จอมใจเจ้าป่า ตอนที่ 4 part 1

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 part 1http://ppantip.com/topic/30041844/
ตอนที่ 1 part 2 (จบตอน)http://ppantip.com/topic/30047179/
ตอนที่ 2 part 1 http://ppantip.com/topic/30062087/
ตอนที่ 2 part 2 (จบตอน)http://ppantip.com/topic/30092497/
ตอนที่ 3 part 1 http://ppantip.com/topic/30115477
ตอนที่ 3 part 2 (จบตอน)http://ppantip.com/topic/30131773

ตอนที่ 4 part 1

บทที่ 4
    วีรสิงห์คิดว่าเขาคงตายเสียแล้วจากคมมีดของหมาลอบกัดตัวหนึ่ง แม้จะถูกแทงไม่ลึกนักและหลีกเร้นจากการล่าของมันมาได้แต่เขาก็เสียเลือดมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว เขาซ่อนตัวอยู่ในแอ่งน้ำนานนับชั่วโมงหลังจากที่มันควานหาตัวเขาแทบจะทุกตารางนิ้วของพื้นที่ มันตั้งใจจะฆ่าเขาให้ได้ทำแม้กระทั่งยิงปืนสุ่มไปตามพงหญ้าหรือผืนน้ำที่มีเงาดำตะคุ่ม เขาซ่อนตัวค่อยเร้นกายไปกับสายน้ำจนร่างกายเริ่มไร้เรี่ยวแรง ก่อนที่สติจะเลือนหายชายหนุ่มจำได้เพียงว่าตะเกียกตะกายหอบหายใจอยู่ริมฝั่งน้ำตื้นแห่งหนึ่งด้วยความอ่อนเพลีย

    “ตัวใหญ่เท่าหมีเลยตา ลีน่าเจอนอนอืดอยู่ทางโน้น” เสียงแจ๋วๆร้องลั่นจนเขาต้องกะพริบตาขึ้นมอง แต่ด้วยดวงตาที่พร่ามัวและแสงจ้าที่ยังไม่คุ้นทำให้เห็นเพียงใบหน้าเลือนๆของใครบางคน

    “ยังไม่ตายนี่” ดวงตากลมโตเบิกโพลงมองดูเขาอย่างยินดี ในสติที่เหลืออยู่น้อยนิดจำได้แต่เพียงว่าเป็นดวงตาสีน้ำตาลแจ่มแจ๋วราวกับลูกแก้วที่ส่องแสงเป็นประกายวับวาวดุจดวงดาวนำทาง ประกายวาววามนั้นยังติดตาก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดมิดลง

    “ตา เร็วเข้า สลบไปอีกแล้วจะตายหรือเปล่า ให้ลีน่าไปเรียกคนมาช่วยมั้ย”

“ไม่ต้องครับคุณหนูแหม่ม เจ้ากรน่าจะพอแบกไปไหว” ชายชราสะกดเสียงให้เรียบ ระงับอาการตื่นเต้นเพื่อไม่ให้เด็กสาวตรงหน้าจับสังเกตได้ ก่อนจะส่งภาษาพื้นเมืองกับชายหนุ่มอีกคนที่ติดตามมา

นิกรเป็นลูกหลานชาวบ้านแถบนี้ เขาเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เรือนร่างสูงใหญ่ที่ทำงานได้อย่างขยันขันแข็ง มีน้าที่หลักคือคอยดูแลรับใช้ตาศักดิ์และยายพร เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงตามมีตามเกิดในหมู่บ้านจนอายุสิบกว่าขวบ นายศักดิ์และนางพรจึงพบเข้าและขออนุญาตเมษาเอาเขามาเลี้ยง ชายหนุ่มช่วยทำงานหนักได้ดีทั้งสู้งานและอดทนไม่ทำตัวเกเร แต่เสียอยู่อย่างเดียวตรงที่เป็นใบ้ นายศักดิ์เลี้ยงดูพร่ำสอนจนเขาสามารถสื่อสารด้วยการอ่านริมฝีปากและใช้ภาษามือง่ายๆได้ ชายหนุ่มเข้าใจทั้งภาษากลางและภาษาพื้นเมืองประกอบกับอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวเทพวัฒน์จึงสามารถอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก

