เค้าว่ากันว่า "ญี่ปุ่นจะล้มละลาย" จริงหรือ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผม Copy มาให้อ่านนะครับ ช่วยวิเคราะห์กันหน่อยว่าจริงหรือเปล่า ถือว่าเป็นความรู้นะครับ

ไม่เอา ดราม่า ระหว่าง เมกา กับ ญี่ปุ่นนะ
*********************************
มีเพื่อนนักหนังสือพิมพ์ท่านหนึ่งกล่าวอย่างท้าทายว่า ญี่ปุ่นล้มละลายแล้ว ผมขอนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆซึ่งมีทุกระดับความรู้ในที่นี้ลองพิจารณาตามความเหมาะสมว่าจริงหรือไม่...กับความเชื่อเดิมๆว่า ชาติที่ร่ำรวยอย่างญีู่ปุ่นจะหมดตัวได้อย่างไร ใครจะผลิตและขายเก่งแบบญี่ปุ่น โลกทุนนิยมถึงทางตันหรือยัง และลองคิดดูว่าอะไรคือทางออก....

ผมได้ตั้งหัวข้อใหม่ให้น่าสนใจ และเคารพต่อความเห็นของผู้อ่านทุกคนตามข้างบน และตอนท้ายสุดมี Link เพื่อให้ท่าน download เป็น pdf ได้จาก GotoKnow.org

(ยาวนิด...อดทนอ่านกันหน่อยนะครับ เพราะได้ประโยชน์ และฝากกด Like เป็นกำลังใจกับผู้เขียน และช่วยกัน Share บนหน้า Timeline ของท่านเพื่อร่วมกันหาทางออกให้ประเทศไทยของเรา)

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

ญี่ปุ่นล้มละลายแล้ว
(4 กุมภาพันธ์ 2556)
==========================
ในฐานะประเทศที่แพ้สงครามโลกครั้งที่2 ญี่ปุ่นโดนสหรัฐอเมริกาครอบอย่างเหนี่ยวแน่นมามาตลอด เป็นอาณานิคมทางการเมืองและการทหารโดยสมบูรณ์ อเมริกาชี้นกญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่าเป็นนก ชี้ไม้ญี่ปุ่นก็ต้องบอกว่าเป็นไม้ ญี่ปุ่นไม่อยู่ในฐานะอะไรที่จะต่อรองกับอเมริกาได้ นโยบายการเมือง เศรษฐกิจ การต่างประเทศ ความมั่นคงและทางทหารต้องผูกติดกับสหรัฐอเมริกาอย่างเดียว โดยมีสนธิสัญญาทางความมั่นคงระหว่างกัน ถ้าใครถูกรุกรานอีกฝ่ายต้องเข้ามาช่วยรบด้วย ขณะนี้มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ญี่ปุ่นประมาณ 35,000นาย (1)

ฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่น
================

ญี่ปุ่นไม่สามารถจะดิ้นปลดแอกจากสหรัฐอเมริกาได้ เพราะว่ามีเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ข่มขู่อยู่ใกล้ๆ และที่สำคัญในอดีตญี่ปุ่นทำมิดีมิร้ายกับจีนมามาก ทำให้เกรงกลัวว่าจีนจะเอาคืน ขณะนี้จีนเข้มแข็งมากทั้งทางเศรษฐกิจและทางทหาร และมีทีท่าอยากจะเอาคืนเสียด้วย ญี่ปุ่นจึงไม่อยู่ในฐานะจะปกป้องตัวเองได้ จึงต้องพึ่งอเมริกาเกือบจะ100%ในการให้ความคุ้มครองทางความมั่นคง เพื่อความอยู่รอด

ญี่ปุ่นเติบโตขึ้นมาได้เพราะนโยบายพัฒนาการอุตสาหกรรมที่อเมริกาวางไว้ให้เป็นฐานหรืออาณานิคมทางเศรษฐกิจในเอเซีย แม้ว่าจะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเช่นน้ำมัน เหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง ถ่านหินหรือวัตถุดิบอื่นๆในการผลิต แต่ญี่ปุ่นสามารถนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการแปรรูปและก้าวล้ำหน้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆของโลกได้ ด้วยแบรนด์ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน โซนี่ พานาโซนิค โตชิบ้า ชาร์ป ฯลฯ

