วิธีทำน้ำงาดำของเรานะคะ เราทำตามแบบน้ำเต้าหู้ค่ะ ถ้าใครมีวิธีอื่นก็แนะนำได้นะคะ
ลองทำน้อยๆกันก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าทำได้คล่องแล้วค่อยทำเยอะๆ แต่เราทำแต่ละครั้งหม้อใหญ่มากๆ เอาไว้กินประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วเราก็ทำเผื่อเรากินเองด้วย มันช่วยให้ผมดำมากๆๆๆๆ เพราะสีผมโดยปกติของเราออกน้ำตาลอ่อน ตั้งแต่เราแย่งลูกกินมาได้ 3 เดือน เพื่อนทักเราว่าเราไปย้อมผมดำมารึเปล่าเพราะมันดำมากๆค่ะ แล้วผมเราร่วงน้อยลง คิ้วก็เข้มขึ้นเยอะ เป็นกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ... นอกเรื่องไปไกลแล้ว มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ
1. ซื้องาดำดิบมาสักครึ่งโล (ขั้นลองทำ) ล้างน้ำให้สะอาด เอาเศษฝุ่น เศษทรายออก อาจจะหลายน้ำหน่อย เสร็จแล้วก็วางพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. เอางาดำมาคั่วๆๆ ให้หอมค่ะ (แต่เราไม่ค่อยได้ทำ ถ้าใครขี้เกียจข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ค่ะ เพราะกว่าจะทำเสร็จทุกอย่าง ใช้เวลานานมากๆค่ะ)
3. งาดำที่คั่วเสร็จแล้วจัดการปั่นค่ะ งาดำ 3 ทัพพี + น้ำเปล่าครึ่งนึงของเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดๆๆเลยค่ะ ทำไปเรื่อยๆจนงาดำหมด หรือไม่ก็เครื่องพักกันไปข้างนึง
4. เสร็จแล้วเอางาดำมากรองแยกน้ำแยกกากค่ะ กรองด้วยผ้าขาวบาง (แต่เราเอาผ้าออมลูกผืนใหม่มาทำค่ะ เสียสละ 1 ผืน ใช้ได้นานค่ะ)
5. เอากากงาดำที่ปั่นรอบแรก มาปั่นรอบ 2 ค่ะปั่นจนกากงาดำหมดรอบที่ 2 ก็พอแล้ว เราทำแค่ 2 รอบพอ จะได้เข้มข้นนิดนึง แต่ถ้าทำแค่รอบเดียวมันจะเข้มเกิน รสชาดจะออกเฝื่อนๆขมๆ
6. ตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนก้นหม้อบ่อยๆ เพราะตะกอนจะตกก้อนหม้อทำให้เหม็นไหม้ได้เวลาน้ำงาเดือด
7. ถึงเวลาเดือดแล้วๆๆ งาดำจะจับตัวเป็นก้อนๆลอยขึ้นผิว (ลักษณะคล้ายๆเต้าฮวยเละๆค่ะ) ไม่ต้องต๊กกะใจนะคะ ต้มไปเรื่อยๆ ให้เดือดไปเรื่อยๆ ตัวก้อนที่คล้ายๆเต้าฮวยมันก็จะลอยขึ้นมาเต็มหม้อไปหมด ลองเอาทัพพีแหวกดูว่าน้ำงาดำข้างล่างมันออกสีดำใสๆ แยกกับตะกอนชัดเจนรึยัง ถ้ามันแยกอย่างเห็นได้ชัด ก็เป็นอันเสร็จ ปิดไฟได้เลยค่ะ
8. เราก็จัดการตักเจ้าก้อนงาดำที่ลอยนั้นขึ้นมาใส่กระชอนค่ะ แล้วเอาทัพพีบี้ๆๆๆ กวนๆๆๆ ให้เนื้อมันแตกตัวผ่านกระชอน แล้วเทกลับลงในหม้อน้ำงาดำค่ะ เสร็จแล้วก็กวนน้ำงาดำอีกทีให้เนื้อกับน้ำมันเข้ากัน ก็เรียบร้อยค่ะ
