Brainstorming - ท่านปรับตัวอย่างไรกันบ้างกับค่าแรง 300 บาทและปริญญาตรี 15,000 บาท

กระทู้คำถาม
แน่นอนว่าสินค้าจะขึ้นราคาอีกรอบ หลังจากขึ้นมาแล้วตั้งแต่มีข่าวออกมา
สำหรับดิฉันคิดว่า สามารถมีแนวทางจะช่วยเศรษฐกิจชาติและตัวเองโดย

1. ลดการเก็บเงินสด เริ่มลงทุนในที่ดินและทองคำมากขึ้น
2. ขึ้นค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ Apartment ,resort ,ที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ เนื่องจากค่าแรงพนักงานมากขึ้นและผู้เช่า(น่าจะ)ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่อยู่ในข่ายค่าแรง 300
3. ลดหรืองดโบนัสพนักงานที่จ้างไว้ รวมถึงคนในบ้านที่ กทม ที่จะเพิ่มวันหยุดให้แทน(เพราะค่าแรงเกิน 300 ไปแล้ว)โดยการสลับวันหยุดกันและใช้ระบบPool สำหรับบ้านพี่น้องที่อยู่ในรั้วเดียวกันหรือติดกัน
4. ลดการจ้างพนักงานที่ไม่จำเป็นที่บ้าน มาเพิ่มการใช้สอยคนของกองทัพแทน(ใช้สามีและเด็กๆเสื้อเขียวหัวเกรียน) อันนี้ ขำๆ ค่ะ
5. ลดการบริจาค ทำตัวหน้าใหญ่ใจโตเกินความจำเป็น
6. หาทางผลักดันตัวเองและคนในครอบครัวเข้าสู่ธุรกิจการเมือง เพิ่มพูนทรัพย์สินและบารมีให้รากหญ้ามายกขึ้นเสลี่ยงก้มกราบกรานอย่างสวยงามราวทั้งแผ่นดินปูพรมด้วยกุหลาบสีแดง (อันนี้ เพื่อนบอกว่าฮาสุดและทำง่ายที่สุด แต่ดิฉันว่ายาก ต้องไปฝึกชั่วก่อน(ฮา) น่าจะเกินความสามารถ)

ในส่วนชีวิตลูกจ้างของตัวเอง

1. ลดการเลี้ยงอาหารผู้ใต้บังคับบัญชา ฝึกให้จ่ายกันเองบ้าง ด้วยเหตุผลของค่าครองชีพที่สูงขึ้นและชีวิตรันทดของคนชราปลายๆ Baby Boomer ต้นๆ Gen X เยี่ยงเรา
(อันนี้เป็นเรื่องประหลาด ในแวดวงราชการ ไปไหนมีแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาเลี้ยงรับรอง แต่พอถึงเอกชน หัวหน้าเลี้ยงเต็มๆค่ะ สั่งกันเต็มที่ กินกันเต็มคราบ )
2. ขยายอายุการทำงาน จากเดิมที่จะ early retire ที่ 52 ไปเป็นทำไปเรื่อยๆจนครบ 60 หรือ มากกว่านั้น หากทางบริษัทมหาชนแห่งชาติอันมั่นคงยิ่งของดิฉันเขาต่ออายุการทำงานให้ (คิดแล้วก็เศร้าใจ สงสัยต้องทำงานไปจนกระทั่งถือไม้เท้า)

แล้วอะไรอีกหนอ ใครนึกออกช่วยบอกด้วยค่ะ เหมือนว่าทางเลือกน้อยมากสำหรับมนุษย์เงินเดือน ทั้งเงินบริจาค กองทุน ประกันชีวิต ประกันเกษียร ก็จัดเต็มไปหมดแล้วเพื่อลดภาษี อย่าชวนซื้อหุ้นนะคะ ซื้ออยู่แล้วในปริมาณที่จำกัดตัวเองไว้ ไม่ชอบเสี่ยงมากไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่