หลังจากหายไปเกือบสองเดือนจากที่ลงสมัครเรียนครั้งแรก ผมได้จัดการลากพี่เจนไปเรียนกอล์ฟอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับสั่งอุปกรณ์พร้อมถุงให้เขาเรียบร้อย ตอนจ่ายเงินเขาจัดการของเขาเอง พี่เจนเปลี่ยนโปรฯสอนใหม่ เป็นโปรทวีศักดิ์ที่เคยสอนผม เรียนกับโปรฯคนนี้ดูพี่เจนมีความสุขมากขึ้น เพราะโปรทวีศักดิ์นั้นใจเย็น และไม่เข้มงวดกับพี่เจนมาก
โปรทวีศักดิ์บอกกับผมว่า เพราะโปรฯอ่านหนังสือของหมอวิธานจบแล้ว หนังสือเล่มนี้ทำให้ความคิดของโปรฯเปลี่ยนไป โปรฯเริ่มหันมาเน้นเรื่องความสุขในการเล่นกอล์ฟ และปล่อยให้พี่เจนทำตัวตามสบาย ไม่บังคับให้ต้องทำท่าถูกต้องไปเสียทุกช็อตเหมือนที่เคยสอนผม โปรฯว่าถ้าเข้มมากไป เดี๋ยวพี่เจนก็จะหายไปอีกสองเดือน
พี่เจนนี่เป็นคนงานเยอะ ยุ่งจนไม่มีเวลาเล่นกีฬา ไม่เคยออกกำลังกาย ไม่เคยตื่นเช้า ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่เคยคิดที่จะทำเรื่องแบบที่ผมทำ เช่นมาเรียนกอล์ฟกับโปร มาซ้อมไดร์ฟทุกวัน ออกรอบบ่อย ๆ ผมเคยคิดจะเสนอว่า ให้แกจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่ สนใจเรื่องกีฬาบ้าง เพราะมันจะทำให้สุขภาพดีขึ้น หรือไม่ก็วางแผนทำงานให้เป็นระบบกว่านี้ งานอะไรที่ไม่สำคัญก็ตัดทิ้งเสียบ้าง แต่ก็คงยาก เพราะนั่นเป็นพี่เจน ไม่ใช่ผม
พี่เจนดูวุ่นวายยุ่งเหยิงตลอดเวลา ถ้าเป็นผม ผมจะตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่หยุมหยิมออกไปจากชีวิต เริ่มลำดับด้วยการเขียนเป็นหัวข้อไว้ หนึ่ง คืออะไร สองคืออะไร สามคืออะไร แล้วก็ค่อยๆ ขีดที่ไม่สำคัญออกไป เหลือแต่สาระของชีวิตหรือเหลือแต่ที่ผมคิดว่าผมอยากจะทำจริง ๆ เท่านั้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เรื่องการออกงานสังคม พี่เจนเป็นคนขี้เกรงใจ รักนักเขียน งานเล็กงานใหญ่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ แกให้เกียรติเขาทุกงาน ไม่นับงานจำเป็นที่คนเป็นนายกต้องไปปรากฏตัว เช่นงานศพนักเขียน นักเขียนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล สองงานนี้ขาดไม่ได้
แต่พี่เจนนั้นไปทุกงาน ยิ่งงานเพื่อนยิ่งต้องไป ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย ต้องไปช่วยอย่างเดียว ไม่ช่วยอะไรก็โผล่หน้าไปให้กำลังใจเพื่อนเสียหน่อย พีเจนคงมีคำสอนของท่านสาทิส กุมารติดอยู่ในหัว