“เอ็งพาคุณไปที่กระท่อมของเอ็ง หาเสื้อใหม่ๆเปลี่ยนให้เสีย ทำความสะอาดแผลไว้ด้วย ข้าจะไปเอายาเสร็จแล้วจะตามไป” นายศักดิ์สั่งเป็นภาษาพื้นเมืองเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้านายคนเล็กจะฟังไม่ออก

“ลีน่าไปกับนิกรด้วยนะตา”

“คุณลีน่าไปเอายากับตาดีกว่า สายตาไม่ค่อยดีจะได้ช่วยดู” เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงักตื่นเต้นเสียนัก

“บอกเฮียดีไหมตา เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้”

“อย่าเพิ่งบอกเลยครับ”

“ทำไมล่ะ” หล่อนเอียงคอมองคิ้วขมวด ตากลมโตฉายแววใคร่รู้

“น่าจะเป็นคนของฝั่งนู้น” นายศักดิ์ค่อยๆเรียบเรียงคำพูด เด็กสาวตรงหน้าฉลาดนักถ้าหลุดอะไรออกไปสงสัยต้องซักกันไม่จบไม่สิ้น

“ตารู้ได้ไง” ผิดจากที่คิดไว้เสียเมื่อไหร่ ยังไม่ทันขาดคำเจ้าหล่อนก็คาดคั้นเอาคำตอบทันที

“พวกคนงานที่นี่ตารู้จักทุกคนนะคุณหนูแหม่ม” นายศักดิ์ไม่ได้พูดเกินความจริง สายตาของเสือเฒ่ายังคงแหลมคมไม่ได้ฝ้าฟางไปตามสังขาร ทุกครั้งที่บุตรชายคัดคนดูแลความปลอดภัยจะต้องพามาให้พ่อช่วยดูเสมอถ้าเป็นพวกนักเลงมีประวัติโชกโชนมักไม่มีหลุดรอดจากสายตานายศักดิ์ไปได้

“อีกอย่าง ถ้าคุณหนูสังเกตจากจุดที่พบกับการไหลของน้ำ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้ถูกซัดมาจากฝั่งเรา ถ้าตกน้ำมาจากหมอกฟ้าเขาต้องถูกซัดขึ้นมาเกยอยู่ฝั่งบ้านตา” ชายชราหมายถึงน้ำตกใหญ่ในเขตแดนของเทพวัฒน์ที่มีน้ำมากแทบตลอดปีและเป็นต้นกำเนิดของสายน้ำกลางขุนเขาแห่งนี้ นายศักดิ์วาดมือตามทิศทางการไหลของกระแสน้ำขณะอธิบาย

“แต่นี่คุณหนูแหม่มเจอตัวที่แอ่งน้ำ แสดงว่าถูกพัดมาจากฝั่งตรงข้ามแล้วเข้ามาติดซอกหินอยู่”

“อาจจะเดินมาจากหมู่บ้านฝั่งเราก็ได้นี่ตา” เด็กสาวตั้งข้อสังเกต

“แผลนั่นแสดงว่าถูกแทงมาหลายชั่วโมงแล้ว เสียเลือดไปมาก แข็งแรงยังไงก็เดินไม่ไหวหรอกคุณหนูแหม่ม น้ำแถบนี้ไม่ได้ลึกมากแค่คอยพยุงตัวไว้แล้วปล่อยให้แรงน้ำพัดพามาก็มาได้ไกลโข” ครั้งนี้เด็กสาวพยักหน้ารับฟังดวงตากลมฉายแววครุ่นคิด

