไอพบพิรุธเส้นทางการเงินพีซีซีฯ เบิกเงินเข้าบัญชีไม่สอดคล้องกับการเบิกจ่ายให้ผู้รับเหมา รอเอกสารชี้แจง หากไม่เข้าพบแจ้งข้อหาทันที


เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ(ทดแทน) จำนวน 396 แห่ง และโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย(แฟลต)ตำรวจ จำนวน 163 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ภายหลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณที่เรียกเข้าชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณในโครงการดังกล่าวว่า   ดีเอสไอได้รับความร่วมมือจากสำนักงบประมาณที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณางบของสตช. มาชี้แจงขั้นตอนตั้งแต่แรกที่สำนักงบประมาณพิจารณาโครงการและอนุมัติงบว่ามีจำนวนเท่าใด  เป็นงบผูกพันกี่ปี  งบประมาณที่อนุมัติมีความเหมาะสมหรือไม่  รวมถึงงบประมาณในการก่อสร้างแฟลตำรวจที่เป็นงบคนละส่วนกันคือเป็นงบจากโครงการไทยเข้มแข็งซึ่งจะมีวิธีพิจารณาที่แตกต่างกัน  ทั้งนี้ เบื้องต้นถือว่ามีข้อมูลชัดเจนพอสมควร โดยเฉพาะประเด็นหลักคือโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนมีงบผูกพัน  และทำให้เห็นที่มาที่ไปของวงเงินที่อนุมัติชัดขึ้น


นายธานินทร์  กล่าวต่อว่าในวันพรุ่งนี้(20ก.พ.) เวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนได้นัดเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางเข้าชี้แจงขั้นตอนการจัดจ้างตามระเบียบ  เพื่อตรวจสอบว่าที่ผ่านมาบริษัท พีซีซี  ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้เบิกจ่ายค่างวดไปแล้วจำนวนเท่าใด  เป็นไปตามที่สำนักงบประมาณอนุมัติไว้หรือไม่  ล่าสุดความผิดเกี่ยวกับประเด็นฮั้วประมูลมีความคืบหน้ากว่า 80% แล้ว รอเพียงการพิจารณาเส้นทางการเงินว่ามีการถ่ายโอนไปที่ใด คาดว่าช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้จะสามารถสำนวนในประเด็นดังกล่าวได้   ส่วนการสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงขณะนี้  มีข้อพิรุธที่ชัดเจนว่ามีการกระทำผิดคือกรณีที่บริษัท พีซีซีฯมีการเบิกจ่ายไม่สอดคล้องกับเงินที่นำไปจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วง โดยดีเอสไอจะรอให้บริษัทพีซีซีฯชี้แจงเอกสารเพื่อพิจารณารายละเอียดก่อนเรียกผู้บริหารเข้าชี้แจงตามข้อสงสัยต่อไป  


นายธานินทร์  ยังกล่าวถึง การตรวจสอบประเด็นการจ้างผู้รับเหมาช่วงของบริษัท พีซีซฯว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบว่าสตช.เคยอนุมัติให้ไปจ้างช่วงต่อ  แต่บริษัท พีซีซีฯกลับไปทำสัญญาในนามบุคคลกับบริษัทเพื่อก่อสร้าง โดยดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการใช้เอกสารปลอมในการทำสัญญากับผู้รับเหมาช่วงหรือไม่   ทั้งหมดส่อเจตนาค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการฉ้อโกงเนื่องจากบริษัท พีซีซีฯได้ไปจ้างผู้อื่นทำงานเพื่อให้ได้งานมาเบิกค่างวดกับสตช. ขณะเดียวกันกลับไม่นำเงินค่างวดไปจ่ายผู้รับเหมา


ด้านพ.ต.ท.ถวัล  มั่งคั่ง  ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ  กล่าวว่า  จากการลงพื้นที่สอบสวนผู้เสียหายคดีฉ้อโกงในกลุ่มผู้รับเหมาช่วงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เห็นภาพว่าบริษัท พีซีซีฯ จงใจไม่จ่ายเงินค่างวดหรือจ่ายเงินให้ผู้รับเหมา เหมือนต้องการให้ทิ้งงานและสุดท้ายบริษัท พีซีซีฯ จะกลับมาก่อสร้างต่อเองทั้งหมด  โดยตลอดสัปดาห์นี้ตนและพนักงานสอบสวนที่แบ่งออกเป็น 2 ชุดจะเร่งลงพื้นที่สอบปากคำผู้เสียหายจำนวนกว่า 20 ราย ในจ.อุดรธานี และจ. เลย  โดยผู้รับเหมากลุ่มนี้ได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่ารายละ 5 แสนบาท ในการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนขนาดเล็ก  และเสียหายไม่น้อยกว่ารายละ 10 ล้านบาท ในกรณีก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัท พีซีซีฯมีการจ่ายค่างวดให้รายละเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น โดยอ้างว่ายังเบิกค่างวดจากสตช.ไม่ได้  

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีเอสไอมีพยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว และในสัปดาห์หน้าจะครบกำหนดที่บริษัท พีซีซีฯต้องส่งเอกสารให้ดีเอสไอตรวจสอบ   แต่หากยังไม่มีการติดต่อส่งเอกสารแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่เข้าให้ปากคำ   จะหารือร่วมกับพนักงานสอบสวนเพื่อเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาทันที

ที่มา...http://www.dailynews.co.th/crime/185672

                                                      ????????????????????????????


"..........มีข้อพิรุธที่ชัดเจนว่ามีการกระทำผิดคือกรณีที่บริษัท พีซีซีฯมีการเบิกจ่ายไม่สอดคล้องกับเงินที่นำไปจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วง ........

.......จากการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบว่าสตช.เคยอนุมัติให้ไปจ้างช่วงต่อ  แต่บริษัท พีซีซีฯกลับไปทำสัญญาในนามบุคคลกับบริษัทเพื่อก่อสร้าง...... ......ทั้งหมดส่อเจตนาค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการฉ้อโกง  เนื่องจากบริษัท พีซีซีฯได้ไปจ้างผู้อื่นทำงานเพื่อให้ได้งานมาเบิกค่างวดกับสตช. ขณะเดียวกันกลับไม่นำเงินค่างวดไปจ่ายผู้รับเหมา .......

......ทำให้เห็นภาพว่าบริษัท พีซีซีฯ จงใจไม่จ่ายเงินค่างวดหรือจ่ายเงินให้ผู้รับเหมา เหมือนต้องการให้ทิ้งงานและสุดท้ายบริษัท พีซีซีฯ จะกลับมาก่อสร้างต่อเองทั้งหมด......."



คงละเมอคิดตามสันดอนละสิว่าจะยังคงมีอำนาจวาสนาได้บริหารประเทศต่ออีกสมัย
จึงกล้าทำเรื่องอุกอาจโฉ่งฉ่างถึงเพียงนี้......

บริษัทนี้เชื่อมโยงไปหาใครบ้างก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
กองแช่งมะเกี่ยวตามเคยเน้อ.....คริคริ....อิอิ...555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่