ธุระไว้ทีหลัง เพื่อนสำคัญกว่า
พี่เจนเป็นคนใจดี รักน้องนุ่ง ให้เกียรติเพื่อนฝูง ดูแลผู้ใหญ่ ใจกว้างเหมือนทะเล บางทีงานเมาเหล้าธรรมดาเขาก็ยังอุตส่าห์ไป ไปแล้วก็เห็นแต่ขี้เหล้าคุยกัน ไม่ค่อยได้สาระอะไร
วันนี้พี่เจนมาซ้อมกับผม เหงื่อโชกหลัง ผมให้กำลังใจว่า พี่มาเรียนอาทิตย์ละครั้ง แต่ให้ไปซ้อมที่สนามข้างบ้านเขา อยู่ข้างโรงเรียนอัมพรไพศาล ซ้อมตอนที่ว่าง เวลาไหนก็ได้ เรื่องเรียนรู้ก็สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือการซ้อม ต่อไปจะได้ออกรอบด้วยกัน รับรองสนุก แค่ได้เข้าไปในสนามก็อ่มใจแล้ว สารแห่งความสุขหลั่งกระจาย
ซ้อมเสร็จผมยืนคุยกับโปรทวีศักดิ์เกือบครึ่งชั่วโมง เรื่องความผิดพลาดของผม และโปรฯก็บอกว่าเกิดมาจากความคาดหวังที่สูงเกินไป ความคาดหวังในตัวเองนี่แหละทำให้เกิดความกดดัน และก็ทำให้ตีพลาดแล้วพลาดอีก โปรฯบอกว่า อย่าคิดแม้แต่จะอวดใคร ให้ทำสมาธินิ่ง ๆ เข้าไว้ และก็ตีของเราไป ไม่ต้องให้ไกลมาก แค่ท่าสวย ลูกตรง ทุกอย่างก็เฟอร์เฟ็ค
ผมถามว่า ทำไมผมต้องกดหัวไม้ลง ทำให้ลูกจมดินบ่อย ๆ โปรบอกว่า เพราะผมงอแขนมากไป ผมลืมสิ่งที่โปรฯสอน คือแขนซ้ายต้องตึงไว้ตลอด งอได้แค่นิดเดียวเท่านั้น ปลายไม้ที่ยกขึ้นไปต้องไม่ไปโผล่อยู่ในคลองสายตาด้านซ้าย ไม่อย่างนั้นเท่ากับเราทุบหัวไม้ลงไปที่ลูก
อีกอย่างหนึ่งที่โปรฯคิดว่า เป็นความผิดพลาดอย่างมากของผมก็คือ ผมไม่ยอมเปลี่ยนอุปกรณ์ รู้ทั้งรู้ว่าตีหัวไม้สามไม่ได้ ก็ยังดันทุรัง แค่ผมเก็บหัวไม้สามไว้ในถุงเสีย เอาเหล็กเจ็ดออกมาใช้ ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป เพราะในกติกามารยาทเขาไม่ได้บังคับเลยว่าคุณจะต้องใช้หัวไม้สามหรือหัวไม้หนึ่งบนแท่นทีออฟ คุณจะใช้เหล็กห้าหรือเหล็กอะไรก็ได้ แล้วแต่คุณ
นอกจากจากอวดความเก่งกาจของตัวเองแล้ว ผมยังเป็นคนดันทุรังสูงอีกด้วย
ผมถือว่านี่คือข้อวิจารณ์ที่ได้ประโยชน์มากสำหรับวันนี้
ผมเล่าให้โปรฯฟังว่า เมื่อวานผมถามคุณปุ้ยแล้วว่า เมื่อไรผมจะได้ออกรอบกับโปร คุณปุ้ยบอกว่า รายการเรียนสิบครั้งของผมไม่มีการออกรอบ ถ้าจะเรียนออกรอบก็ต้องเสียอีกแปดพัน ออกรอบได้ห้าครั้ง ผมก็บอกโปรฯว่า ผมไม่ต้องการเสียเงินขนาดนั้น ผมอยากออกกับโปรแค่ครั้งเดียว เป็นไปได้ไหมที่เราจะออกรอบด้วยกัน
