O ลมหนาว .. เลื่อนระลอกโลมหมอกเช้า
ผ่านรุมเร้าเถาวัลย์ .. จนสั่นไหว
หยาดน้ำค้างเกลือกกลิ้งที่กิ่งใบ-
ค่อยค่อยไหลเป็นหยดลงรดริน
O เพียงเพื่อ .. รอบอุทัยพิไลพิลาส
ผ่านโอภาสเกลือกกลั้วไปทั่วถิ่น
ฟ้าบนปีกวิหคย่อมผกบิน
เพชรบนตฤณวาบวามกับยามเช้า
O ระริกความอ่อนไหวของใบหญ้า
หนาวลมพาย่ำเหยียบ-ความเงียบเหงา
แตะตื่นความอ่อนไหวของวัยเยาว์
รับรู้เงาร่างหนึ่ง .. ผู้ตรึงใจ
O แล้วรอบความอ่อนหวาน .. ค่อยผ่านสู่
พารับรู้อาวรณ์แสนอ่อนไหว
อ้อมอบอุ่นโอบเนื้อด้วยเยื่อใย
จากรอบแรงอาลัย .. แห่งใจนี้
O รู้หรือไม่คำนึงชั่วหนึ่งคาบ
ก็แต่ภาพตัวน้อยเฝ้าคอยพี่
เสน่หาอาลัยและไมตรี
ราวคลายคลี่คลุมครองทุกห้องใจ
O ถวิลพรทิพแถนทั้งแดนฟ้า
จงผ่านรอบรมยาให้อาศัย
สุจริตมั่นคงจำนงนัย
พระ-เสกใส่ฤดีน้อย .. เฝ้าคอยวัน
O โอบอุ้มเนื้อเนียนผิวจากริ้วหนาว
ข้ามหนหาวรายล้อมเข้ากล่อมขวัญ
โอนอบอุ่นข้ามช่วงแสงดวงวัน
ลงแฝงฝันปรารถนาทั้งราตรี
O บรรจถรณ์หมอนม่านจงผ่านถ้อย
ให้โสตน้อยจดจำแต่คำพี่
ในทุกนึกคิดขวัญ .. กอปรอัญชลี
เพียงท่วงทีถวิลชู้อย่ารู้คลาย
O แพรเพลาะที่ห่มคลุมป้องนุ่มเนื้อ
แทนอุ่นเอื้อโอบเจ้า .. ดั่งเฝ้าหมาย
ถนอมรูปน้อยไว้ทั้งใจกาย
ก็โดยสายใยกระหวัดเข้ารัดรึง
O เมื่อสนิทนิทรา .. ในคราค่ำ
จงดื่มด่ำด้วยนิมิตแรงคิดถึง
ทั้งปวงรอบปรารถนา .. จักตราตรึง
ให้ซาบซึ้งเสน่หาทั้งราตรี
O ฟังเถิดผู้ ปากยิ้ม .. ตาพริ้มหลับ
จะพร้องศัพท์ละเมอถ้อย .. ว่าคอยพี่
บรรสารความปรารถนาในวาที
ให้โสตที่เฝ้าถวิลพลอยดิ้นรน
O ลมหนาว .. ผ่านระลอกยั่วหยอกฟ้า
ผ่านเพ-ลาล้ำล่วงฝ่าห้วงหน
มีใจความอ่อนหวานละลานปน-
ความอึงอลสั่นระรัวแห่งหัวใจ
O ลมหนาว .. ผ่านแล้วอย่างแผ่วโผย
ราวผ่านโชยชื่นมาให้อาศัย
คล้ายอ่อนหวานซาบซึ้งคำนึงใคร-
แนบลมไหวผ่านศัพท์ให้รับรู้
O ลมหนาวคงเฉื่อยโชยอย่างโผยแผ่ว
ไม่รู้แล้วรู้ร้างแต่สางตรู่
ยิ่ง-อารมณ์อาวรณ์ออดอ้อนชู้
ที่คุกคามใจอยู่ไม่รู้วาย
O จนเข้าสายสายหยุดนั้นหยุดหอม
หากละม่อมรูปพักตร์สุดหักหาย
คงพาดผ่านแววตาจนพร่าพราย
ด้วยชม้ายเหลือบชม้อย .. เฝ้าคอยมอง
O รู้หรือไม่ใจคนอีกคน .. หนาว
ร่ำรอดาวสองดวง .. เลื่อนช่วง .. ส่อง
โน้มดวงลงพริ้มพรับ .. ให้รับรอง-
ความผุดผ่องล้ำดาว .. ทุกดาวนั้น !
.