ญี่ปุ่นกลายเป็นลูกไล่ของสหรัฐฯในการรีไซเกิ้ลเงินดอลล่าร์ เพื่อให้มีความต้องการดอลล่าร์และให้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก ญี่ปุ่นผลิตเพื่อส่งออกให้สหรัฐฯบริโภคเป็นตลาดหลัก ได้เงินดอลล่าร์มาตุนไว้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ ญี่ปุ่นพัฒนาสินค้าผลิตเหนื่อยเกือบตาย แต่อเมริกาพิมพ์เงินเปล่าๆออกมาซื้อ ยิ่งขาดดุลย์การค้าก็ยิ่งออกพันธบัตรออกมามากขึ้นเท่านั้น แล้วญี่ปุ่นก็เอารายได้ดอลล่าร์กลับเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อให้สหรัฐฯบริโภคเกินควรต่อไป

พูดง่ายๆญี่ปุ่นขายรถยนต์ให้อเมริกา แลกกับกระดาษเปล่าๆ หรือIOUที่รัฐบาลอเมริกันออกมาโดยไม่มีวันใช้หนี้ได้
เพราะหนี้ในงบสหรัฐฯอยู่ที่ $16ล้านล้าน หรือ 100% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ และหนี้นอกงบ (ภาระผูกพันประกันสังคม ประกันสุขภาพ บำเหน็จบำนาญ ฯลฯ) อยู่ที่ $86.6ล้านล้าน เทียบเท่า550%ต่อจีดีพี
ซาอุดิ อาราเบียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งหลายก็โดนล็อคคอแบบนี้ ต้องขายน้ำมันในรูปดอลล่าร์อย่างเดียว พอได้ดอลล่าร์มาก็เอาดอลล่าร์นั้นกลับเข้าไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการคุ้มครองทางความมั่นคง ทางทหาร วิธีการนี้ทำให้ดอลล่าร์แทนที่จะอ่อนเพราะเศรษฐกิจมีแต่การบริโภคเกินควร กลับแข็งเพราะทุกประเทศมีความต้องการตุนดอลล่าร์เพื่อการค้าขายและเพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

แต่การรีไซเกิ้ลดอลลล่าร์แบบนี้กำลังจะถึงทางตัน เพราะว่าอเมริกาเล่นพิมพ์เงินไม่เลิก ทำให้หลายๆประเทศเตรียมตัวหนีออกจากดอลล่าร์ กลัวว่าดอลล่าร์จะกลายเป็นเศษกระดาษจากความเฟ้อ
จะว่าเป็นกรรมก็ได้เพราะว่าขณะนี้ญี่ปุ่นซึ่งขณะนี้มีเศรษฐกิจอันดับ3ของโลก รองมาจากสหรัฐอเมริกาและจีน มีฐานะการเงินที่ล้มละลายแล้วด้วยหนี้สูงถึง230%ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าไปได้อีกกี่ยก
ทุนนิยมอุตสาหกรรมจะพบจุดจบแบบนี้ทุกรายหลังจากที่พัฒนาถึงจุดสูงสุดแล้วจะเสื่อมลงมาอย่างรวดเร็ว และจะหาทางออกไม่เจอเพราะว่าติดกับอยู่ในระบบอุตสาหกรรม ที่ออกจากวิถีชีวิตดั้งเดิมจนกู่ไม่กลับ พอเศรษฐกิจพัง จะไม่เหลืออะไรเลย

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ผม จขกท. ต่อนะครับ

มาดูตัวเลขกันดีกว่า ที่ชี้ให้เห็นว่าอนาคตญี่ปุ่นมืดมนสนิท (2)

๑. ระหว่างปี 1955 ถึง 1970 ญี่ปุ่นกลายเป็นความมหัศจรรย์ของเอเซีย (Asia Miracle) กอปปี้จนได้ดี มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยประมาณ 9.5%

๒. ระหว่าง 1971-1990 อัตราเฉลี่ยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นผ่อนลงอยู่ที่3.8%

๓. ปี 1985 อเมริกามีปัญหาเศรษฐกิจหนัก ใช้จ่ายเกินตัว ขาดดุลย์การค้า จึงทำข้อตกลงพลาซ่า แอคคอร์ด( Plaza Accord) ขึ้นมา ข้อตกลงนี้เป็นความร่วมมือของทางการและธนาคารกลางของสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันตะวันตก และญี่ปุ่น ที่จะเข้าไปแทรกแซงการเงิน เพื่อให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนตัวลง และให้ค่าเงินมาร์คของเยอรมันตะวันตกและค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้น ปากก็บอกว่าเพื่อสร้างสมดุลย์ในระบบการค้าโลก ที่จริงแล้วเป็นการหักคอญี่ปุ่นนั่นเอง

๔. ระหว่าง1985-1987 ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 51% ธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ถือพันธบัตรสหรัฐฯขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว51% ญี่ปุ่นส่งออกฟรี เหนื่อยเปล่าๆ

