อยากทราบความคิดเห็นของทุกท่าน..เกี่ยวกับบทความนี้ครับ...(ไม่มาม่าครับ)

ในช่วงเร็ว ๆ  นี้ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ “ยิ่งใหญ่” เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาพร้อม ๆ  กันทั่วโลก  นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่คนมีรายได้  “น้อย”  คิดหรือทำตัวคล้าย ๆ  กับ  “ชนชั้นกลาง”  โดยเฉพาะในการประท้วง  เรียกร้องสิทธิทางการเมือง  และต่อสู้เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ในอดีตหรือโดยปกติจะเป็นเรื่องของคนชั้นกลางที่มีรายได้ประมาณ 10,000 เหรียญหรือ 300,000 บาทต่อปีขึ้นไปที่มีความมั่นคงในชีวิตและไม่ต้องคำนึงถึงปากท้องประจำวันที่จะคิดและทำ  ส่วนคนที่มีรายได้น้อยกว่านั้นในอดีตพวกเขามักจะขาดการศึกษา  การเรียนรู้  และข้อมูล  ที่มีราคาแพงและพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำพอ    แต่ในปัจจุบัน  ด้วยการพัฒนาและการกระจายตัวของอินเตอร์เน็ตที่มีราคาถูก  รวมถึงทีวีผ่านดาวเทียม  โทรศัพท์มือถือ  และข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซ้ต์ต่าง ๆ  ที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้ได้ฟรี  สิ่งต่าง ๆ  เหล่านี้ทำให้คนที่มีรายได้ “น้อย”  สามารถเรียนรู้และใช้ชีวิตหรือคิดและทำแบบที่ชนชั้นกลางทำ  และนี่ทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการ “ปฏิวัติประชาธิปไตย” ที่เกิดขึ้นในประเทศย่านแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง  ที่เรียกกันว่า  “อาหรับสปริง”  การประท้วงต่อต้านคอร์รัปชั่นและการเรียกร้องสิทธิทางสังคมต่าง ๆ  ในอินเดียและจีน  และแน่นอน  การประท้วงเรียกร้องต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้โดยเฉพาะของ  “คนเสื้อแดง”

          คำที่ใช้เรียกคนที่มีรายได้ “น้อย”  ที่ทำตัวคล้ายคนชั้นกลางนั้น  ในภาษาอังกฤษเรียกว่า  “Virtual middle class” หรือ  “ชนชั้นกลางเสมือนจริง”  ในเมืองไทยนั้น  นักวิชาการบางคนเรียกว่า  “คนชั้นกลางระดับล่าง”   ชนชั้นกลางเสมือนจริงในประเทศอย่างอินเดียหรือจีนนั้น  มองกันว่ามีจำนวนหลายร้อยล้านคนหรือพอ ๆ  กับคนชั้นกลางในสองประเทศนั้น    ในประเทศไทยเองนั้น  คนชั้นกลางระดับล่างนั้นน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคนหรือน่าจะเท่า ๆ  หรือมากกว่าคนชั้นกลางจริง ๆ  ด้วยซ้ำ  ดังนั้น  อิทธิพลหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความคิดและการกระทำของพวกเขาจึงมีมหาศาลแทบจะ  “เปลี่ยนโลก”  หรือ  “ปฏิวัติ”  แนวทางในการดำเนินชีวิต  สังคม  และการเมืองของประเทศ

