รวมกระทู้ " กระต่ายป่า " ( 6 กุมภาพันธ์ 2556 )

เทียบฟอร์มอสังหาฯ...แชมป์ชนแชมป์ "พฤกษา-แสนสิริ" เดิมพันผู้นำตลาด


06 ก.พ. 2556 เวลา 00:34:38 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



ตำแหน่ง เบอร์ 1 ที่มียอดรับรู้รายได้สูงสุดในรอบปี"55 จะเปลี่ยนมือหรือไม่ ! นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าติดตาม ว่า 2 ค่ายจัดสรรมหาชนอย่าง "PS-พฤกษา เรียลเอเสตท" ของ "ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" จะรักษาแชมป์ไว้ได้อีกปี หรือจะเป็นค่าย "SIRI-แสนสิริ" ที่มี "เศรษฐา ทวีสิน" กุมบังเหียนทิศทางพัฒนาโครงการจะเฉือนแชมป์ได้เป็นครั้งแรก

เทียบฟอร์มปี"55-56

หลัง จาก "พฤกษาฯ" ที่สร้างยอดรับรู้รายได้ปี 2552-2553 เติบโตพรวด 19%, 41% และ 22% ต้องมาบาดเจ็บจากน้ำท่วมใหญ่ปลายปี"54 บ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างเปิดขายหลายโครงการต้องจมบาดาล ทำให้แผนเติบโตแบบก้าวกระโดดมีอันต้องสะดุดลง และมีผลต่อเนื่องถึงปี"55 ทำให้พฤกษาฯเบาคันเร่งการลงทุนอย่างเห็นได้ชัด โดยเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 30 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 22,191 ล้านบาท

ขณะที่ "แสนสิริ" ซึ่งมีโครงการที่ถูกน้ำท่วมน้อยกว่า ใช้จังหวะนี้เร่งสปีดการลงทุนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยปี"55 เปิดโครงการใหม่มากถึง 52 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 57,000 ล้านบาท เพิ่มจากแผนเดิมที่เคยประกาศไว้ตอนแรก 44 โครงการ ถือว่ามากที่สุดในอุตสาหกรรม

โดยปีที่ผ่านมามี "ดีคอนโด" และ "เดอะเบส" แบรนด์คอนโดฯระดับราคา 1-3 ล้านบาท รวมถึงแบรนด์เฉพาะกิจที่เปิดตามเมืองท่องเที่ยวอย่างหัวหิน ชะอำ และเขาใหญ่ เป็นพระเอก

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบฟอร์ม...แชมป์ชนแชมป์ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกปี"55 ถือว่ายอดรับรู้รายได้ "แสนสิริ" ยังเป็นรอง "พฤกษาฯ" โดยมียอดรับรู้รายได้ 9 เดือน 16,013 ล้านบาท ขณะที่พฤกษาฯทำได้ 18,777 ล้านบาท

จากในวันแถลงแผนธุรกิจประจำปี"56 "ประชาชาติธุรกิจ" สอบถามผู้บริหารทั้ง 2 บริษัท ด้วยคำถามเดียวกันถึงแนวโน้มยอดรับรู้รายได้ปีที่ผ่านมา แม้ไม่ได้รับคำตอบเป็นตัวเลขตรง ๆ เนื่องจากยังไม่ได้แจ้งผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ต่างฝ่ายต่างก็แย้มไต๋ว่า...ยอดรับรู้รายได้ปี"55 น่าจะทะลุเป้า ! โดยที่พฤกษาฯตั้งเป้าไว้ 26,000 ล้านบาท ขณะที่แสนสิริตั้งเป้าที่ 28,000 ล้านบาท

PS-แสนสิริ สร้างดาวคนละดวง

ขณะที่เป้าหมาย ในปี"56 ต้องเรียกว่า...หายใจรดต้นคอกันแบบก้ำกึ่ง โดยพฤกษาฯตั้งประมาณการยอดรับรู้รายได้ที่ 34,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท เติบโต 21% และจะเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 78 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 55,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการเปิดตัว "ทาวน์เฮาส์"ถึง 60% หรือ 47 โครงการ ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่พฤกษาฯเป็นเจ้าตลาดอยู่ โดยอาศัยจุดแข็งที่มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปหรือระบบพรีแฟบของตัวเอง สามารถสร้างไว...เสร็จเร็ว ต้นทุนต่ำ

