ตอนที่ 1 part 1
http://ppantip.com/topic/30041844/
ตอนที่ 1 part 2 (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30047179/
ตอนที่ 2 part 1
http://ppantip.com/topic/30062087/
ตอนที่ 2 part 2 (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30092497/
ตอนที่ 3 part 1
http://ppantip.com/topic/30115477
ตอนที่ 3 part 2 (จบตอน)
http://ppantip.com/topic/30131773
ตอนที่ 4 part 1
http://ppantip.com/topic/30153288
ตอนที่ 4 part 2 จบตอน
“ลีน่า” เสียงห้าวที่เรียกอยู่เบื้องหลังทำให้เด็กสาวถึงกับชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวลงจากเรือน หล่อนหันขวับเชิดหน้าให้คนถามพลางซ่อนถุงกระดาษในมือไว้เบื้องหลัง หลายวันมานี้หล่อนหลบหน้าพี่ชายมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เขาลงไม้ลงมือกับหล่อน
“พักนี้หายหน้าไปไหน เฮียไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว”
“มีเวลาสังเกตด้วยเหรอว่าลีน่าไม่อยู่บ้าน นึกว่าหลงเมียจนหน้ามืด”
“อย่านอกเรื่อง เฮียถามดีๆ” เมษาต้องสะกดใจนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้ระเบิดอารมณ์ใส่แม่น้องสาวตัวแสบ มันจะชวนทะเลาะให้ได้สิน่า
“ไปนอนบ้านตายาย ไม่อยากอยู่บนเรือนไม่มีใครอยู่สักคนกลัวผีหลอก”
บ้านหลังใหญ่ไม่อบอุ่นเหมือนแต่ก่อน ข่าวคราวที่ได้รับเกี่ยวกับผู้บุกรุกทำให้ทุกคนต้องระวังตัวทุกนาทีจึงมีแต่ความตึงเครียด พี่ชายก็เข้าไปคุมคนงานที่ไซต์บ่อยขึ้นวันไหนออกจากป่าก็ต้องไปนอนเฝ้านังหน้าพลาสติกที่ป่วยไม่ยอมหายสักที ทั้งที่เกิดเรื่องมาจะร่วมอาทิตย์แล้ว
“ไปไหนมาไหนคนเดียวระวังตัวไว้บ้าง อย่าไปตามที่เปลี่ยว”
“ห่วงลีน่าด้วยเหรอ สนใจลีน่าด้วยหรือไง”
“อย่าเริ่ม เฮียปวดหัว” เมษายกมือยอมแพ้ “เข้าใจเฮียบ้างลีน่า ครีมเขาก็สบายดีแล้ววันนี้เฮียจะส่งเขาขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ”
“หมดไปเท่าไหร่ล่ะค่าทำขวัญน่ะ”
“เรื่องของผู้ใหญ่น่า” ไอ้เด็กตัวแสบมันแสนรู้นัก นอกจากค่ารักษาในโรงพยาบาลชั้นหนึ่งของจังหวัดร่วมแสน ยังต้องรับขวัญด้วยสร้อยข้อมือฝังเพชร คอร์สศัลยกรรมจากโรงพยาบาลเกี่ยวกับความงามชื่อดังและปิดท้ายด้วยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอีกหนึ่งเครื่อง อาการของคู่ขาสาวแสนร้อนแรงจึงค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ
“มานี่มา” เมษากวักมือเรียกน้องสาว แต่เจ้าหล่อนกลับเมินหน้าหนีแถมยังทำปากเชิด
“ลีน่า” เสียงห้าวชักจะห้วน ตาคมวาวแสงแสดงว่าพี่ชายเริ่มหมดความอดทน ขืนยังดื้อดึงชักช้าคงได้องค์ลงอีกชุดใหญ่ เด็กสาวจึงเดินกระแทกเท้าเข้าไปหาอย่างตั้งใจให้รู้ว่าจำใจ เมษารั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดกดหัวเจ้าตัวดื้อที่ทำตัวแข็งให้แนบอก