โปรบอกว่า ได้แน่นอน แต่เราค่อยนัดกันสองคน อย่าให้ทางสถาบันรู้ เพราะ
ผิดมารยาท
ผมอ่านหนังสือที่คุณซื้อให้หลายเล่ม เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ผมจะนัดกับคุณเป็นการส่วนตัว เขากระซิบ
ผมก็เลยยกมื้อไหว้ขอบคุณเขา
วันนี้ผมได้เรียนการตีหัวไม้หนึ่งแล้วครับ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ทั้งหมดเพราะผมตีหัวไม้สาม(ในสนามซ้อม)จนชำนาญ พอจับหัวไม้หนึ่งแค่ปรับท่ายืนให้ถูกต้อง ับวงสวิงให้สวยขึ้น ผมก็สามารถตีลูกลอยไปไกลและตรงแหนวเหมือนเอาไม้บรรทัดวัด (ผมหวังว่าเมื่อลงสนามจริง พระเจ้าคงช่วยผมให้ผมทำได้สำเร็จ)
พรุ่งนี้ผมจะไปเดอะมอลล์งามวงศ์วานหาซื้อหัวไม้หนึ่งมาเป็นอาวุธประจำกายหนึ่งอัน ต่อไปผมมีอุปกรณ์ครบแล้ว ผมจะออกรอบเองคนเดียวดูสักครั้งสองครั้งที่สนามชลประทาน อยากรู้เหมือนกันว่า เล่นคนเดียวนั้นความสุขจะแตกต่างกับการเล่นกับเพื่อนๆมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
หรือไม่ก็ยุพี่เจนให้ซ้อมบ่อย ๆ และลากเข้าสนามจริงเลย จะได้เดินเคียงข้างผมบ้าง ผมคิดว่า ถ้าพี่เจนมีอุปกรณ์ครบ เขาก็คงไม่ต่างไปจากนักกอล์ฟสมัครเล่นคนอื่น ๆ คือนอนไม่หลับ เฝ้าฝันแต่การออกรอบท่าเดียว
คุณหน่อยเคยบอกว่า กอล์ฟมันเข้าเส้นเลือดของผมไปเรียบร้อยแล้ว แต่ผมว่า มันอาจลามเข้าแกนกลางสมองด้วย ผมไม่คิดเรื่องอื่นเลย นอกจากกอล์ฟและกอล์ฟ อ่านหนังสือกอล์ฟ ไปซ้อมกอล์ฟ พูดแต่เรื่องกอล์ฟ ผมว่าถ้าวัดความบ้าแข่งกันได้ ผมคงติดหนึ่งในห้าแน่นอน
ผมซ้อมตีด้วยหัวไม้หนึ่งยี่ห้อโยเน็คของทางสถาบัน หมดลูกไปแปดถาด ยิ่งตียิ่งมัน โปรทวีศักดิ์ยืนกำกับท่าและคอยแนะนำอยู่ห่าง ๆ และก็บอกว่า ดีแล้ว ต่อไปถ้าลงสนามจริงก็อยู่ที่ผม จะเครียดหรือรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่
ถ้าเครียดอีกก็ช่วยไม่ได้นะ
จากนั้นเขาก็ขอตัวไปสอนที่อื่นต่อ
ผมอยู่กับพี่เจนจากบ่ายโมงจนถึงสี่โมงเย็น สามชั่วโมงที่เราสองคนซ้อมกันอย่างสนุกสนาน พี่เจนก็มีท่าทางว่าเมามันมาก ตีหมดไปแปดถาดอย่างสุขสม ยิ่งผมชมว่า เก่งแล้วพี่ ดีแล้วครับ แต่ให้ลดจังหวะช้าลงหน่อย แกก็หวดเอา ๆ จนลูกหมดทั้งแปดถาด นั่งพักและคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ทั้งเรื่องกิจกรรมของสมาคม ไปจนถึงเรื่องรายละเอียดของชีวิต
