เรียนจบผมก็อยากฉลองกับใครสักคน

กระทู้สนทนา
เมื่อวานผมไปเรียนกอล์ฟกับโปรทวีศักดิ์เป็นชั่วโมงสุดท้ายครับ ถ้าเป็นนักศึกษาก็วันนี้เรียนจบหมดภาระที่จะมาหมาวิทยาลัยอีก ผมควรจะได้ฉลองกับเพื่อน ๆ ร่วมชั้น แต่บังเอิญเรียนกอล์ฟไม่มีเพื่อนร่วมชั้น ไม่มีคู่หูที่รู้ใจ อยากจะฉลองอยู่เหมือนกัน แต่หาเพื่อนร่วมดื่มกินไม่ได้ ยิ่งแก่ยิ่งหาเพื่อนมานั่งคุยกันยากขึ้นทุกวัน เพราะถ้าเราไม่ยุ่ง เขาก็จะยุ่งของเขา  ยุ่งจนเราเกรงใจ การงานมันบังคับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ เพื่อนผมที่เป็นนักเขียนก็มีงานอื่น ๆ ทำกันเยอะแยะมากมาย มีภาระหน้าที่ มีลูกมีเมียต้องดูแล บางเวลาผมเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเขา การที่จะให้ว่างตรงกันนั้นยากแสนยากขึ้นตามวันเวลา

ดังนั้นวาระในการฉลองกับเพื่อนจึงลดน้อยลงเรื่อย ๆ ไม่ใช่งานสำคัญจริง ๆ เช่นงานแต่งลูกหลานเพื่อน หรืองานศพคนใกล้ชิด ก็ยากที่จะดึงเพื่อนสามสี่คนให้มาพบกันได้อีก ทุกคนพูดเหมือน ๆ กันราวกับท่องจำจากหนังสือว่า “งานยุ่งมาก”

เมื่อวานผมเคว้งคว้างออกมาจากสนามกอล์ฟเหมือนเศษใบไม้ถูกลมพัด นึกอยากจะฉลองมาก รู้สึกดีที่เรียนจบหลักสูตร ซ้อมเสร็จราวห้าโมงเย็นก็รีบกลับบ้าน มาจัดการเรื่องการกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า หุงข้าว เก็บครัว รอลูกกับภรรยากลับมาจากงานสัปดาห์หนังสือ เดี๋ยวนี้ลูกสาวขับรถได้แล้ว  จึงไม่ต้องขับรถรับส่งเขาเหมือนปีก่อน ๆ  เขาสามารถพาแม่ไปงานหนังสือเช้าเย็นได้อย่างสะดวกสบาย

อารมณ์อยากฉลองของผมยังกรุ่นอยู่ในใจ ตกดึกราวห้าทุ่ม เมื่อทุกอย่างคืนกลับสู่ความสงบ ผมขับรถออกจากบ้านกับหลานชายอายุสิบสี่ ไปหาเบียร์ดื่มกันสองขวดที่ร้านเล็ก ๆ ใกล้บ้าน ดื่มไปก็ฟังเพลงจากนักร้องขี้เมาสูงอายุไปหลายเพลง แต่พวกเขาก็ร้องได้ไพเราะมาก ไล่ตั้งแต่เพลงเรือนแพ สุขจริงอังกระแสธารา ไปจนถึงเพลงรักเอยจริงหรือที่ว่าหวานหรือทรมานใจคน ฟังจบผมก็ต้องปรบมือให้ทุกเพลง นักร้องชอบใจ เดินมาคุยกับผมสองสามคำ ผมก็อือออไปตามเรื่อง หมดเบียร์สองขวด รู้สึกดีขึ้นที่ได้ฉลองแล้ว ชวนหลานชายขึ้นรถขับกลับบ้าน นอน

หลานชายถามว่า ดูลุงแปลก ๆ

ผมบอกว่า อือ ไม่อยากอธิบายว่าลุงครึ้มใจและมีความสุขมาก แต่ก็ไม่ได้พูด กลัวเขาจะไม่เข้าใจ เดี่ยวหาว่าลุงเพี้ยน
สรุปก็คือ ผมหาทางฉลองการเรียนจบของผมจนได้

สิ่งที่โปรทวีศักดิ์สอนเมื่อวานนั้นก็เป็นเทคนิกในการตีลูกขึ้นจากหลุมทราย  ที่โปรเน้นมากก็คือท่ายืนของเรา  โปรย้ำแล้วย้ำเล่าว่า ท่านั้นสำคัญที่สุด ถ้าเรายืนถูก จับไม้ถูก เหวี่ยงแขนถูก ทุกอย่างก็จะสวยงามสมบูรณ์