“เฮียขอโทษ ที่อารมณ์เสียใส่”
“โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ” อกอุ่นๆเรียกน้ำตาแห่งความน้อยใจให้คลอตาได้อีก เด็กสาวเชิดปากใส่
“ขอโทษแล้วไง สัญญา ต่อไปนี้จะไม่ตีเด็กดื้ออีกแล้ว”
“ทำไมล่ะ ลีน่ามันไม่ดีนี่ชอบยั่วผู้ชายพี่สะใภ้คนดีเขาเตือนก็ไม่ฟัง”
“เฮียรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง” เมษาถอนหายใจยาว “โสภณเล่าให้ฟัง พวกเด็กรับใช้ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครีมเขาหาเรื่องก่อน”
“รู้ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เลิกนะยังจะเอาอกเอาใจกันอีก ทำไมไม่ไล่เขาไปล่ะ เขาใส่ร้ายน้องคิดเหรอว่าจะอยู่ร่วมบ้านกันได้”
“มีบางเรื่องที่มันอธิบายยากเข้าใจไหม สำหรับผู้ชายน่ะไม่ได้ต้องการอะไรมาก ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็อิสระดีแค่มีเซ็กส์ที่เข้ากันได้คอยเอาใจเล็กๆน้อยๆ นิสัยขี้วีนหรือปากจัดนิดๆหน่อยๆบางทีมันก็พอมองข้ามไปได้” เมษาบอกตรงๆ
ลลินาเม้มปากแน่นโกรธนั้นโกรธแน่ แต่หล่อนก็ใจกว้างพอจะรับฟังเหตุผลของเขา พี่ชายเป็นคนแบบนี้เอง เขาพูดจาโผงผางตรงประเด็น แถมยังกล้าพูดเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาวได้อย่างเต็มปาก หล่อนก็กล้าพอจะรับรู้
“พูดอะไร น้องยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ เดี๋ยวก็ใจแตกหรอก” หล่อนบ่นอุบ
“ก็พูดอย่างผู้ใหญ่พูดกัน ไม่ใช่ผู้ใหญ่พูดกับเด็ก”
“จะยกโทษให้ครั้งหนึ่งก็ได้ แต่ถ้ามีคราวหน้าลีน่าจะหนีออกจากบ้านเลยคอยดู”
“หนีจากเรือนใหญ่ไปนอนบ้านตาศักด์หรือไง” เมษาหัวเราะขันยายเด็กแสบทำขู่เป็นเรื่องเป็นราว “อย่าดื้อสิ ช่วยอยู่สงบๆสักพักเถอะให้เฮียหายปวดหัวบ้างงานก็เยอะยังต้องมาคอยตามห่วงเราอีก จะต้องให้ไหว้ไหม”
“ลีน่าไม่ได้ดื้อ มายุ่งเองทำไม ส่งไปให้ไกลๆเลยอย่าเอากลับมาเหยียบที่นี่อีก”
“เขาก็คงไม่อยากมานักหรอก” เมษาถอนหายใจยาวกดคางกับผมนุ่ม “ส่งไปอยู่ทีมชาติดีไหม ตบเก่งนักนะเรา” เขาพูดกลั้วหัวเราะทำเอาลลินาหัวเราะกิ๊ก
“เฮียไปก่อนล่ะค่ำๆถึงจะกลับ อยู่บ้านดีๆล่ะอย่าซนให้มันมากนัก” เขากดจูบที่หน้าผากมนก่อนจะดันเจ้าตัวแสบออกห่าง เด็กสาวยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“แล้วนี่หอบอะไรมาถุงเบ้อเร่อ”
“อาหารหมา”
“ที่บ้านตาน่ะเหรอ” เมื่อเด็กสาวพยักหน้ารับพี่ชายก็ไม่ได้สนใจอีกเขาเพียงแค่ส่ายหน้าและเดินลงเรือนไป ลลินาปล่อยลมหายใจพรูแอบนึกในใจ “เกือบไปแล้วเรา”
ถ้าพี่ชายขอดูในถุงใบเบ้อเร้อนี่คงต้องหาข้อแก้ตัวกันไม่จบ ทั้งซุปไก่สกัดรังนกของบำรุงกำลังเป็นสิบๆขวดที่มีคนเอามาให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ หล่อนกวาดจากตู้ในห้องครัวใส่ถุงมาหมดเกลี้ยง
นี่มันอาหารหมาเสียที่ไหนกันเล่า!