“ถ้าเป็นคนของฝั่งนู้น เราก็ยิ่งต้องรีบบอกเฮียเมษสิคะ ทำไมถึงบอกไม่ได้”

“เมื่อสองวันก่อนมีคนของเราถูกยิงตาย ไม่รู้ใครทำ” นายศักดิ์พยายามอธิบายอย่างใจเย็น “ถ้าบอกคุณเมษ คุณหนูแหม่มคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

“เฮียก็ปล่อยให้ตายไปสิคะ” หล่อนรู้จักพี่ชายดี ขานั้นเป็นพวกตาต่อตาฟันต่อฟัน เขาไม่ทำใครก่อนแต่ถ้าคนของเขาถูกปลิดชีวิตไปหนึ่งชีวิตเขาก็จะจัดการตอบแทนคนทำด้วยหนึ่งชีวิตเท่ากัน

“ช่วงนี้เกิดเรื่องหลายอย่าง ยิงกันแทบไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะลักลอบขนยา ไม่แน่ว่าไอ้เจ้านี่มันอาจจะพอรู้เบาะแสอะไรบ้างถ้าช่วยให้มันรอดเราอาจได้ข่าว คุณเมษน่ะใจร้อนไม่ฟังใครผมเกรงว่าถ้ารู้เข้าจะตามมากระทืบจนตายไปเสียก่อน ตกลงคุณหนูแหม่มอยากให้เขาตายหรือว่าอยากช่วย”

“อยากช่วยสิคะ ลีน่าเจอเป็นคนแรกนี่นา” เจ้าตัวอ้างสิทธิ์หน้าตาเฉย หล่อนเจอเป็นคนแรกก็ต้องอยู่ในความดูแลของหล่อนสิ

“งั้นก็ต้องช่วยตาดูแลไปก่อน เอาไว้เขารอดชีวิตค่อยว่ากัน”

“ได้ค่ะ ลีน่าช่วย ยังไม่ต้องบอกเฮีย” เด็กสาวรับปากเป็นมั่นเหมาะ หลังจากที่ได้นางพรไกล่เกลี่ยให้เลิกโกรธพี่ชายก็หายโมโหไประดับหนึ่ง แต่เช้านี้อุตส่าห์รอเป็นนานสองนานให้เมษามาตามเขาก็ยังหายหน้า หล่อนเลยชักจะโมโหกรุ่นขึ้นมาอีก ใช้ไม่ได้เลยคนเขาเตรียมจะให้อภัยอยู่แล้วแต่กลับไม่ไยดีกันสักนิด

“ยกโทษเรื่องนั้นให้ก็ได้” เด็กสาวประกาศในใจ “แต่เฮียเมษอยากไม่สนใจลีน่าดีนัก ลีน่าก็จะมีความลับกับเฮียบ้าง”

“เฮียไม่มีเวลามาสนใจลีน่า ลีน่าก็ไม่สนใจเฮียเหมือนกัน” หล่อนบอกด้วยอารมณ์น้อยใจที่กลับคืนมาอีก เมษาไม่สนใจหล่อนก็ช่าง ตอนนี้มีเรื่องสนุกให้ทำแล้วจ้างให้ไม่ง้อ

ชายชราไม่พูดอะไรอีก ครั้นพอลับหลังนายคนเล็กก็ลอบถอนหายเฮือกใหญ่ ปล่อยให้คุณหนูแหม่มแกโกรธพี่ชายไปก่อนในสถานการณ์อย่างนี้ก็ถือเป็นผลดี อันที่จริงถ้าคุณเมษรู้ว่าคนที่บาดเจ็บจนพลัดเข้ามาในเขตเป็นใคร คงไม่แค่ตามมากระทืบจนตายอย่างที่ว่า

แต่คงจะตามมาควักไส้แล่เนื้อเอาเกลือทาเสียมากกว่า

********************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่