9. พักไว้ให้เย็น แบ่งใส่ถุงเก็บน้ำนม(ส่วนของลูก) แบ่งใส่ถุงเย็น(ส่วนของแม่) แช่ช่องฟรีซโล้ด
10. เวลาเอาออกมาทาน ก็เวฟๆไปเลยค่ะ เวลาเวฟเอาแค่พออุ่นๆนะคะ ไม่ต้องร้อนจัดไม่งั้นมันจะเป็นตะกอนๆสากลิ้นลูกค่ะ ส่วนของแม่จะทำยังไงก็ตามสบายค่ะ
น้ำงาดำของลูก เราเอาผสมกับกล้วยครูดหวานนิดๆ(ถ้าไม่ผสมกับกล้วยรสชาดจะออกเฝื่อนๆลูกไม่กินค่ะ) + ข้าวกล้อง + ปลาทู + ผักรวมอะไรก็ว่ากันไปรสชาดจะออก หวาน หอม มัน ลูกช๊อบชอบค่ะ (เราทำให้ลูกกินตั้งแต่ 6 เดือนค่ะ โชคดีที่ลูกเราชนะอาหารทุกชนิดไม่เคยแพ้อะไรสักอย่างเดียวค่ะ เลยจัดไป)
ส่วนของแม่ก็ตามสะดวกค่ะ แต่เราผสมน้ำผึ้งค่ะ ขอเตือนนิดนึงนะคะ ถ้าคุณแม่กินทุกวันแม้จะไดเอทกันแค่ไหน น้ำหนักก็ไม่ลงนะคะ มันเป็นปัญหาของเราอยู่ ณ ขณะนี้ค่ะ แต่เพื่อสุขภาพและคุณประโยชน์เราจำใจยอมค่ะ
ระยะเวลาในการทำก็ครึ่งวันกว่าๆเลยค่ะ ไหนจะทำ ไหนจะล้าง ไหนจะเก็บของ ทำจนลืมลูกกันเลยทีเดียว นี่คือสาเหตุที่เราต้องทำเยอะมากๆๆๆๆ พอเสร็จแล้วมันเหนื่อยมากๆค่ะ เราเคยทำจนไข้ขึ้นเลย แต่เพื่อลูก...สู้ๆ คร๊าาา
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคุณแม่ทุกๆคนนะค่ะ ขอให้คุณลูกๆของคุณแม่ทุกท่านน้ำหนักดีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนจ้า
ประโยชน์ของงาดำค่ะ
http://www.momyweb.com/forums/index.php?topic=863.0
มาแชร์วิธีทำน้ำงาดำ เพิ่มน้ำหนักเจ้าตัวน้อยกันค่ะ
ลองทำน้อยๆกันก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าทำได้คล่องแล้วค่อยทำเยอะๆ แต่เราทำแต่ละครั้งหม้อใหญ่มากๆ เอาไว้กินประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วเราก็ทำเผื่อเรากินเองด้วย มันช่วยให้ผมดำมากๆๆๆๆ เพราะสีผมโดยปกติของเราออกน้ำตาลอ่อน ตั้งแต่เราแย่งลูกกินมาได้ 3 เดือน เพื่อนทักเราว่าเราไปย้อมผมดำมารึเปล่าเพราะมันดำมากๆค่ะ แล้วผมเราร่วงน้อยลง คิ้วก็เข้มขึ้นเยอะ เป็นกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ... นอกเรื่องไปไกลแล้ว มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ
1. ซื้องาดำดิบมาสักครึ่งโล (ขั้นลองทำ) ล้างน้ำให้สะอาด เอาเศษฝุ่น เศษทรายออก อาจจะหลายน้ำหน่อย เสร็จแล้วก็วางพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. เอางาดำมาคั่วๆๆ ให้หอมค่ะ (แต่เราไม่ค่อยได้ทำ ถ้าใครขี้เกียจข้ามขั้นตอนนี้ไปได้ค่ะ เพราะกว่าจะทำเสร็จทุกอย่าง ใช้เวลานานมากๆค่ะ)
3. งาดำที่คั่วเสร็จแล้วจัดการปั่นค่ะ งาดำ 3 ทัพพี + น้ำเปล่าครึ่งนึงของเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียดๆๆเลยค่ะ ทำไปเรื่อยๆจนงาดำหมด หรือไม่ก็เครื่องพักกันไปข้างนึง