เก็บไว้ก็ไม่มีใครกินสุดท้ายก็ต้องแจกพวกคนงานไปหมด หล่อนเก็บไปบำรุงคนป่วยของหล่อนดีกว่า เสียงรถยนต์ของพี่ชายติดเครื่องและดังห่างออกไปลลินาเตรียมตัวลงจากเรือนบ้าง แต่เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เด็กสาวจึงต้องวิ่งตื๋อกลับเข้าไปใหม่
“สวัสดีค่ะ เทพวัฒน์ค่ะ” หล่อนส่งเสียงทักทายไป
“นั่นแกใช่ไหม ลีน่า” เสียงคุ้นหูที่ตอบกลับมาดูจะสะบัดอย่างอารมณ์เสีย
“แม่หรือคะ แม่คะโทรหาลีน่าเหรอ มีอะไร” หล่อนอดดีใจไม่ได้ แม่คงเป็นห่วงถึงได้ลงทุนโทรทางไกลข้ามประเทศมาหา
“พี่ชายแกอยู่ไหน”
“ออกไปธุระแล้วค่ะแม่มีอะไรคะ โทรเข้ามือถือสิคะเพิ่งออกไปนี่เอง”
“ฉันโทรเป็นสิบสายแล้วมันไม่ยอมรับ ถึงต้องโทรเข้าบ้านเนี่ย” ปลายสายตวัดเสียงกราดเกรี้ยว ปกติแม่เป็นคนเจ้าอารมณ์แต่การแสดงออกจะมีภาพลักษณ์ที่ดีเสมอ ขนาดที่ว่าโกรธหล่อนแทบตายแม่ยังแค่เอ็ดเอาและแสดงท่าทีเย็นชาเข้าใส่ น้อยครั้งนักที่แม่จะอาละวาดเสียงดังแบบนี้ หล่อนพอเดาอะไรได้รางๆก็คนที่ทำให้แม่โมโหได้ขนาดนี้ มีน้อยคนนัก
“ทำไม เกิดอะไรขึ้นคะ”
“บอกพี่แกว่าให้หยุดได้แล้ว” มารดาเอ็ดตะโรเสียงดังจนหล่อนต้องเอาหูโทรศัพท์ออกห่าง
“บอกมัน สั่งคนของมันให้หยุดเดี๋ยวนี้”
“อะไรกันแม่ หยุดอะไร ใครทำอะไร”
“อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง แกไปบอกมันใช่ไหมเรื่องเออร์วิน” คำตอบที่ได้รับทำให้ลลินาถึงกับอึ้งไปด้วยความนึกไม่ถึง
“ฉันก็บอกแล้วว่าแกเข้าใจผิดจะเสนอหน้าไปฟ้องมันทำไม ไอ้เมษมันบ้าส่งคนมาซ้อมเออร์วิน เป็นพวกนักเลงชั้นต่ำที่ไหนไม่รู้ เขาเจ็บหนักต้องนอนโรงพยาบาล ตำรวจที่นี่เรียกฉันไปสอบ ฉันรู้ว่าต้องเป็นฝีมือมันแน่ สันดานอันธพาล” แม้แต่หลานชายคนเดียวคุณลลนาก็ยังด่ากราด
“อาการหนักมากไหมคะ” ลลินาสะใจนักเมื่อถามประโยคนี้ออกไป “ถ้าไม่เป็นอะไรมากลีน่าจะกลับไปซ้ำให้เจ็บหนักกว่านี้”
“ลีน่า แกพูดอย่างนี้ได้ยังไง ก็บอกแล้วไงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง ทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้”
“งั้นแม่ก็คงเข้าใจผิดเรื่องเฮียเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นฝีมือเฮียนะคะ ลีน่าว่าแฟนแม่คงไม่แค่นอนโรงพยาบาลหรอกค่ะ คงได้นอนในหลุมไปแล้ว แค่นี้นะคะ ลีน่ามีธุระสำคัญ” หล่อนวางสายไปเสียดื้อๆเจ็บแปลบในใจไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นสำคัญกว่าหล่อน
แต่ใครจะสน