ลูกที่ตกอยู่ในหลุมทรายนั้น เรามองลูกให้อยู่ตำแหน่ง๑๒ นาฬิกา ส่วนตัวเรายืนในระยะสิบเอ็ดนาฬิกา หงายเหล็กขึ้นอยู่ในตำแหน่งสิบสามนาฬิกา ถ้าขีดเส้นก็จะได้เป็นรูปตัววี  และก็หวดลูกลงไปตามระยะใกล้หรือไกล ให้เอาเบ๊าส์หวดลงไปที่พื้นทรายก่อนถึงลูกสักหนึ่งฝ่ามือ
ผมไม่รู้จักเบ๊าส์มาก่อน จึงถามว่าคืออะไร โปรบอกว่า เป็นสันของหัวเหล็ก และโปรฯก็อธิบายลักษณะของสันเหล็กให้ดูว่ามีกี่เบอร์ และใช้งานอย่างไร สุดท้ายก็สรุปว่า มือสมัครเล่นไม่ต้องจริงจังกับหัวเหล็กมากนัก

ผมซ้อมอยู่ในหลุมทรายตลอดชั่วโมง เปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ จากยากไปสู่ง่าย และจากง่ายไปสู่ยาก จากใกล้ไปสู่ไกล จากไกลมาสู่ใกล้
โปรบอกว่า ซ้อมไปเรื่อย ๆ  หากมีเวลาก็ซ้อมบ่อย ๆ สถานการณ์แย่ ๆ แต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน เราก็ต้องอาศัยประสบการณ์จากการซ้อมทั้งสิ้น

เรียนจบผมก็ยืนคุยกับโปรทวีศักดิ์เรื่องที่จะออกรอบด้วยกัน  เขาบอกว่า ยินดีเสมอ ให้ผมโทรนัด อาทิตย์หน้าวันไหนก็ได้ ผมถามว่า เราจะเลือกสนามไหนดี โปรบอกว่าที่เมืองเอกก็ได้ ผมก็เลยบอกเขาว่า ผมจะขับรถไปรับและส่งเขาเอง จะได้ไม่ต้องเอารถไปสองคัน อีกอย่างบ้านของเราก็อยู่ใกล้กันมาก  

โปรทวีศักดิ์ยิ้ม และพูดว่า ขจรฤทธิ์เป็นคนชอบเขียนชอบจด หากมีอะไรที่เขียนเรื่องกอล์ฟและอยากให้โปรอ่านก็เอามาฝากด้วยนะครับ
ผมตอบว่า ผมเขียนแต่บันทึก และส่งให้เพื่อนร่วมก๊วนสองคนอ่านว่า ผมได้เรียนอะไรมาบ้าง ส่วนนิยายหรืออะไรที่เกี่ยวกับกอล์ฟผมยังไม่ได้เขียนเลย

โปรหัวเราะบอกว่า บันทึกก็ได้ เอามาให้โปรอ่านด้วย จะได้แก้ไขให้ หากอะไรที่ผมเขียนแล้วมีข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือเข้าใจในสิ่งที่โปรสอนผิดไป มันจะเป็นบันทึกที่เป็นประโยชน์ต่อคนอ่านด้วย

ผมรับปากว่า จะก็อปปี้ไปให้ชุดหนึ่ง

ตอนที่รับปากนั้นก็รู้สึกลำบากใจ เพราะจำไม่ได้ว่าไปเขียนถึงโปรว่าอย่างไรบ้าง

ตอนที่เขียนว่า ตัวเองนั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าว่าคนอื่นให้เสียหาย หรือต้องทำให้เขาอับอาย เราต้องระมัดระวังให้มาก ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครกล้าคบนักเขียนอีก

โปรทวีศักดิ์กลับไปแล้ว  ผมยังกลับมาซ้อมไดร์ฟลูกด้วยหัวไม้หนึ่งต่ออีกสี่ถาด พยายามดูและสังเกตวงสวิงของตัวเองว่าทำไมลูกจึงวิ่งโค้งออกไปทางขวาอยู่เรื่อย ๆ ถ้าเป็นสนามจริง สงสัยคงตกน้ำหมดอีก พยายามยืนใหม่ และก็ปรับวงสวิงเสียใหม่ มันดีขึ้นนิดหน่อย สงสัยว่าทำไมจึงไม่ดีเหมือนเดิม แต่ในที่สุดก็ทำใจได้ วันนี้อาจจะไม่ใช่วันที่ดีของเรา
เพราะถ้าเป็นวันดีของเรา ทำอะไรก็จะดูดีไปหมด