           ในส่วนของประเด็นทางเศรษฐกิจที่เราสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากมันมีผลต่อการลงทุนของเรานั้น  เรื่องแรกก็คือ  คนชั้นกลางระดับล่างหรือผมอยากจะเรียกว่า   “คนชั้นกลางรุ่นใหม่”  นั้น  ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่ทำงาน  “นอกระบบ”  นั่นคือ  พวกเขาไม่ได้ทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ  ที่มีระบบของการบริหารงานบุคคลเป็นมาตรฐาน  มีสวัสดิการที่ดี  ตรงกันข้าม  คนชั้นกลางรุ่นใหม่นั้น  มักเป็นพ่อค้าแม่ขายตามตลาด  เป็นคนขับรถรับจ้าง  เป็นพนักงานบริการ  เป็นลูกจ้างในสถานประกอบการที่เป็น  SME  ที่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย  หรือเป็นเกษตรกร “มืออาชีพ”   พูดถึงรายได้  พวกเขามักจะมีรายได้ไม่เกินเดือนละ 15,000-20,000 บาท หรือปีละไม่เกิน 180,000-240,000 บาท  อย่างไรก็ตามรายได้ของพวกเขามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  อานิสงค์จากการที่แรงงานขาดแคลนอย่างหนักและการเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล

            คนชั้นกลางรุ่นใหม่ของไทยนั้น  กำลังบริโภคหลาย ๆ  สิ่ง หลาย ๆ  อย่างที่คนชั้นกลางทำ  ปรากฏการณ์ของ  “รถยนต์คันแรก”  ที่มียอดขายจำนวนมหาศาลนั้น  เกิดขึ้นเนื่องจากมันมีราคาเพียงไม่กี่แสนและสามารถผ่อนได้ด้วยเงินไม่กี่พันต่อเดือนซึ่งทำให้คนชั้นกลางรุ่นใหม่สามารถซื้อได้   เช่นเดียวกัน  คนชั้นกลางรุ่นใหม่นั้นนิยมซื้อคอนโดที่มีราคาที่พวกเขาสามารถผ่อนได้จากเดิมที่บ้านนั้นเป็นความฝันเฉพาะของคนชั้นกลาง  นี่ไม่ต้องพูดถึงการผ่อนมอเตอร์ไซต์หรือเครื่องใช้หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีราคาไม่สูง  แต่เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกหรือเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิงสำหรับชีวิตแบบคนชั้นกลางทั่วไป

            การซื้อสินค้าของคนชั้นกลางรุ่นใหม่นั้น   กำลังเหมือนกับคนชั้นกลางนั่นคือ  พวกเขาเข้าห้างค้าปลีกสมัยใหม่  พวกเขาอยากได้สินค้าและบริการที่ดี  “ในราคาที่ย่อมเยา”   ค่าที่ว่าคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากและโตขึ้นเรื่อย ๆ  ดังนั้น  จึงเป็นเรื่องคุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่จะขายให้กับพวกเขา   เช่นเดียวกัน  คนชั้นกลางรุ่นใหม่นั้น  กินอาหารในภัตตาคารมากขึ้นมาก  อาหารที่ขายในภัตตาคารตามห้างนั้น  เนื่องจากปริมาณการขายสูงทำให้มีการ  “ประหยัดจากขนาด”  ส่งผลให้ราคาต่อมื้อไม่แพงและคนชั้นกลางรุ่นใหม่สามารถกินได้  อาจจะเดือนละหลายครั้ง  หรืออย่างน้อยในวันเงินเดือนออก

            คนชั้นกลางรุ่นใหม่นั้นมักเป็น  “เสรีชน”  แบบเดียวกับคนชั้นกลาง  พวกเขาไม่ต้องการ  “พึ่งพิง”  ใครอย่างที่  “คนจน”  ในอดีตของไทยต้องทำกับคนที่ร่ำรวยหรือมีสถานะในสังคมที่สูงกว่า  เดี๋ยวนี้เราต้อง“ง้อ” ลูกจ้างที่มาทำงานกับเราในที่ทำงานหรือที่บ้าน  ความ  “เสมอภาค”  ของคนในสังคมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  สะท้อนได้จากละครทีวีหลังข่าวที่หนังแนว  “แรงเงา”  ที่ตัวเอกฝ่ายหญิงนั้นใช้วิธีต่อสู้แบบ  “ตาต่อตา  ฟันต่อฟัน”  กับคนที่  “สูงกว่าทางสังคม”  ได้รับความนิยมล้นหลาม  ในขณะที่หนังแบบ  “บ้านทรายทอง”  ที่นางเอกยอมเป็น  “เบี้ยล่าง” คนที่ “สูงกว่าทางสังคม”  เพื่อที่จะใช้  “ความดี” เอาชนะใจพวกเขานั้น  ผมเชื่อว่าจะลดความนิยมลงไปเรื่อย ๆ  และแม้ว่าจะยังมีคนชื่นชอบอยู่  บทละครก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับค่านิยมของ “คนรุ่นใหม่” ที่ดูแล้วอาจจะรู้สึกว่าความคิดและการกระทำของนางเอก  “ไม่มีเหตุผล”