แม่มีใครคนใหม่ คนที่แม่บอกว่าสามารถเติมเต็มชีวิตที่ขาดของแม่ได้ หล่อนก็จะมีเหมือนกันใครสักคนที่เป็นคำตอบของหัวใจอ้างว้างขาดความรักดวงนี้ เด็กสาวยิ้มขื่น บางทีหล่อนควรเลิกรอคอย “อะไร” ที่ไม่มีวันได้ครอบครอง หล่อนไม่ควรเสียเวลากับเงาที่ไม่มีวันไขว่คว้า แม่มองเห็นแต่ตนเองไม่เคยมีหล่อนหรือใครอยู่ในสายตา
หล่อนยังเหลือพี่ชาย ลลินายิ้มออกเป็นครั้งแรก เมษาจัดการกับมันแทนหล่อนไปแล้ว ไอ้ผู้ชายฉวยโอกาสจิตใจต่ำทรามคนนั้นคงสำนึกอะไรได้บ้างว่าการแตะต้องหล่อนเพียงแค่ปลายเล็บจะเกิดผลร้ายเพียงใด เมษาคุ้มครองหล่อนได้ แม้ว่าในวันหนึ่งเขาจะมีคนสำคัญที่ต้องดูแลอย่างที่ยายพรเคยพูดไว้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นหล่อนคงแข็งแกร่งพอที่จะดูแลตัวเองได้
ความขุ่นมัวน้อยใจที่ตกตะกอนปลิวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เด็กสาววิ่งซอยเท้าลงเรือนอย่างอารมณ์ดีโดยมีจุดหมายอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนของตาศักดิ์
********************
จอมใจเจ้าป่า ตอนที่ 4 part 2 (จบตอน)
ตอนที่ 1 part 2 (จบตอน) http://ppantip.com/topic/30047179/
ตอนที่ 2 part 1 http://ppantip.com/topic/30062087/
ตอนที่ 2 part 2 (จบตอน) http://ppantip.com/topic/30092497/
ตอนที่ 3 part 1 http://ppantip.com/topic/30115477
ตอนที่ 3 part 2 (จบตอน) http://ppantip.com/topic/30131773
ตอนที่ 4 part 1 http://ppantip.com/topic/30153288
ตอนที่ 4 part 2 จบตอน
“ลีน่า” เสียงห้าวที่เรียกอยู่เบื้องหลังทำให้เด็กสาวถึงกับชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวลงจากเรือน หล่อนหันขวับเชิดหน้าให้คนถามพลางซ่อนถุงกระดาษในมือไว้เบื้องหลัง หลายวันมานี้หล่อนหลบหน้าพี่ชายมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เขาลงไม้ลงมือกับหล่อน
“พักนี้หายหน้าไปไหน เฮียไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว”
“มีเวลาสังเกตด้วยเหรอว่าลีน่าไม่อยู่บ้าน นึกว่าหลงเมียจนหน้ามืด”
“อย่านอกเรื่อง เฮียถามดีๆ” เมษาต้องสะกดใจนับหนึ่งถึงสิบไม่ให้ระเบิดอารมณ์ใส่แม่น้องสาวตัวแสบ มันจะชวนทะเลาะให้ได้สิน่า
“ไปนอนบ้านตายาย ไม่อยากอยู่บนเรือนไม่มีใครอยู่สักคนกลัวผีหลอก”
บ้านหลังใหญ่ไม่อบอุ่นเหมือนแต่ก่อน ข่าวคราวที่ได้รับเกี่ยวกับผู้บุกรุกทำให้ทุกคนต้องระวังตัวทุกนาทีจึงมีแต่ความตึงเครียด พี่ชายก็เข้าไปคุมคนงานที่ไซต์บ่อยขึ้นวันไหนออกจากป่าก็ต้องไปนอนเฝ้านังหน้าพลาสติกที่ป่วยไม่ยอมหายสักที ทั้งที่เกิดเรื่องมาจะร่วมอาทิตย์แล้ว
