ระหว่าง bus terminal กับ air terminal มี shuttle bus ฟรีคอยบริการ
และที่สำคัญมีหนังสือฟรี 1 เล่มบริการ หยิบมาอ่านแล้วรู้สึกว่าเป็น 10 นาทีที่มีค่าสุดสุดของชีวิตเป็นหนังสือของท่าน ว.วชิรเมธี (ปกติจะไม่ค่อยชอบอ่านงานของท่าน แต่มีพี่ที่เคารพเท่านึงเค้าแนะนำไว้) ท่านสอนเรื่องสำคัญเรื่องนึงว่า

คนไทยมีเมตตารักใคร่กันดี
เห็นใครเดือดร้อนก็พร้อมช่วยเหลือ ใครยังไม่ได้กินอะไรก็แบ่งปัน ใครเดือดร้อนก็ยินดีเข้าไปช่วยเหลือเต็มที่อันนี้ก็เรียกว่ากรุณา
แล้วก็มีหลายคนที่มีอุเบกขา ใจเป็นกลางเวลาช่วยสุดกำลังแล้วแต่ไม่ได้ดีขึ้น  

แล้วอะไรขาดไปอย่างนึง ??
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

หลวงพ่อบอกว่าส่วนมากเราจะขาดมุทิตากัน(ผมก็เป็น) เวลาเห็นใครทำอะไรดีแล้วไม่ได้ยินดีไปกับเค้าด้วย จ้องจะแข่ง จ้องจะเอาชนะ น้อยเนื้อต่ำใจ หาว่าเค้าคุยโวโอ้อวด หรือบางทีเราก็คุยทับในเรื่องที่เราเก่งกว่า ง่ายๆก็คือริษยากัน

ทุกวันนี้มันจะอยู่ยากขึ้นเพราะทุกข์ขึ้น ไม่ว่าจะงานเลี้ยงรุ่น (มันต้องมีสักคนที่รายได้มันเยอะและมันอยากป่าวประกาศให้โลกรู้) เจอญาติวันสำคัญเช่นเชงเม้ง สงกรานต์ ปีใหม่ (มันต้องมีสักคนที่ได้ดีแล้วผู้ใหญ่อวยกัน และที่สำคัญผู้ใหญ่จะต้องบอกให้เรา ดูไว้นะ เห็นมั้ย)

เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่ทำไม่ได้เท่าจะคิดริษยาแต่ เราก้จะอมทุกข์อีกตัวเพิ่มขึ้น

หลวงพ่อท่านมีวิธีแก้โดยให้เรา เข้าใจว่าชีวิตเรามีเรื่องทุกข์เยอะอยู่แ้ล้ว หิวก็ทุกข์ ,ร้อนก็ทุกข์, อยากแล้วไม่ได้ก็ทุกข์,คิดถึงใครบางคนแต่ไม่ได้อยู่ด้วยก็ทุกข์, ทำงานแล้วเงินเดือนไม่ขึ้นสักทีก็ทุกข์, ไม่สบายก็ทุกข์,งานเยอะก็ทุกข์ ไม่มีอะไรทำก็ทุกข์ ฯลฯ


แล้วเราจะเอาทุกข์เข้าไปเพิ่มอีกตัวทำไม