๕. ญี่ปุ่นเริ่มส่งออกลำบาก เงินเยนแข็งทำให้เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ ในขณะเดียวกันผู้ส่งออกเริ่มคิดย้ายฐานการผลิตออกจากญี่ปุ่นมาเมืองไทยและภูมิภาคบ้านเรา ตรงกับช่วงหน้าชาติพอดี

๖. นับตั้งแต่เศรษกิจฟองสบู่ญี่ปุ่นแตกเมื่อปี 1989-1990 นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยแค่ 0.8% เท่านั้น มีแต่ทรงตัวกับทรุด ท่ามกลางเงินฝืดอย่างรุนแรง

๗. ตลาดหุ้นญี่ปุ่นหรือดัชนีนิคเคอิตอนนี้ตำกว่าปี 1989 ประมาณ 70-80%.

๘. ดัชนีนิคเคอิเคยทำสถิติสูงสุดที่38,957.44 เมื่อปี 1989 ตอนนี้อยู่ระหว่าง 8,000-12,000.

๙. ราคาบ้านในญี่ปุ่นขณะนี้ตกลงไปเทียบเท่าปี 1983 หลังพุ่งสูงสุดปี 1990

Source: http://www.doctorhousingbubble.com/japan-real-estate-bubble-home-prices-back-30-years-zero-percent-mortgage-rates/

๑๐. รัฐบาลญี่ปุ่นก่อหนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้หนี้สาธารณะท่วมหัวที่ $12ล้านล้าน หรือ 230%ต่อจีดีพี แต่เศรษฐกิจก็ไม่ฟื้น เพราะทุนนิยมการเงิน+อุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

๑๑. ญี่ปุ่นมีงบประมาณขาดดุลย์ถึง56%ของรายได้ภาษีที่เก็บเข้ามา ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐฯที่ผ่านมาทำให้ญี่ปุ่นเคยชินกับการใช้จ่ายภาครัฐฯ ผลที่ตามมาคืองบประมาณที่ขาดดุลย์มหาศาล และหนี้สาธารณะที่สูง

๑๒. 60%ของงบประมาณญี่ปุ่นใช้ในการจ่ายหนี้

๑๓. ถ้าดอกเบี้ยขึ้นเป็น 3% เงินภาษีญี่ปุ่นที่เก็บได้ทั้งหมด ต้องเอาไปจ่ายหนี้อย่างเดียว ไม่มีเงินเหลือจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หรือพัฒนาประเทศ

๑๔. ธนาคารกลางญี่ปุ่นกดดอกเบี้ยเหลือราว 0.10%เป็นประเทศแรกมา10กว่าปีแล้ว ดอกเบี้ยบันธบัตรอายุ10ปีของญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.00%.

๑๕. ความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มลดลง โดยเฉพาะหลังฟูกูซิมา ทำให้พึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ได้ไม่เต็มที่ ต้องนำเข้าน้ำมันเพิ่ม สงผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลย์ปีที่แล้ว $78,000ล้าน

๑๖. ถ้าญี่ปุ่นแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ที่ฟูกูชิมาได้ไม่เบ็ดเสร็จ อาจจะนำไปสู่การประท้วง หรือแรงกดดันทางการเมืองให้ปิดโรงงานนิวเคลียร์จำนาน54 โรงทั่งทั้งประเทศ เพราะว่าถึงจุดๆหนึ่งประชาชนจะไม่ยอมรับภัยจากสารพิษจากกากนิวเคลียร์ ถ้าต้องปิดโรงงานนิวเคลียร์ทั้งหมดอุตสาหกรรมญี่ปุ่นจะเป็นอัมพาตทันที เพราะว่าญี่ปุ่นพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์สูงในการปั่นกระแสไฟฟ้าสูงถึง 30%ของการบริโภคภายในประเทศ

๑๗. ประชากรญี่ปุ่นมีแต่จะแก่ลง และจำนวนจะลดลงเพราะมีคนตายมากกว่าคนเกิดใหม่ ชณะนี้ญี่ปุ่นมีประชากร 128 ล้านคน ปี 2050 จะลดลงเหลือ 90 ล้านคน ปี2100 เหลือ 47 ล้านคน

๑๘. พูดกันเป็นโจ๊กว่า ถ้าระดับการลดลงของประชากรอยู่ในอัตรานี้ ใน 600 ปีข้างหน้า จะเหลือคนญี่ปุ่นอยู่แค่ 480คน