สำหรับผม พี่เจนน่ารักเสมอ ใจดีไม่เปลี่ยนแปลง
ผมว่า พี่ครับ รีบเรียนให้จบ ซ้อมให้เก่ง แล้วไปลงสนามด้วยกัน
พี่เขาพูดน้อย เอาแต่พยักหน้าหงึก ๆ แล้วก็ยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่
ชวนนายกสมาคมนักเขียนไปเรียนกอล์ฟ
โปรทวีศักดิ์บอกกับผมว่า เพราะโปรฯอ่านหนังสือของหมอวิธานจบแล้ว หนังสือเล่มนี้ทำให้ความคิดของโปรฯเปลี่ยนไป โปรฯเริ่มหันมาเน้นเรื่องความสุขในการเล่นกอล์ฟ และปล่อยให้พี่เจนทำตัวตามสบาย ไม่บังคับให้ต้องทำท่าถูกต้องไปเสียทุกช็อตเหมือนที่เคยสอนผม โปรฯว่าถ้าเข้มมากไป เดี๋ยวพี่เจนก็จะหายไปอีกสองเดือน
พี่เจนนี่เป็นคนงานเยอะ ยุ่งจนไม่มีเวลาเล่นกีฬา ไม่เคยออกกำลังกาย ไม่เคยตื่นเช้า ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่เคยคิดที่จะทำเรื่องแบบที่ผมทำ เช่นมาเรียนกอล์ฟกับโปร มาซ้อมไดร์ฟทุกวัน ออกรอบบ่อย ๆ ผมเคยคิดจะเสนอว่า ให้แกจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่ สนใจเรื่องกีฬาบ้าง เพราะมันจะทำให้สุขภาพดีขึ้น หรือไม่ก็วางแผนทำงานให้เป็นระบบกว่านี้ งานอะไรที่ไม่สำคัญก็ตัดทิ้งเสียบ้าง แต่ก็คงยาก เพราะนั่นเป็นพี่เจน ไม่ใช่ผม
พี่เจนดูวุ่นวายยุ่งเหยิงตลอดเวลา ถ้าเป็นผม ผมจะตัดทุกสิ่งทุกอย่างที่หยุมหยิมออกไปจากชีวิต เริ่มลำดับด้วยการเขียนเป็นหัวข้อไว้ หนึ่ง คืออะไร สองคืออะไร สามคืออะไร แล้วก็ค่อยๆ ขีดที่ไม่สำคัญออกไป เหลือแต่สาระของชีวิตหรือเหลือแต่ที่ผมคิดว่าผมอยากจะทำจริง ๆ เท่านั้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เรื่องการออกงานสังคม พี่เจนเป็นคนขี้เกรงใจ รักนักเขียน งานเล็กงานใหญ่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ แกให้เกียรติเขาทุกงาน ไม่นับงานจำเป็นที่คนเป็นนายกต้องไปปรากฏตัว เช่นงานศพนักเขียน นักเขียนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล สองงานนี้ขาดไม่ได้
แต่พี่เจนนั้นไปทุกงาน ยิ่งงานเพื่อนยิ่งต้องไป ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย ต้องไปช่วยอย่างเดียว ไม่ช่วยอะไรก็โผล่หน้าไปให้กำลังใจเพื่อนเสียหน่อย พีเจนคงมีคำสอนของท่านสาทิส กุมารติดอยู่ในหัว
ธุระไว้ทีหลัง เพื่อนสำคัญกว่า
พี่เจนเป็นคนใจดี รักน้องนุ่ง ให้เกียรติเพื่อนฝูง ดูแลผู้ใหญ่ ใจกว้างเหมือนทะเล บางทีงานเมาเหล้าธรรมดาเขาก็ยังอุตส่าห์ไป ไปแล้วก็เห็นแต่ขี้เหล้าคุยกัน ไม่ค่อยได้สาระอะไร