4. เสร็จแล้วเอางาดำมากรองแยกน้ำแยกกากค่ะ กรองด้วยผ้าขาวบาง (แต่เราเอาผ้าออมลูกผืนใหม่มาทำค่ะ เสียสละ 1 ผืน ใช้ได้นานค่ะ)
5. เอากากงาดำที่ปั่นรอบแรก มาปั่นรอบ 2 ค่ะปั่นจนกากงาดำหมดรอบที่ 2 ก็พอแล้ว เราทำแค่ 2 รอบพอ จะได้เข้มข้นนิดนึง แต่ถ้าทำแค่รอบเดียวมันจะเข้มเกิน รสชาดจะออกเฝื่อนๆขมๆ
6. ตั้งไฟปานกลาง หมั่นคนก้นหม้อบ่อยๆ เพราะตะกอนจะตกก้อนหม้อทำให้เหม็นไหม้ได้เวลาน้ำงาเดือด
7. ถึงเวลาเดือดแล้วๆๆ งาดำจะจับตัวเป็นก้อนๆลอยขึ้นผิว (ลักษณะคล้ายๆเต้าฮวยเละๆค่ะ) ไม่ต้องต๊กกะใจนะคะ ต้มไปเรื่อยๆ ให้เดือดไปเรื่อยๆ ตัวก้อนที่คล้ายๆเต้าฮวยมันก็จะลอยขึ้นมาเต็มหม้อไปหมด ลองเอาทัพพีแหวกดูว่าน้ำงาดำข้างล่างมันออกสีดำใสๆ แยกกับตะกอนชัดเจนรึยัง ถ้ามันแยกอย่างเห็นได้ชัด ก็เป็นอันเสร็จ ปิดไฟได้เลยค่ะ
8. เราก็จัดการตักเจ้าก้อนงาดำที่ลอยนั้นขึ้นมาใส่กระชอนค่ะ แล้วเอาทัพพีบี้ๆๆๆ กวนๆๆๆ ให้เนื้อมันแตกตัวผ่านกระชอน แล้วเทกลับลงในหม้อน้ำงาดำค่ะ เสร็จแล้วก็กวนน้ำงาดำอีกทีให้เนื้อกับน้ำมันเข้ากัน ก็เรียบร้อยค่ะ
9. พักไว้ให้เย็น แบ่งใส่ถุงเก็บน้ำนม(ส่วนของลูก) แบ่งใส่ถุงเย็น(ส่วนของแม่) แช่ช่องฟรีซโล้ด
10. เวลาเอาออกมาทาน ก็เวฟๆไปเลยค่ะ เวลาเวฟเอาแค่พออุ่นๆนะคะ ไม่ต้องร้อนจัดไม่งั้นมันจะเป็นตะกอนๆสากลิ้นลูกค่ะ ส่วนของแม่จะทำยังไงก็ตามสบายค่ะ
น้ำงาดำของลูก เราเอาผสมกับกล้วยครูดหวานนิดๆ(ถ้าไม่ผสมกับกล้วยรสชาดจะออกเฝื่อนๆลูกไม่กินค่ะ) + ข้าวกล้อง + ปลาทู + ผักรวมอะไรก็ว่ากันไปรสชาดจะออก หวาน หอม มัน ลูกช๊อบชอบค่ะ (เราทำให้ลูกกินตั้งแต่ 6 เดือนค่ะ โชคดีที่ลูกเราชนะอาหารทุกชนิดไม่เคยแพ้อะไรสักอย่างเดียวค่ะ เลยจัดไป)
ส่วนของแม่ก็ตามสะดวกค่ะ แต่เราผสมน้ำผึ้งค่ะ ขอเตือนนิดนึงนะคะ ถ้าคุณแม่กินทุกวันแม้จะไดเอทกันแค่ไหน น้ำหนักก็ไม่ลงนะคะ มันเป็นปัญหาของเราอยู่ ณ ขณะนี้ค่ะ แต่เพื่อสุขภาพและคุณประโยชน์เราจำใจยอมค่ะ
ระยะเวลาในการทำก็ครึ่งวันกว่าๆเลยค่ะ ไหนจะทำ ไหนจะล้าง ไหนจะเก็บของ ทำจนลืมลูกกันเลยทีเดียว นี่คือสาเหตุที่เราต้องทำเยอะมากๆๆๆๆ พอเสร็จแล้วมันเหนื่อยมากๆค่ะ เราเคยทำจนไข้ขึ้นเลย แต่เพื่อลูก...สู้ๆ คร๊าาา
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคุณแม่ทุกๆคนนะค่ะ ขอให้คุณลูกๆของคุณแม่ทุกท่านน้ำหนักดีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนจ้า
ประโยชน์ของงาดำค่ะ
http://www.momyweb.com/forums/index.php?topic=863.0