ส่วนฝั่งแสนสิริปี"56 เดินเกมบุกคนละรูปแบบ โดยตั้งประมาณยอดรับรู้รายได้ที่ 34,000-36,000 ล้านบาท เป้ายอดขาย 48,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 12% และจะเปิดตัวโครงการใหม่ 45 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 61,000 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ "คอนโดฯ" คือตัวบุกของแสนสิริ เพราะมีสัดส่วนถึง 57% หรือ 24 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 35,323 ล้านบาท ให้ข้อมูลแบบขยักทิ้งท้ายด้วยว่า มีโอกาสจะเปิดตัวมากกว่าแผนที่วางไว้ หากว่าจัดซื้อที่ดินได้เหมาะ ๆ

เปิดหนี้สินต่อทุน-มาร์จิ้น

อย่าง ไรก็ตาม สิ่งที่อาจจะเป็นความเสี่ยงของแสนสิริในปีนี้ คือ...อัตราหนี้สินต่อทุน แม้ว่าอัตราหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นปี"55 อยู่ที่ 1.5 เท่า แต่ก็ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 1-1 เท่าเศษ ประกอบกับคอนโดฯที่ทยอยเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะยังไม่สามารถรับรู้รายได้ภายในปี"56 รวมถึงมีคอนโดฯใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวเพิ่มตั้งแต่ต้นปี"56 เข้ามาอีก จึงอาจทำให้หนี้สินต่อทุนของแสนสิริปรับสูงขึ้น

ส่วนพฤกษาฯหลังจาก ชะลอการบุกในปีที่ผ่านมา ทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนปรับลดลงจากเดิมประมาณกว่า 1 เท่า เหลือ 0.8 เท่า ถือว่ายังมีช่องว่างให้ก่อหนี้เพิ่มเพื่อขยายการลงทุนได้อีก

ขณะที่ อัตราเน็ตมาร์จิ้นของแสนสิริยังมีคำถามว่าจะสามารถทำได้ดีขึ้นหรือไม่ โดย 3 ไตรมาสแรกอยู่ที่ 7.5% เป็นรองพฤกษาฯที่มีอัตราเน็ตมาร์จิ้นที่ 14% เศษ เปิดศึกทาวน์เฮาส์ 1.5 ล้าน

นอกจากการให้น้ำหนักพัฒนาโครงการในกลุ่ม ทาวน์เฮาส์และคอนโดฯที่แต่ละฝ่ายชำนาญ ปีนี้ "แสนสิริ" ยืนยันว่ามีความพร้อมจะแตกเซ็กเมนต์ลงมาทำตลาด

"ทาวน์เฮาส์" ระดับราคา 1.5 ล้านบาท เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดจาก "พฤกษาฯ" ที่ครองแชมป์อยู่

"เราซื้อที่ดินแล้ว ประกาศตัวแล้ว

เรามาแน่นอน ในเซ็กเมนต์นี้คู่แข่ง คือ The Connect ของพฤกษาฯ" คำประกาศจาก "เสี่ยนิด-เศรษฐา" เอ็มดีใหญ่แสนสิริ

ขณะ ที่เจ้าตลาดอย่างพฤกษาฯก็มีความพร้อมที่จะสู้กับคู่แข่ง โดยเชื่อว่าการที่แสนสิริจะลงมารุกตลาดทาวน์เฮาส์ยูนิตละ 1.5 ล้านนั้นไม่ง่าย !

"พฤกษาฯก่อสร้างบ้านด้วยระบบพรีแฟบมานาน เรารู้ว่าการขยายตลาดลงมาจะต้องเบ่งกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ง่ายในภาวะที่แรงงานมีปัญหาขาดแคลน" คำกล่าวจากประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองเอ็มดีค่ายพฤกษาฯ

งานนี้เป็นคู่แชมป์ชนแชมป์ที่เลือกบุกกันคนละตลาด แต่สำหรับ "ทาวน์เฮาส์"

1.5 ล้านบาท ทั้ง 2 รายถือว่าไม่มีใครยอมใคร

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่