วันนี้พี่เจนมาซ้อมกับผม เหงื่อโชกหลัง ผมให้กำลังใจว่า พี่มาเรียนอาทิตย์ละครั้ง แต่ให้ไปซ้อมที่สนามข้างบ้านเขา อยู่ข้างโรงเรียนอัมพรไพศาล ซ้อมตอนที่ว่าง เวลาไหนก็ได้ เรื่องเรียนรู้ก็สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าก็คือการซ้อม ต่อไปจะได้ออกรอบด้วยกัน รับรองสนุก แค่ได้เข้าไปในสนามก็อ่มใจแล้ว สารแห่งความสุขหลั่งกระจาย
ซ้อมเสร็จผมยืนคุยกับโปรทวีศักดิ์เกือบครึ่งชั่วโมง เรื่องความผิดพลาดของผม และโปรฯก็บอกว่าเกิดมาจากความคาดหวังที่สูงเกินไป ความคาดหวังในตัวเองนี่แหละทำให้เกิดความกดดัน และก็ทำให้ตีพลาดแล้วพลาดอีก โปรฯบอกว่า อย่าคิดแม้แต่จะอวดใคร ให้ทำสมาธินิ่ง ๆ เข้าไว้ และก็ตีของเราไป ไม่ต้องให้ไกลมาก แค่ท่าสวย ลูกตรง ทุกอย่างก็เฟอร์เฟ็ค
ผมถามว่า ทำไมผมต้องกดหัวไม้ลง ทำให้ลูกจมดินบ่อย ๆ โปรบอกว่า เพราะผมงอแขนมากไป ผมลืมสิ่งที่โปรฯสอน คือแขนซ้ายต้องตึงไว้ตลอด งอได้แค่นิดเดียวเท่านั้น ปลายไม้ที่ยกขึ้นไปต้องไม่ไปโผล่อยู่ในคลองสายตาด้านซ้าย ไม่อย่างนั้นเท่ากับเราทุบหัวไม้ลงไปที่ลูก
อีกอย่างหนึ่งที่โปรฯคิดว่า เป็นความผิดพลาดอย่างมากของผมก็คือ ผมไม่ยอมเปลี่ยนอุปกรณ์ รู้ทั้งรู้ว่าตีหัวไม้สามไม่ได้ ก็ยังดันทุรัง แค่ผมเก็บหัวไม้สามไว้ในถุงเสีย เอาเหล็กเจ็ดออกมาใช้ ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป เพราะในกติกามารยาทเขาไม่ได้บังคับเลยว่าคุณจะต้องใช้หัวไม้สามหรือหัวไม้หนึ่งบนแท่นทีออฟ คุณจะใช้เหล็กห้าหรือเหล็กอะไรก็ได้ แล้วแต่คุณ
นอกจากจากอวดความเก่งกาจของตัวเองแล้ว ผมยังเป็นคนดันทุรังสูงอีกด้วย
ผมถือว่านี่คือข้อวิจารณ์ที่ได้ประโยชน์มากสำหรับวันนี้
ผมเล่าให้โปรฯฟังว่า เมื่อวานผมถามคุณปุ้ยแล้วว่า เมื่อไรผมจะได้ออกรอบกับโปร คุณปุ้ยบอกว่า รายการเรียนสิบครั้งของผมไม่มีการออกรอบ ถ้าจะเรียนออกรอบก็ต้องเสียอีกแปดพัน ออกรอบได้ห้าครั้ง ผมก็บอกโปรฯว่า ผมไม่ต้องการเสียเงินขนาดนั้น ผมอยากออกกับโปรแค่ครั้งเดียว เป็นไปได้ไหมที่เราจะออกรอบด้วยกัน
โปรบอกว่า ได้แน่นอน แต่เราค่อยนัดกันสองคน อย่าให้ทางสถาบันรู้ เพราะ
ผิดมารยาท
ผมอ่านหนังสือที่คุณซื้อให้หลายเล่ม เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ผมจะนัดกับคุณเป็นการส่วนตัว เขากระซิบ
