ไหวลึกลึกหนักหนาวเกินก้าวไหว
ถึงคนไกลไกลตาจักมาถึง
ตรึงอาลัยนัยนึกห้วงลึกตรึง
จำด่าวดึงผูกพันพ้นวันจำ
คิดถึงมากบอกใจอย่าไปคิด
คร่ำรินพิษติดตามเมื่อยามคร่ำ
นำหนาวสั่นสู่กายระบายนำ
เวียนทักทำคิดถึงซ่านซึ้งเวียน
ถามฟากฟ้าลมลอยคิดคล้อยถาม
เปลี่ยนภาคตามกระซิบเยื้องคอยเปลื้องเปลี่ยน
เพียรย้ายใจห่างไกลกระไดเพียร
ใจกลับเจียนจ่อมจมลื่นล้มใจ
ข้างพรายฟ้ายังเหลียวเปล่าเปลี่ยวข้าง
ไข้จักพร่างเงาเหงามาเฝ้าไข้
ใครผายผันคอยปลอบคำตอบใคร
รอนตัดไม่ขาดถึงซาบซึ้งรอน
ห่างไกลกันนึกพรั่นประหวั่นห่าง
อ่อนไหวบ้างยามจมในลมอ่อน
นอนนึกหนาวคิดไปเคลิ้มใคร่นอน
คราวจากจรอาลัยนึกนัยคราว
เพ้อสัมผัสกรุ่นกลิ่นเผลอผินเพ้อ
หาวใจเจอหาเขายอมเฝ้าหาว
ดาวพริ้งไหวคอยล้อใคร่ง้อดาว
คอยบอกกล่าวเหงาวิเวกเสริมเสกคอย
จิตพิศวงคลอใกล้หลงใหลจิต
ปล่อยความคิดผ่านกาลวายปราณปล่อย
รอยคิดถึงทอทาบเกิดภาพรอย
เคียงเคลิ้มคล้อยกระซิบเอื้อให้เกื้อเคียง
หมื่นวันใจร่ำหาเหงาหล้าหมื่น
เสียงคล้ายกลืนสะท้อนกลับยากลับเสียง
เรียงรอนรอเศร้านักประจักษ์เรียง
เกินใจเบี่ยงสุดฝืนขมขื่นเกิน
ร่ำพิไรบอกฟ้ายากลาร่ำ
เหินห่างคำลาก่อนยอกตอนเหิน
เดินโดดเดี่ยวด่าวลึกตรองตรึกเดิน
กรายพบเพลินแค่คิดอยากชิดกราย
ฝ่าฝืนฝันใจหวังเวียนยังฝ่า
ฝ่ายนำพาไม่เลือนแม้เบือนฝ่าย
คลายแล้วหนาใจยังไม่รั้งคลาย
ลง
กายดิ้นด่าวหวังร้าวลง
ท่ามคิดถึงพรั่งพร้อยคิดคล้อยท่าม
หลงนัยความอ่อนหวานแม้รานหลง
ตรงกำเริบฤทธิ์มีจักพลีตรง
ปองประสงค์ผูกพันขับขวัญปอง
เหลือใจจางบ้างช่วยอำนวยเหลือ
ล่องจุนเจือให้คิดถึงสิทธิ์ล่อง
ครองขับขี่ยึดแน่นถึงแดนครอง
แรงจับจองยังมั่นไม่ดันแรง
ให้คิดถึงเป็นเพื่อนคอยเลื่อนให้
แห่งห้วงใจหุ้มเคล้าคลุมเฝ้าแห่ง
แปลงจิตเปลี่ยนกลับจับไม่ปรับแปลง
วันใจแห้งมิลดจักคดวัน
มากคิดถึงบอกตนอย่าวนมาก
ขวัญลำบากมิกลับคล้ายลับขวัญ
จันทร์คลอหาวคอยเพ้อคิดเจอจันทร์
ความนัยฝันมิแจ้งยังแบ่งความ
วิถีทางรุมรัวไปทั่ววิถี
หวามกลับทวีเจือเก็บจมเจ็บหวาม
ตามรับรบให้สบเพียงพบตาม
ทนนิยาม “ห่าง,เหงา”จับเจ่าทน