“ไปไหนมาไหนคนเดียวระวังตัวไว้บ้าง อย่าไปตามที่เปลี่ยว”
“ห่วงลีน่าด้วยเหรอ สนใจลีน่าด้วยหรือไง”
“อย่าเริ่ม เฮียปวดหัว” เมษายกมือยอมแพ้ “เข้าใจเฮียบ้างลีน่า ครีมเขาก็สบายดีแล้ววันนี้เฮียจะส่งเขาขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ”
“หมดไปเท่าไหร่ล่ะค่าทำขวัญน่ะ”
“เรื่องของผู้ใหญ่น่า” ไอ้เด็กตัวแสบมันแสนรู้นัก นอกจากค่ารักษาในโรงพยาบาลชั้นหนึ่งของจังหวัดร่วมแสน ยังต้องรับขวัญด้วยสร้อยข้อมือฝังเพชร คอร์สศัลยกรรมจากโรงพยาบาลเกี่ยวกับความงามชื่อดังและปิดท้ายด้วยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอีกหนึ่งเครื่อง อาการของคู่ขาสาวแสนร้อนแรงจึงค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ
“มานี่มา” เมษากวักมือเรียกน้องสาว แต่เจ้าหล่อนกลับเมินหน้าหนีแถมยังทำปากเชิด
“ลีน่า” เสียงห้าวชักจะห้วน ตาคมวาวแสงแสดงว่าพี่ชายเริ่มหมดความอดทน ขืนยังดื้อดึงชักช้าคงได้องค์ลงอีกชุดใหญ่ เด็กสาวจึงเดินกระแทกเท้าเข้าไปหาอย่างตั้งใจให้รู้ว่าจำใจ เมษารั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดกดหัวเจ้าตัวดื้อที่ทำตัวแข็งให้แนบอก
“เฮียขอโทษ ที่อารมณ์เสียใส่”
“โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ” อกอุ่นๆเรียกน้ำตาแห่งความน้อยใจให้คลอตาได้อีก เด็กสาวเชิดปากใส่
“ขอโทษแล้วไง สัญญา ต่อไปนี้จะไม่ตีเด็กดื้ออีกแล้ว”
“ทำไมล่ะ ลีน่ามันไม่ดีนี่ชอบยั่วผู้ชายพี่สะใภ้คนดีเขาเตือนก็ไม่ฟัง”
“เฮียรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง” เมษาถอนหายใจยาว “โสภณเล่าให้ฟัง พวกเด็กรับใช้ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครีมเขาหาเรื่องก่อน”
“รู้ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เลิกนะยังจะเอาอกเอาใจกันอีก ทำไมไม่ไล่เขาไปล่ะ เขาใส่ร้ายน้องคิดเหรอว่าจะอยู่ร่วมบ้านกันได้”
“มีบางเรื่องที่มันอธิบายยากเข้าใจไหม สำหรับผู้ชายน่ะไม่ได้ต้องการอะไรมาก ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็อิสระดีแค่มีเซ็กส์ที่เข้ากันได้คอยเอาใจเล็กๆน้อยๆ นิสัยขี้วีนหรือปากจัดนิดๆหน่อยๆบางทีมันก็พอมองข้ามไปได้” เมษาบอกตรงๆ
ลลินาเม้มปากแน่นโกรธนั้นโกรธแน่ แต่หล่อนก็ใจกว้างพอจะรับฟังเหตุผลของเขา พี่ชายเป็นคนแบบนี้เอง เขาพูดจาโผงผางตรงประเด็น แถมยังกล้าพูดเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาวได้อย่างเต็มปาก หล่อนก็กล้าพอจะรับรู้