๑๙. ปี 2050 อายุคนญี่ปุ่นจะเฉลี่ย (median) อยู่ที่ 55ปี จะเป็นสังคมที่มีคนแก่มากที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์มนุษย์เคยบันทึกมา
๒๐. นายทาโร อาโซะ รมวคลังญี่ปุ่นต้องออกมากล่าวขอโทษกับประชาชนหลังจากพูดหลุดปากว่าคนแก่ญี่ปุ่นควรจะตายไวๆ จะได้ช่วยประเทศประหยัดงบประมาณ ปรากฎว่านายอาโซะอายุ 72ปีแล้ว (3)
๒๑. ญี่ปุ่นกำลังกดค่าเงินให้อ่อนด้วยการพิมพ์เงินตามคำสั่งสหรัฐอเมริกา เป็นการก่อสงครามการเงินโดยUS Federal Reserve และ Bank of Japan เพื่อทำลายส่งออกของประเทศคู่แข็งขันเพราะเงินสกุลอื่นจะแข็งขึ้น

๒๒. สงครามการเงินจะส่งผลให้เกิดฟองสบู่และเงินเฟ้อทั่วโลก ข้าวของจะแพงขึ้น เพราะประเทศอื่น ๆ จะลดค่าเงินเพื่อแข่งและเพื่อความอยู่รอดและจะกระตุ้นภาคส่งออก

ญี่ปุ่นจะรอดต้องสลัดอเมริกาออกจากหลังให้ได้
=================================
เมื่อเดือนมากราคม 2013ที่ผ่านมา นายนัตซูโอะ นามากูชิ ผู้นำพรรคนิว โกเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมผสมรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ไปเยือนจีนในฐานะทูตพิเศษเพื่อพูดคุยและพยายามลดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ ปรากฎว่านายนามากูชิได้มีโอกาสพบกับนายฉี จินผิง ผู้นำจีนอีกด้วย การเยือนจีนของมือวางซามูไรที่ไม่มีอันดับครั้งนี้ถือได้ว่า ญี่ปุ่นยังคงสงวนท่าทีและความสัมพันธ์กับจีนยังคงมีความตรึงเครียดกันอยู่ในระดับสูง

มือวางซามมูไรไร้อันดับพบกระบี่มือหนึ่งของจีน
ระหว่างเดือนมกราคมนี้เดือนเดียว ผู้นำญี่ปุ่นนายชินโซะ อาเบ๊ได้มาเยือนเวียดนาม ไทยและอินโดเนเชีย ส่วนรองนายกฯและรมว คลังนายทาโร อาโซได้ไปเยือนพม่า และรมวต่างประเทศฟูมิโอะ กิซิดะได้เยือนสิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคนี้ ถ้าพิเคราะห์ให้ดี จะเห็นได้ว่าญี่ปุ่นกำลังดำเนินนโยบายปิดล้อมจีน ตามหมากที่สหรัฐอเมริกาได้วางไว้

พูดง่ายๆ ญี่ปุ่นทำตัวเป็นโนมินีให้สหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังสะกัดกั้นไม่ให้จีนผงาดเป็นผู้นำโลก

ญี่ปุ่นเน้นย้ำกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางยุทธศาสตร์หลักสี่ประเทศในภูมิภาคนี้ คือเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

หนังสือพิมพ์จีนไชน่าเดย์ลี่ถึงกับพาดหัวข่าวในบทบรรณาธิการว่าญี่ปุ่นเป็นภัยอันตรายต่อโลก โดยระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังโดนเสี้ยมโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อปิดล้อมจีน โดยยกเรื่องข้อพิพาทหมู่เกาะเซ็นกากุหรือเตียวหยู และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนออกจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่หนักหน่วง (4)