คิดถึง (กลบทจักรวาฬ)
ถึงคนไกลไกลตาจักมาถึง
ตรึงอาลัยนัยนึกห้วงลึกตรึง
จำด่าวดึงผูกพันพ้นวันจำ
คิดถึงมากบอกใจอย่าไปคิด
คร่ำรินพิษติดตามเมื่อยามคร่ำ
นำหนาวสั่นสู่กายระบายนำ
เวียนทักทำคิดถึงซ่านซึ้งเวียน
ถามฟากฟ้าลมลอยคิดคล้อยถาม
เปลี่ยนภาคตามกระซิบเยื้องคอยเปลื้องเปลี่ยน
เพียรย้ายใจห่างไกลกระไดเพียร
ใจกลับเจียนจ่อมจมลื่นล้มใจ
ข้างพรายฟ้ายังเหลียวเปล่าเปลี่ยวข้าง
ไข้จักพร่างเงาเหงามาเฝ้าไข้
ใครผายผันคอยปลอบคำตอบใคร
รอนตัดไม่ขาดถึงซาบซึ้งรอน
ห่างไกลกันนึกพรั่นประหวั่นห่าง
อ่อนไหวบ้างยามจมในลมอ่อน
นอนนึกหนาวคิดไปเคลิ้มใคร่นอน
คราวจากจรอาลัยนึกนัยคราว
เพ้อสัมผัสกรุ่นกลิ่นเผลอผินเพ้อ
หาวใจเจอหาเขายอมเฝ้าหาว
ดาวพริ้งไหวคอยล้อใคร่ง้อดาว
คอยบอกกล่าวเหงาวิเวกเสริมเสกคอย
จิตพิศวงคลอใกล้หลงใหลจิต
ปล่อยความคิดผ่านกาลวายปราณปล่อย
รอยคิดถึงทอทาบเกิดภาพรอย
เคียงเคลิ้มคล้อยกระซิบเอื้อให้เกื้อเคียง
หมื่นวันใจร่ำหาเหงาหล้าหมื่น
เสียงคล้ายกลืนสะท้อนกลับยากลับเสียง
เรียงรอนรอเศร้านักประจักษ์เรียง
เกินใจเบี่ยงสุดฝืนขมขื่นเกิน
ร่ำพิไรบอกฟ้ายากลาร่ำ
เหินห่างคำลาก่อนยอกตอนเหิน
เดินโดดเดี่ยวด่าวลึกตรองตรึกเดิน
กรายพบเพลินแค่คิดอยากชิดกราย
ฝ่าฝืนฝันใจหวังเวียนยังฝ่า
ฝ่ายนำพาไม่เลือนแม้เบือนฝ่าย
คลายแล้วหนาใจยังไม่รั้งคลาย
ลงกายดิ้นด่าวหวังร้าวลง
ท่ามคิดถึงพรั่งพร้อยคิดคล้อยท่าม
หลงนัยความอ่อนหวานแม้รานหลง
ตรงกำเริบฤทธิ์มีจักพลีตรง
ปองประสงค์ผูกพันขับขวัญปอง
เหลือใจจางบ้างช่วยอำนวยเหลือ
ล่องจุนเจือให้คิดถึงสิทธิ์ล่อง
ครองขับขี่ยึดแน่นถึงแดนครอง
แรงจับจองยังมั่นไม่ดันแรง
ให้คิดถึงเป็นเพื่อนคอยเลื่อนให้
แห่งห้วงใจหุ้มเคล้าคลุมเฝ้าแห่ง
แปลงจิตเปลี่ยนกลับจับไม่ปรับแปลง
วันใจแห้งมิลดจักคดวัน
มากคิดถึงบอกตนอย่าวนมาก
ขวัญลำบากมิกลับคล้ายลับขวัญ
จันทร์คลอหาวคอยเพ้อคิดเจอจันทร์
ความนัยฝันมิแจ้งยังแบ่งความ
วิถีทางรุมรัวไปทั่ววิถี
หวามกลับทวีเจือเก็บจมเจ็บหวาม
ตามรับรบให้สบเพียงพบตาม
ทนนิยาม “ห่าง,เหงา”จับเจ่าทน