“พูดอะไร น้องยังไม่บรรลุนิติภาวะนะ เดี๋ยวก็ใจแตกหรอก” หล่อนบ่นอุบ
“ก็พูดอย่างผู้ใหญ่พูดกัน ไม่ใช่ผู้ใหญ่พูดกับเด็ก”
“จะยกโทษให้ครั้งหนึ่งก็ได้ แต่ถ้ามีคราวหน้าลีน่าจะหนีออกจากบ้านเลยคอยดู”
“หนีจากเรือนใหญ่ไปนอนบ้านตาศักด์หรือไง” เมษาหัวเราะขันยายเด็กแสบทำขู่เป็นเรื่องเป็นราว “อย่าดื้อสิ ช่วยอยู่สงบๆสักพักเถอะให้เฮียหายปวดหัวบ้างงานก็เยอะยังต้องมาคอยตามห่วงเราอีก จะต้องให้ไหว้ไหม”
“ลีน่าไม่ได้ดื้อ มายุ่งเองทำไม ส่งไปให้ไกลๆเลยอย่าเอากลับมาเหยียบที่นี่อีก”
“เขาก็คงไม่อยากมานักหรอก” เมษาถอนหายใจยาวกดคางกับผมนุ่ม “ส่งไปอยู่ทีมชาติดีไหม ตบเก่งนักนะเรา” เขาพูดกลั้วหัวเราะทำเอาลลินาหัวเราะกิ๊ก
“เฮียไปก่อนล่ะค่ำๆถึงจะกลับ อยู่บ้านดีๆล่ะอย่าซนให้มันมากนัก” เขากดจูบที่หน้าผากมนก่อนจะดันเจ้าตัวแสบออกห่าง เด็กสาวยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“แล้วนี่หอบอะไรมาถุงเบ้อเร่อ”
“อาหารหมา”
“ที่บ้านตาน่ะเหรอ” เมื่อเด็กสาวพยักหน้ารับพี่ชายก็ไม่ได้สนใจอีกเขาเพียงแค่ส่ายหน้าและเดินลงเรือนไป ลลินาปล่อยลมหายใจพรูแอบนึกในใจ “เกือบไปแล้วเรา”
ถ้าพี่ชายขอดูในถุงใบเบ้อเร้อนี่คงต้องหาข้อแก้ตัวกันไม่จบ ทั้งซุปไก่สกัดรังนกของบำรุงกำลังเป็นสิบๆขวดที่มีคนเอามาให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ หล่อนกวาดจากตู้ในห้องครัวใส่ถุงมาหมดเกลี้ยง
นี่มันอาหารหมาเสียที่ไหนกันเล่า!
เก็บไว้ก็ไม่มีใครกินสุดท้ายก็ต้องแจกพวกคนงานไปหมด หล่อนเก็บไปบำรุงคนป่วยของหล่อนดีกว่า เสียงรถยนต์ของพี่ชายติดเครื่องและดังห่างออกไปลลินาเตรียมตัวลงจากเรือนบ้าง แต่เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เด็กสาวจึงต้องวิ่งตื๋อกลับเข้าไปใหม่
“สวัสดีค่ะ เทพวัฒน์ค่ะ” หล่อนส่งเสียงทักทายไป
“นั่นแกใช่ไหม ลีน่า” เสียงคุ้นหูที่ตอบกลับมาดูจะสะบัดอย่างอารมณ์เสีย
“แม่หรือคะ แม่คะโทรหาลีน่าเหรอ มีอะไร” หล่อนอดดีใจไม่ได้ แม่คงเป็นห่วงถึงได้ลงทุนโทรทางไกลข้ามประเทศมาหา
“พี่ชายแกอยู่ไหน”
“ออกไปธุระแล้วค่ะแม่มีอะไรคะ โทรเข้ามือถือสิคะเพิ่งออกไปนี่เอง”
“ฉันโทรเป็นสิบสายแล้วมันไม่ยอมรับ ถึงต้องโทรเข้าบ้านเนี่ย” ปลายสายตวัดเสียงกราดเกรี้ยว ปกติแม่เป็นคนเจ้าอารมณ์แต่การแสดงออกจะมีภาพลักษณ์ที่ดีเสมอ ขนาดที่ว่าโกรธหล่อนแทบตายแม่ยังแค่เอ็ดเอาและแสดงท่าทีเย็นชาเข้าใส่ น้อยครั้งนักที่แม่จะอาละวาดเสียงดังแบบนี้ หล่อนพอเดาอะไรได้รางๆก็คนที่ทำให้แม่โมโหได้ขนาดนี้ มีน้อยคนนัก
