ในกาลนานมาแล้ว มีกบฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเลสาบอย่างมี อิสระเสรีทุกประการทุกตัว กบตัวใดนึกจะทำอะไรก็ทำได้ตาม ใจชอบ แต่ในที่สุดพวกกบทุกตัวก็เกิดความไม่พอใจ
มันรู้สึกเบื่อหน่ายในความประพฤติ ตามใจชอบของพวกมันขึ้นมา
จึงมาประชุมกันที่สระแห่งหนึ่ง ปรึกษาเห็นชอบให้ร้องขอผู้ที่จะมาเป็นนายหรือพระราชาสักองค์จาก เทพเจ้า(Jupiter..ดาวพฤหัสบดี) เพื่อที่จะให้มาเป็นผู้นำให้กับพวกมัน เทพเจ้าทนฟังคำพูดอ้อนวอนอย่างโง่ๆของพวกกบทั้งหลายไม่ได้ จึงโยน ท่อนซุงลงมา
และประกาศว่า " นี่คือพระราชาของพวกเจ้า " ท่อนซุงดังกล่าวตกลงมากระทบน้ำในสระตูมใหญ่ จน น้ำกระฉอกไปทั้งสระ พวกกบตกใจกลัว รีบดำลงไปที่ก้นสระ บ้างก็มุดเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ใต้โคลน ครั้นสงบเงียบดีแล้วไม่นานก็ได้ มีกบตัวหนึ่งผงกหัวขึ้นดูอย่างกล้าหาญ
เพื่อมองหาพระราชาของมัน มันค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ครั้นเห็นว่า ท่อนซุงลอยอยู่เฉยๆ ไม่มีอันตรายอย่างใด มันก็ตระหนักว่านี่คือพราะราชาที่เทพเจ้า ประทานแก่พวกมันอย่างแน่นอน มันแสดงความเคารพยำเกรง แต่เมื่อ มันเข้าไปใกล้ จนขึ้นไปเกาะที่บนท่อนซุง ก็เห็นท่อนซุงยังลอย เฉยอยู่ มันก็ชักจะหมดความยำเกรง ในที่สุดถึงกระโดดขึ้นไป วิ่งเล่นบนท่อนซุงตามสบายใจ มันเห็นว่าพระราชาองค์นี้ อ่อนแอ และรู้สึกไม่พอใจ
จึงชวนกันร้องเรียนเทพเจ้าอีกครั้งขอประทาน พระราชาที่คล่องแคล่วมากกว่านี้มาให้กับพวกมันด้วย คราวนี้เทพเจ้าได้ส่งนกกระสาตัวหนึ่งลงมา พระราชาองค์ใหม่ นี้ในไม่ช้าไม่นานก็ฉวยโอกาสจิกกบกินอย่างตะกละ วันละตัวทุกวัน พวกกบไม่รู้จะหนีไปที่ไหน และต้องการที่จะ ทำลายร้างหรือกำจัดพระราชาองค์ใหม่องค์นี้ไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวกมันจะตายกันไปจนหมดนั่นเอง
ในที่สุดพวกมันก็ส่งข่าวสารไปให้ เทพเจ้าอีกครั้ง ทูลวิงวอนขอให้ทรงเมตตาพวกมันด้วย แต่คราวนี้เทพเจ้าได้ ตรัสอย่างเป็นธรรมว่าที่พวกกบได้รับโทษอยู่อย่างนี้ ก็สมกับความ โง่เขลาของพวกมันแล้ว ถ้ามีในคราวหน้าหรือคราวต่อไปสมควรที่พวกมัน จะต้องเรียนรู้ และหัดมีความพอใจในความพอเพียงของตัวเองได้แล้ว
นิทานอีสปเรื่องกบเลือกนาย ลองใช้สมองประลองปัญญา ท่านคิดเห็นว่าเหมือนหรือต่างจากสถานการณ์ปัจจุบัน
มันรู้สึกเบื่อหน่ายในความประพฤติ ตามใจชอบของพวกมันขึ้นมา
จึงมาประชุมกันที่สระแห่งหนึ่ง ปรึกษาเห็นชอบให้ร้องขอผู้ที่จะมาเป็นนายหรือพระราชาสักองค์จาก เทพเจ้า(Jupiter..ดาวพฤหัสบดี) เพื่อที่จะให้มาเป็นผู้นำให้กับพวกมัน เทพเจ้าทนฟังคำพูดอ้อนวอนอย่างโง่ๆของพวกกบทั้งหลายไม่ได้ จึงโยน ท่อนซุงลงมา
และประกาศว่า " นี่คือพระราชาของพวกเจ้า " ท่อนซุงดังกล่าวตกลงมากระทบน้ำในสระตูมใหญ่ จน น้ำกระฉอกไปทั้งสระ พวกกบตกใจกลัว รีบดำลงไปที่ก้นสระ บ้างก็มุดเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ใต้โคลน ครั้นสงบเงียบดีแล้วไม่นานก็ได้ มีกบตัวหนึ่งผงกหัวขึ้นดูอย่างกล้าหาญ
เพื่อมองหาพระราชาของมัน มันค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ครั้นเห็นว่า ท่อนซุงลอยอยู่เฉยๆ ไม่มีอันตรายอย่างใด มันก็ตระหนักว่านี่คือพราะราชาที่เทพเจ้า ประทานแก่พวกมันอย่างแน่นอน มันแสดงความเคารพยำเกรง แต่เมื่อ มันเข้าไปใกล้ จนขึ้นไปเกาะที่บนท่อนซุง ก็เห็นท่อนซุงยังลอย เฉยอยู่ มันก็ชักจะหมดความยำเกรง ในที่สุดถึงกระโดดขึ้นไป วิ่งเล่นบนท่อนซุงตามสบายใจ มันเห็นว่าพระราชาองค์นี้ อ่อนแอ และรู้สึกไม่พอใจ
จึงชวนกันร้องเรียนเทพเจ้าอีกครั้งขอประทาน พระราชาที่คล่องแคล่วมากกว่านี้มาให้กับพวกมันด้วย คราวนี้เทพเจ้าได้ส่งนกกระสาตัวหนึ่งลงมา พระราชาองค์ใหม่ นี้ในไม่ช้าไม่นานก็ฉวยโอกาสจิกกบกินอย่างตะกละ วันละตัวทุกวัน พวกกบไม่รู้จะหนีไปที่ไหน และต้องการที่จะ ทำลายร้างหรือกำจัดพระราชาองค์ใหม่องค์นี้ไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวกมันจะตายกันไปจนหมดนั่นเอง
ในที่สุดพวกมันก็ส่งข่าวสารไปให้ เทพเจ้าอีกครั้ง ทูลวิงวอนขอให้ทรงเมตตาพวกมันด้วย แต่คราวนี้เทพเจ้าได้ ตรัสอย่างเป็นธรรมว่าที่พวกกบได้รับโทษอยู่อย่างนี้ ก็สมกับความ โง่เขลาของพวกมันแล้ว ถ้ามีในคราวหน้าหรือคราวต่อไปสมควรที่พวกมัน จะต้องเรียนรู้ และหัดมีความพอใจในความพอเพียงของตัวเองได้แล้ว