ผมก็เลยยกมื้อไหว้ขอบคุณเขา
วันนี้ผมได้เรียนการตีหัวไม้หนึ่งแล้วครับ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ทั้งหมดเพราะผมตีหัวไม้สาม(ในสนามซ้อม)จนชำนาญ พอจับหัวไม้หนึ่งแค่ปรับท่ายืนให้ถูกต้อง ับวงสวิงให้สวยขึ้น ผมก็สามารถตีลูกลอยไปไกลและตรงแหนวเหมือนเอาไม้บรรทัดวัด (ผมหวังว่าเมื่อลงสนามจริง พระเจ้าคงช่วยผมให้ผมทำได้สำเร็จ)
พรุ่งนี้ผมจะไปเดอะมอลล์งามวงศ์วานหาซื้อหัวไม้หนึ่งมาเป็นอาวุธประจำกายหนึ่งอัน ต่อไปผมมีอุปกรณ์ครบแล้ว ผมจะออกรอบเองคนเดียวดูสักครั้งสองครั้งที่สนามชลประทาน อยากรู้เหมือนกันว่า เล่นคนเดียวนั้นความสุขจะแตกต่างกับการเล่นกับเพื่อนๆมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
หรือไม่ก็ยุพี่เจนให้ซ้อมบ่อย ๆ และลากเข้าสนามจริงเลย จะได้เดินเคียงข้างผมบ้าง ผมคิดว่า ถ้าพี่เจนมีอุปกรณ์ครบ เขาก็คงไม่ต่างไปจากนักกอล์ฟสมัครเล่นคนอื่น ๆ คือนอนไม่หลับ เฝ้าฝันแต่การออกรอบท่าเดียว
คุณหน่อยเคยบอกว่า กอล์ฟมันเข้าเส้นเลือดของผมไปเรียบร้อยแล้ว แต่ผมว่า มันอาจลามเข้าแกนกลางสมองด้วย ผมไม่คิดเรื่องอื่นเลย นอกจากกอล์ฟและกอล์ฟ อ่านหนังสือกอล์ฟ ไปซ้อมกอล์ฟ พูดแต่เรื่องกอล์ฟ ผมว่าถ้าวัดความบ้าแข่งกันได้ ผมคงติดหนึ่งในห้าแน่นอน
ผมซ้อมตีด้วยหัวไม้หนึ่งยี่ห้อโยเน็คของทางสถาบัน หมดลูกไปแปดถาด ยิ่งตียิ่งมัน โปรทวีศักดิ์ยืนกำกับท่าและคอยแนะนำอยู่ห่าง ๆ และก็บอกว่า ดีแล้ว ต่อไปถ้าลงสนามจริงก็อยู่ที่ผม จะเครียดหรือรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่
ถ้าเครียดอีกก็ช่วยไม่ได้นะ
จากนั้นเขาก็ขอตัวไปสอนที่อื่นต่อ
ผมอยู่กับพี่เจนจากบ่ายโมงจนถึงสี่โมงเย็น สามชั่วโมงที่เราสองคนซ้อมกันอย่างสนุกสนาน พี่เจนก็มีท่าทางว่าเมามันมาก ตีหมดไปแปดถาดอย่างสุขสม ยิ่งผมชมว่า เก่งแล้วพี่ ดีแล้วครับ แต่ให้ลดจังหวะช้าลงหน่อย แกก็หวดเอา ๆ จนลูกหมดทั้งแปดถาด นั่งพักและคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ทั้งเรื่องกิจกรรมของสมาคม ไปจนถึงเรื่องรายละเอียดของชีวิต
สำหรับผม พี่เจนน่ารักเสมอ ใจดีไม่เปลี่ยนแปลง
ผมว่า พี่ครับ รีบเรียนให้จบ ซ้อมให้เก่ง แล้วไปลงสนามด้วยกัน
พี่เขาพูดน้อย เอาแต่พยักหน้าหงึก ๆ แล้วก็ยิ้มเห็นฟันครบทุกซี่