“ทำไม เกิดอะไรขึ้นคะ”
“บอกพี่แกว่าให้หยุดได้แล้ว” มารดาเอ็ดตะโรเสียงดังจนหล่อนต้องเอาหูโทรศัพท์ออกห่าง
“บอกมัน สั่งคนของมันให้หยุดเดี๋ยวนี้”
“อะไรกันแม่ หยุดอะไร ใครทำอะไร”
“อย่ามาทำไม่รู้เรื่อง แกไปบอกมันใช่ไหมเรื่องเออร์วิน” คำตอบที่ได้รับทำให้ลลินาถึงกับอึ้งไปด้วยความนึกไม่ถึง
“ฉันก็บอกแล้วว่าแกเข้าใจผิดจะเสนอหน้าไปฟ้องมันทำไม ไอ้เมษมันบ้าส่งคนมาซ้อมเออร์วิน เป็นพวกนักเลงชั้นต่ำที่ไหนไม่รู้ เขาเจ็บหนักต้องนอนโรงพยาบาล ตำรวจที่นี่เรียกฉันไปสอบ ฉันรู้ว่าต้องเป็นฝีมือมันแน่ สันดานอันธพาล” แม้แต่หลานชายคนเดียวคุณลลนาก็ยังด่ากราด
“อาการหนักมากไหมคะ” ลลินาสะใจนักเมื่อถามประโยคนี้ออกไป “ถ้าไม่เป็นอะไรมากลีน่าจะกลับไปซ้ำให้เจ็บหนักกว่านี้”
“ลีน่า แกพูดอย่างนี้ได้ยังไง ก็บอกแล้วไงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง ทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้”
“งั้นแม่ก็คงเข้าใจผิดเรื่องเฮียเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นฝีมือเฮียนะคะ ลีน่าว่าแฟนแม่คงไม่แค่นอนโรงพยาบาลหรอกค่ะ คงได้นอนในหลุมไปแล้ว แค่นี้นะคะ ลีน่ามีธุระสำคัญ” หล่อนวางสายไปเสียดื้อๆเจ็บแปลบในใจไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นสำคัญกว่าหล่อน
แต่ใครจะสน
แม่มีใครคนใหม่ คนที่แม่บอกว่าสามารถเติมเต็มชีวิตที่ขาดของแม่ได้ หล่อนก็จะมีเหมือนกันใครสักคนที่เป็นคำตอบของหัวใจอ้างว้างขาดความรักดวงนี้ เด็กสาวยิ้มขื่น บางทีหล่อนควรเลิกรอคอย “อะไร” ที่ไม่มีวันได้ครอบครอง หล่อนไม่ควรเสียเวลากับเงาที่ไม่มีวันไขว่คว้า แม่มองเห็นแต่ตนเองไม่เคยมีหล่อนหรือใครอยู่ในสายตา
หล่อนยังเหลือพี่ชาย ลลินายิ้มออกเป็นครั้งแรก เมษาจัดการกับมันแทนหล่อนไปแล้ว ไอ้ผู้ชายฉวยโอกาสจิตใจต่ำทรามคนนั้นคงสำนึกอะไรได้บ้างว่าการแตะต้องหล่อนเพียงแค่ปลายเล็บจะเกิดผลร้ายเพียงใด เมษาคุ้มครองหล่อนได้ แม้ว่าในวันหนึ่งเขาจะมีคนสำคัญที่ต้องดูแลอย่างที่ยายพรเคยพูดไว้ แต่กว่าจะถึงวันนั้นหล่อนคงแข็งแกร่งพอที่จะดูแลตัวเองได้
ความขุ่นมัวน้อยใจที่ตกตะกอนปลิวหายไปเป็นปลิดทิ้ง เด็กสาววิ่งซอยเท้าลงเรือนอย่างอารมณ์ดีโดยมีจุดหมายอยู่ที่กระท่อมท้ายสวนของตาศักดิ์
********************