             ลัทธิ  “บริโภคนิยม”  ที่เป็นเรื่องของคนชั้นกลางในอดีตนั้น  แน่นอน  ขณะนี้เป็นเรื่องที่คนชั้นกลางรุ่นใหม่รับเข้าไปอย่างเต็มที่   ราคาของสินค้าที่เคยแพงและคนชั้นกลางรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้อหาหรือใช้ได้นั้น  ปัจจุบันพวกเขาสามารถใช้มัน  ผ่านระบบการ “ผ่อนส่ง”  ที่มีประสิทธิภาพสูง  ดังนั้น  พวกเขามีหนี้สินพอกพูนซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะ “ไม่แคร์”  พวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ  การอดออมเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นมีความจำเป็นน้อยลงไปมากหลังจากที่รัฐได้เข้ามาดูแลผ่านโครงการสวัสดิการสังคมที่เรียกว่า  “ประชานิยม”  หลายอย่างโดยเฉพาะรายการ “30 บาทรักษาทุกโรค”

             ในฐานะของ VI นั้น  ความเข้าใจในพฤติกรรมของคนชั้นกลางรุ่นใหม่ผมคิดว่ามีความสำคัญยิ่ง  เหตุผลก็คือ  พวกเขาเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ใหญ่มาก  บริษัทที่สามารถหรือมีโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของพวกเขาจะสามารถสร้างรายได้และเติบโตไปได้มาก  หัวใจก็คือการออกแบบสินค้าและบริการที่มีราคาถูกและ  “คุ้มค่า”  นอกจากนั้น  มันต้องมีคุณภาพที่ดีและให้ความรู้สึกที่ทำให้ผู้ใช้มี  “ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ”  เมื่อได้ใช้หรือบริโภคมัน  นอกจากนั้น  ผลิตภัณฑ์จะต้องสอดคล้องกับ  “ไล้ฟสไตล์”  หรือแนวทางการใช้ชีวิตของพวกเขา  นั่นก็คือ  ต้องมีความสะดวกสบายและบริการที่ดี  ทั้งหมดนี้จะทำได้ก็จะต้องมีปริมาณธุรกิจที่ใหญ่หรือมากพอที่จะทำให้เกิด  Economies of Scale หรือใหญ่พอที่จะทำให้ต้นทุนลดลงมากจนคนชั้นกลางรุ่นใหม่สามารถบริโภคได้  “เป็นประจำ”  และถ้าเราสามารถค้นพบบริษัทแบบนี้  การลงทุนก็น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้

ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (เจ้าของบทความ)
ที่มา:
http://portal.settrade.com/blog/nivate/2013/02/11/1249

.....ถ้าจะดีกรุณา ลงด้วยนะครับว่าจากห้องไหน เพื่อประโยชน์ในการรับฟังความคิดเห็นครับ...



..............ผมจากห้อง รดน.ครับ........


ปล.สำหรับผม มุมมองในฐานะ ชนรุ่นเก่า...มันเหมือนกับ..แข่งกันไปในทางที่ไม่ถูกต้อง..อนาคตไม่อยากนึกถึงเลยครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่