มาถึงวันนี้ก็เป็นอันแน่นอนแล้วว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าน้อมยอมรับศาลโลกและคำตัดสินของศาลโลก ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่า การตัดสินของศาลโลกนั้น ประเทศไทยมีแต่เจ๊งกับเจ๊า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเปิดประเด็นเรื่องนี้ในช่วงต้นปีใหม่คงจะรู้แน่แก่ใจดีกว่าใคร และอาจรู้ดีด้วยว่า ใครคือผู้บงการหรือจัดการในการยกแผ่นดินไทยให้กับเขมร

ล่าสุดนี้รองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็ได้เปิดเผยถึงการเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนลู่ทางในการต่อสู้คดี

ในขณะที่ภาคประชาชนยืนยันขันแข็งว่า ไม่ยอมรับศาลโลก ไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆ ของศาลโลก ในขณะที่ทางเขมรก็ออกคำสั่งบงการมายังรัฐบาลไทยให้จัดการกับพวกที่คัดค้านศาลโลกและไม่ยอมรับศาลโลก

เขมรลำพองถึงปานนี้ อาจเป็นเพราะสำคัญว่า บัดนี้เขมรเป็นเจ้าประเทศราช และมีข้าทาสบริวารเป็นใหญ่อยู่ในประเทศไทยของเรา จึงบังอาจสั่งการอย่างกำเริบเสิบสานถึงปานนี้

มีแต่ประชาชนมือเปล่าเท่านั้น ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจบาตรใหญ่ของเขมรและยังคงเดินหน้าท้าทายเพื่อพิทักษ์รักษาแผ่นดินที่บรรพบุรุษสร้างสรรค์ไว้ให้อย่างเด็ดเดี่ยว ส่วนคนมีอำนาจหน้าที่โดยตรง กลับไม่กล้าตอแยหรือแม้แต่จะเอ่ยถึงในการบงการครั้งนี้ของเขมร

นี่คือความอัปยศอดสูของชนชาติไทย ที่ยอมให้เขมรข่มเหงรังแกถึงปานนี้ และในขณะนี้ทั่วทั้งแผ่นดินเขมรก็กล่าวขวัญกันอย่างคึกคักว่า อีกไม่ช้าไม่นานนัก นักการเมืองไทยก็จะเอาแผ่นดินไทยและสตรีไทยไปบรรณาการให้กับเขมรแล้ว

เพื่อที่จะดำเนินการตามที่ตระเตรียมกันไว้ หลังศาลโลกตัดสินยกแผ่นดินไทยให้เขมร ฝ่ายเขมรจะไม่รอช้าในการบังคับคดี และจะไม่อาศัยน้ำมือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่จะใช้อำนาจและแสนยานุภาพของตนเองเข้ามายึดครองแผ่นดินไทยไปดื้อๆ

นั่นคือ การค่อยๆ ระดมกำลังสารพัดชนิด สารพัดเหล่า และหลากหลายรูปแบบ เข้ามาประชิดชายแดนไทย และรุกล้ำเข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานในแผ่นดินไทย

ดูไปแล้วใน พ.ศ. 2556 นี้ ประเทศไทยมีโอกาสสูงมากที่จะเสียดินแดนครั้งที่ 15 ให้เขมร อันเป็นผลมาจากการสมรู้ร่วมคิดกันของนักการเมืองทุกพรรค และผู้มีอำนาจหลายหมู่หลายเหล่า เพื่อเอาประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทยไปแบ่งปันกัน

คนไทยทั้งประเทศจึงต้องเตรียมจิตเตรียมใจและเตรียมตัวกันให้พรั่งพร้อมว่า จะทำกันอย่างไรเมื่อศาลโลกมีคำตัดสินในทำนองมีแต่เจ๊งกับเจ๊า และควรจะได้คำนึงด้วยว่าประวัติศาสตร์จะบันทึกการเสียดินแดนครั้งนี้อันเป็นครั้งที่ 15 อย่างไร

เราจะต้องคิดอ่านกันให้ถึงขั้นประวัติศาสตร์ที่จะบันทึกเรื่องราวเหล่านี้ มิฉะนั้นก็จะถูกพวกขายชาติแต่งหน้าทาปากให้กับพวกตนเอง จนกลายเป็นว่าการขายชาติยกแผ่นดินให้เขมรเป็นความชอบธรรม เป็นความถูกต้อง และจะต้องทำให้ประวัติศาสตร์จารึกไว้ตามความเป็นจริงว่า

ประการแรก นักการเมืองไทยทุกพรรคไม่ว่าพรรคไหนจะเปลี่ยนขึ้นมาเป็นรัฐบาลล้วนขายชาติ ขายแผ่นดิน สมคบกันยกแผ่นดินไทยให้กับเขมร เพื่อแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ส่วนตนจากพลังงานที่ปล้นไปจากประเทศไทย

ประการที่สอง การปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชาที่เสร็จสิ้นเรียบร้อยไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้ถูกเลิกล้มไปโดย MOU 2543 ที่กระทำขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี และ MOU ฉบับนี้เป็น MOU เถื่อน ที่ยอมรับให้ใช้แผนที่ 1:200,000 ที่จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เสียดินแดนตลอดแนวชายแดน 7 จังหวัด ราว 1.8 ล้านไร่เสียดินแดนในอ่าวไทยประมาณ 17 ล้านไร่

ประการที่สาม รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้นำประเทศไทยเข้าสู่อำนาจศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีเมื่อ 50 ปีก่อนโน้นโดยไม่ได้ขออนุมัติจากรัฐสภา และโดยหลอกลวงคนไทยว่าไม่ได้เป็นคดีเรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเดิมที่เป็นเพียงการขออธิบายคำพิพากษาปี 2505 เท่านั้น

ประการที่สี่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินประมาณ 8 ล้านบาท จ้างนักวิชาการให้เขียนเอกสารหลักฐานหนังสือว่าดินแดนไทยเป็นดินแดนเขมรตามแผนที่ 1:200,000

ประการที่ห้า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รู้ดีอยู่แล้วว่าการต่อสู้คดีมีแต่เจ๊งกับเจ๊า แต่มิได้แก้ไขใดๆ และชักชวนคนไทยให้ยอมรับศาลโลกและคำตัดสินของศาลโลก จนต้องเสียดินแดนครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 15

ประการที่หก การเสียดินแดนครั้งที่ 15 เกิดขึ้นในขณะที่พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และมีใครต่อใครเป็นผู้บัญชาการกองทัพไทยและผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ รวมทั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย

ต้องทำให้ประวัติศาสตร์การเสียดินแดนครั้งที่ 15 จารึกบอกลูกสอนหลานและคนไทยในอนาคตกาลตามความเป็นจริงอย่างนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่าโคตรตระกูลไหนทำให้ไทยเสียดินแดนครั้งที่ 15!

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/4901

ปล.อย่าลืมช่วยกันจดจำด้วยนะครับ....เอิ๊ก ๆ ๆ