อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวโต้ดีเอสไอ.ยืนยันไม่มีการฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศ และอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเคยกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดแถลงข่าวชี้แจงลำดับที่มาของโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง และอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการยัดเยียดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ แต่เป็นเรื่องที่เสนอมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาประสานต่อ โดยยืนยันว่าโครงการนี้ผ่านการทำอีอ๊อกชั่น ซึ่งเป็นวิธีการที่เปิดกว้าง และมีการแข่งขันในการประมูลอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ซึ่งจะทำให้ได้ผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดราคา และไม่มีการฮั้วประมูลอย่างที่ ดีเอสไอ.กล่าวหาแน่นอน
นอกจากนี้นายสุเทพ ยังยืนยันว่าโครงการที่ตนเองอนุมัติไปในท้ายคำสั่ง ยังระบุด้วยว่าห้ามทุบทิ้งอาคารสถานีตำรวจเดิม ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการแถลง นายสุเทพ ยังได้นำเอกสารเกี่ยวกับลำดับการยื่นประกวดราคามาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย
ส่วนปัญหาโรงพักในต่างจังหวัด ที่สถานีตำรวจภูธรท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งใหม่ ใจกลางหมู่บ้านตีมิดอรัญญิก ชาวบ้านกำลังเร่งเดินสายไฟ เพื่อให้กลับมาเปิดใช้ได้ตามปกติอีกครั้ง สำหรับสถานีตำรวจชั่วคราวแห่งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ และประชาชนในหมู่บ้านตีมีดอรัญญิก ช่วยกันระดมทุนจนได้เงินถึง 1 แสนบาท มาก่อสร้างอาคารสำนักงานขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาว 12 เมตร แม้จะมีเนื้อที่จำกัด แต่ก็สามารถแบ่งเป็นห้องทำงานและห้องน้ำเล็กๆ ระดมช่างในหมู่บ้านมาช่วยกันก่อสร้างจนเสร็จในเวลาเพียง 10 วัน เพราะชาวบ้านสุดทนผู้รับเหมาทิ้งงาน จนสถานีตำรวจหลังเดิมถูกรื้อนานเข้าปีที่ 3 และตำรวจต้องใช้ห้องแถวเป็นที่ทำงานเป็นเวลาร่วม 2 ปี
ส่วนสถานีตำรวจอื่นๆที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน สภาพก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีการเทปูนขึ้นโครงในชั้นแรก ส่วนชั้นที่สองมีเพียงเสาปูนเท่านั้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อาคารห้องประชุมเป็นที่ทำการชั่วคราวมากว่า 1 ปี
และที่สถานีตำรวจภูธรบัวสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร อาคารหลังใหม่ก่อสร้างไปเพียง 20% มีเสากับพื้นปูนไว้ดูต่างหน้าจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับห้องปฏิบัติงานไม่พอ บางส่วนต้องใช้ศาลาที่พักประชาชน และช่วงฤดูฝนลมกรรโชกแรง ก็ทำให้ฝนสาดเข้ามาอยู่กันไม่ได้ ซึ่งต้องใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว
พยายามหาอ่านข่าว ที่ สุเทพ นำมาแถลงว่า มีการพูดถึงเรื่องการรวมสัญญาหรือไม่ หรือ พูดว่า ทำไมถึงจำเป็นต้องรวม 12 สัญญา เป็น สัญญาเดียว หาไม่เจอ
ที่เจอมันก็แค่ พร่ำ ๆ ไป ให้มันผ่านไปวัน ๆ เท่านั้น กันพวกราชดำเนินถามหาว่าหายไปไหน แต่คำชี้แจงในราบละเอียดที่ประชาชนต้องการคำตอบหาไม่มี
สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ..............ลมปากสุเทพ หรือจะสู้เอกสารดีเอสไอ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเคยกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดแถลงข่าวชี้แจงลำดับที่มาของโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง และอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการยัดเยียดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ แต่เป็นเรื่องที่เสนอมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาประสานต่อ โดยยืนยันว่าโครงการนี้ผ่านการทำอีอ๊อกชั่น ซึ่งเป็นวิธีการที่เปิดกว้าง และมีการแข่งขันในการประมูลอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ซึ่งจะทำให้ได้ผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดราคา และไม่มีการฮั้วประมูลอย่างที่ ดีเอสไอ.กล่าวหาแน่นอน
นอกจากนี้นายสุเทพ ยังยืนยันว่าโครงการที่ตนเองอนุมัติไปในท้ายคำสั่ง ยังระบุด้วยว่าห้ามทุบทิ้งอาคารสถานีตำรวจเดิม ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการแถลง นายสุเทพ ยังได้นำเอกสารเกี่ยวกับลำดับการยื่นประกวดราคามาแสดงต่อสื่อมวลชนด้วย
ส่วนปัญหาโรงพักในต่างจังหวัด ที่สถานีตำรวจภูธรท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งใหม่ ใจกลางหมู่บ้านตีมิดอรัญญิก ชาวบ้านกำลังเร่งเดินสายไฟ เพื่อให้กลับมาเปิดใช้ได้ตามปกติอีกครั้ง สำหรับสถานีตำรวจชั่วคราวแห่งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ และประชาชนในหมู่บ้านตีมีดอรัญญิก ช่วยกันระดมทุนจนได้เงินถึง 1 แสนบาท มาก่อสร้างอาคารสำนักงานขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาว 12 เมตร แม้จะมีเนื้อที่จำกัด แต่ก็สามารถแบ่งเป็นห้องทำงานและห้องน้ำเล็กๆ ระดมช่างในหมู่บ้านมาช่วยกันก่อสร้างจนเสร็จในเวลาเพียง 10 วัน เพราะชาวบ้านสุดทนผู้รับเหมาทิ้งงาน จนสถานีตำรวจหลังเดิมถูกรื้อนานเข้าปีที่ 3 และตำรวจต้องใช้ห้องแถวเป็นที่ทำงานเป็นเวลาร่วม 2 ปี
ส่วนสถานีตำรวจอื่นๆที่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงาน สภาพก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีการเทปูนขึ้นโครงในชั้นแรก ส่วนชั้นที่สองมีเพียงเสาปูนเท่านั้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อาคารห้องประชุมเป็นที่ทำการชั่วคราวมากว่า 1 ปี
และที่สถานีตำรวจภูธรบัวสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร อาคารหลังใหม่ก่อสร้างไปเพียง 20% มีเสากับพื้นปูนไว้ดูต่างหน้าจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับห้องปฏิบัติงานไม่พอ บางส่วนต้องใช้ศาลาที่พักประชาชน และช่วงฤดูฝนลมกรรโชกแรง ก็ทำให้ฝนสาดเข้ามาอยู่กันไม่ได้ ซึ่งต้องใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว
พยายามหาอ่านข่าว ที่ สุเทพ นำมาแถลงว่า มีการพูดถึงเรื่องการรวมสัญญาหรือไม่ หรือ พูดว่า ทำไมถึงจำเป็นต้องรวม 12 สัญญา เป็น สัญญาเดียว หาไม่เจอ
ที่เจอมันก็แค่ พร่ำ ๆ ไป ให้มันผ่านไปวัน ๆ เท่านั้น กันพวกราชดำเนินถามหาว่าหายไปไหน แต่คำชี้แจงในราบละเอียดที่ประชาชนต้องการคำตอบหาไม่มี