อเมริกาเสี้ยมให้ญี่ปุ่นแย่งเกาะกับจีน
========================
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นกำลังเข้าจุดต่ำสุดหลังจากที่มีการประท้วงธุรกิจญี่ปุ่นที่ลงทุนในจีน สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งในการครอบครองหมู่เกาะดังกล่าว ความตรึงเครียดได้เพิ่มขึ้นตามลำดับหลังจากมีการยกกองเรือรบและเครื่องบันรบมาเฉียดฉิวกันเพื่อหยั่งเชิงกัน
นายอาเบ๊ได้ประกาศว่าจะเพิ่มงบการทหารแสดงทีท่าแข็งกร้าว พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับจีน เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2013ญี่ปุ่นเพิ่มงบประมาณทหารเป็นครั้งแรกในรอบ11 ปี ปีนี้งบทหารจะเพิ่มจากปีที่แล้ว 0.8% เป็น $52,000 ล้าน (5)
มีความเสี่ยงที่ภูมิภาคนี้ จะเกิดการปะทะทางทหารขึ้นถ้าหากว่าประเทศต่างๆในเอเซียไม่สามารถจะสลัดอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาจากนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของตนเองได้ เพราะมวยคู่หลักคือสหรัฐอเมริกาและจีน เพราะสหรัฐอเมริกากำลังเพลี้ยงพล้ำทางเศรษฐกิจ มีหนี้สินล้นพ้นที่ไม่สามารถจะชำระคืนได้ นอกจากการพิมพ์เงินที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่ร้ายแรงทั่วโลกและการทำลายค่าเงินดอลล่าร์ไปในตัว
ถ้าสถานการณ์ดำเดินไปตามวิถีปกติ จีนจะผงาดแทนสหรัฐอเมริกา ด้วยการลอยค่าเงินหยวนเพื่อที่จะมาแข่งรัศมีในฐานะเงินสกุลหลักของโลกเทียบคู่ดอลล่าร์ที่กำลังจะไร้ค่า
สหรัฐอเมริกากำลังเสี้ยมญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทยและพม่าให้มีความขัดแย้งกับจีน โดยให้เหตุผลว่าหลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ จีนกำลังจะแผ่อำนาจมาคุกคามอำนาจอธิปไตยในภูมิภาคเอเซียนี้ ประกฎว่าแทบทุกประเทศเต้นตามเกมนี้ สร้างความหวาดระแวงในภูมิภาคนี้เพิ่มมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะปะทะกันทางทหาร
ต้องเข้าใจว่าญี่ปุ่นไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อกรอะไรกับจีนได้ เพราะว่าเศรษฐกิจมีปัญหาหนักหน่วงมาก เข้าขั้นล้มละลาย ความสามารถในการแข่งขันลดถอยมานาน
จีนเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของญี่ปุ่น ส่งออกอาหารให้ญี่ปุ่นซึ่งผลิตไม่พอการบริโภค ถ้าจีนบีบญี่ปุ่นด้วยการไม่ค้าขายด้วย ไม่ขายอาหารให้ ญี่ปุ่นจะลำบากหนักขึ้นไปอีก การที่ญี่ปุ่นหวังจะพึ่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาช่วยถ่วงดุลย์จีนหรือเป็นแหล่งการผลิต แหล่งอาหารและพันธมิตรทางความมั่นคงอาจจะช่วยประคองญี่ปุ่นไปได้สักระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะเอกภาพในภูมิภาคนี้ยังคงเป็นเรื่องไม่แน่นอนสูง
ทางรอดทางเดียวของญี่ปุ่น คือต้องสลัดสหรัฐอเมริกาที่ครอบงำญี่ปุ่นตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองในฐานะผู้ชนะสงครามออกจากหลังให้ได้ ทิ้งดอลล่าร์ที่ครอบงำระบบการเงิน เศรษฐกิจมาของญี่ปุ่นมานับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2 แล้วรื้อฟื้นสัมพันธ์ใหม่กับจีน มิฉะนั้นแล้วญี่ปุ่นจะไปไม่รอด หลังจากนั้นภูมิภาคเอเชียจะมีการปรับตัวเข้าหากัน ลดการเผชิญหน้า เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเอเชียที่แท้จริง
ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงขาลง ยุคทองของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้จบลงแล้ว บริษัทหรือโรงงานญี่ที่ย้ายออกนอกประเทศมีโอกาสรอดมากกว่า ถ้ามีเหตุรุนแรงในตะวันออกกลางปะทุขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นหรือขายของไม่ได้ ญี่ปุ่นจะไม่มีทางฟื้นขึ้นมาอีกได้เลย เพราะว่าปัญหาหนี้และโครงสร้างอุตสาหกรรมหมักหมมเกินเยียวยา
อ้างอิง

(1) http://en.wikipedia.org/wiki/United_States_Forces_Japan
(2) The Setting Sun -- Japan’s Forgotten Debt Problems
http://www.economonitor.com/blog/2013/01/the-setting-sun-japans-forgotten-debt-problems/
(3) Japan’s finance minister apologizes for saying old people should ‘hurry up and die’ to save the state money
http://news.nationalpost.com/2013/01/22/hurry-up-and-die-japans-finance-minister-apologizes-for-saying-old-people-should-die-to-save-the-state-money/
(4) Japan is a real danger to the world
http://www.chinadaily.com.cn/opinion/2013-01/14/content_16116253.htm
(5) Japan boosts defence budget amid island row
http://www.channelnewsasia.com/stories/afp_asiapacific/view/1250965/1/.html?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter

ปล. หากอ่านไม่สะดวก สามารถ download อ่านได้จาก http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/875/471/original_%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2.pdf?1359994220
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่