.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=04&group=11&gblog=513
O รูปนฤมิต .. O
O ลมหนาว .. เลื่อนระลอกโลมหมอกเช้า
ผ่านรุมเร้าเถาวัลย์ .. จนสั่นไหว
หยาดน้ำค้างเกลือกกลิ้งที่กิ่งใบ-
ค่อยค่อยไหลเป็นหยดลงรดริน
O เพียงเพื่อ .. รอบอุทัยพิไลพิลาส
ผ่านโอภาสเกลือกกลั้วไปทั่วถิ่น
ฟ้าบนปีกวิหคย่อมผกบิน
เพชรบนตฤณวาบวามกับยามเช้า
O ระริกความอ่อนไหวของใบหญ้า
หนาวลมพาย่ำเหยียบ-ความเงียบเหงา
แตะตื่นความอ่อนไหวของวัยเยาว์
รับรู้เงาร่างหนึ่ง .. ผู้ตรึงใจ
O แล้วรอบความอ่อนหวาน .. ค่อยผ่านสู่
พารับรู้อาวรณ์แสนอ่อนไหว
อ้อมอบอุ่นโอบเนื้อด้วยเยื่อใย
จากรอบแรงอาลัย .. แห่งใจนี้
O รู้หรือไม่คำนึงชั่วหนึ่งคาบ
ก็แต่ภาพตัวน้อยเฝ้าคอยพี่
เสน่หาอาลัยและไมตรี
ราวคลายคลี่คลุมครองทุกห้องใจ
O ถวิลพรทิพแถนทั้งแดนฟ้า
จงผ่านรอบรมยาให้อาศัย
สุจริตมั่นคงจำนงนัย
พระ-เสกใส่ฤดีน้อย .. เฝ้าคอยวัน
O โอบอุ้มเนื้อเนียนผิวจากริ้วหนาว
ข้ามหนหาวรายล้อมเข้ากล่อมขวัญ
โอนอบอุ่นข้ามช่วงแสงดวงวัน
ลงแฝงฝันปรารถนาทั้งราตรี
O บรรจถรณ์หมอนม่านจงผ่านถ้อย
ให้โสตน้อยจดจำแต่คำพี่
ในทุกนึกคิดขวัญ .. กอปรอัญชลี
เพียงท่วงทีถวิลชู้อย่ารู้คลาย
O แพรเพลาะที่ห่มคลุมป้องนุ่มเนื้อ
แทนอุ่นเอื้อโอบเจ้า .. ดั่งเฝ้าหมาย
ถนอมรูปน้อยไว้ทั้งใจกาย
ก็โดยสายใยกระหวัดเข้ารัดรึง
O เมื่อสนิทนิทรา .. ในคราค่ำ
จงดื่มด่ำด้วยนิมิตแรงคิดถึง
ทั้งปวงรอบปรารถนา .. จักตราตรึง
ให้ซาบซึ้งเสน่หาทั้งราตรี
O ฟังเถิดผู้ ปากยิ้ม .. ตาพริ้มหลับ
จะพร้องศัพท์ละเมอถ้อย .. ว่าคอยพี่
บรรสารความปรารถนาในวาที
ให้โสตที่เฝ้าถวิลพลอยดิ้นรน
O ลมหนาว .. ผ่านระลอกยั่วหยอกฟ้า
ผ่านเพ-ลาล้ำล่วงฝ่าห้วงหน
มีใจความอ่อนหวานละลานปน-
ความอึงอลสั่นระรัวแห่งหัวใจ
O ลมหนาว .. ผ่านแล้วอย่างแผ่วโผย
ราวผ่านโชยชื่นมาให้อาศัย
คล้ายอ่อนหวานซาบซึ้งคำนึงใคร-
แนบลมไหวผ่านศัพท์ให้รับรู้
O ลมหนาวคงเฉื่อยโชยอย่างโผยแผ่ว
ไม่รู้แล้วรู้ร้างแต่สางตรู่
ยิ่ง-อารมณ์อาวรณ์ออดอ้อนชู้
ที่คุกคามใจอยู่ไม่รู้วาย
O จนเข้าสายสายหยุดนั้นหยุดหอม
หากละม่อมรูปพักตร์สุดหักหาย
คงพาดผ่านแววตาจนพร่าพราย
ด้วยชม้ายเหลือบชม้อย .. เฝ้าคอยมอง
O รู้หรือไม่ใจคนอีกคน .. หนาว
ร่ำรอดาวสองดวง .. เลื่อนช่วง .. ส่อง
โน้มดวงลงพริ้มพรับ .. ให้รับรอง-
ความผุดผ่องล้ำดาว .. ทุกดาวนั้น !
.
.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=04&group=11&gblog=513