วันก่อนอ่านพบในนิตยสารกอล์ฟเล่มหนึ่งบอกว่า “ลำตัวเป็นแหล่งพลังสำคัญของวงสวิง ถ้าลำตัวทำงานได้ดี หมายความว่า คุณมีโอกาสที่จะตีได้ไกล คำถามก็คือเราจะหมุนตัวได้อย่างไรจึงจะเกิดเกลียว”

ผมนึกตอนที่โปรทวีศักดิ์สอน เขาไม่ใช่คำว่า “เกลียว” แต่การหมุนสะโพกนิดหนึ่ง แขม่วท้อง เหวี่ยงไม้ขึ้นก่อนจะหวดลูกลงน่าจะเป็นการใช้ลำตัวของเราบิดให้เป็นเกลียว ตอนหวดมือซ้ายลงไปที่ลูกนั้นก็ให้ผ่อนลมหายใจออก จะทำให้ลูกไปได้ไกลและแม่นยำขึ้น
ทฤษฎีย่อมใช่ได้ผล แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการฝึกฝนจริง ๆ

ในหนังสือยังเขียนบอกไว้อีกว่า เกลียวคือส่วนต่างของการหมุนระหว่างร่างกายท่อนบน(ไหล่)กับร่างกายท่อนล่าง(สะโพก)ยิ่งต่างกันมากยิ่งดี หลายคนเข้าใจผิดพยายามหมุนทั้งลำตัวให้มาก ๆ หมุนไหล่ให้เต็มที่ แต่ไม่ใช่  เราแค่หมุนร่างกายให้ได้ประมาณ๙๐องศา  หมุนจนกว่าไหล่ซ้ายมาลอดใต้คาง แล้วบิดสะโพก ก่อนที่จะคลายเกลียวและหวดลูกลงมา

ผมอ่านหนังสือที่สอนกอล์ฟแล้วก็ยังงง ๆ อยู่มาก แต่เมื่อถูกสอนตัวต่อตัวนั้นทำได้ง่ายกว่า เพราะสงสัยอะไรก็ถามได้ทันที ตอนที่โปรทวีศักดิ์เดินจากไป เขาก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ถ้าสงสัยอะไรก็โทรถามได้ตลอดเวลา

ผมซ้อมจนลูกหมดไปสี่ถาด นั่งพัก เปลี่ยนเสื้อ ถอดถุงมือวางไว้บนโต๊ะ เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา และออกมาบอกเด็กให้เก็บเหล็กเก็บหัวไม้ใส่ถุงและยกไปใส่รถ

ผมเข้าไปลาโปรรัชนี บอกว่า ผมเรียนจบแล้ว ขอบคุณมาก ๆ  เธอยิ้มหน้าเบิกบาน บอกว่า มีอะไรก็โทรหรือแวะเข้ามาสอบถามได้เสมอเลย ยินดีให้คำตอบทุกเรื่อง

ส่วนคุณปุ้ยผู้จัดการก็บอกว่า พบกันอีกนะ มาซ้อมเรื่อยๆ นะ

ผมตอบครับ

คุณปุ้ยเธอเพิ่งบอกผมเมื่อวันก่อนว่า อายุสามสิบห้าแล้ว มีลูกสาวคนหนึ่งอายุ ๑๒ ขวบ ผมปากหวานชมว่า ยังดูสาวเหมือนยี่สิบแปด ไม่นึกว่าจะมีลูกโตแล้ว เธอก็ยิ้มตาหยี คงยิ้มเอาใจกับคำพูดผมมากกว่า สายตาเธอบอกชัด ๆ ว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด

ตอนขับรถออกไปรู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน เหมือนเราเรียนจบจากโรงเรียน ต่อไปนี้ถ้ามาที่นี่ ก็ไม่ได้มาในฐานะนักเรียนอีก แต่มาในฐานะอื่นที่แตกต่างกันออกไป สถานที่ฝึกซ้อมก็จะถูกร่นออกไปอยู่อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นสนามสำหรับบุคคลทั่วไป ไม่ใช่ตรงบริเวณที่ให้นักเรียนได้ใช้ ระยะห่างของผมกับโปรรัชนี กับคุณปุ้ยก็ถ่างออกไปกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ เหลียวมามองหาอย่างไรก็ไม่มีทางได้เห็นอีก

เพื่อจะไม่ให้รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว สงสัยต้องหาที่ฝึกซ้อมแห่งใหม่สักแห่งหนึ่งแล้ว

ผมคิดว่าตัวเองกำลังจิตตก สงสัยคงต้องหาเบียร์มาดื่มย้อมใจสักขวด ถือเป็นการฉลองการเรียนจบให้กับตัวเอง

ผมไม่ใช่คอเหล้า คอเบียร์ นาน ๆ จึงจะออกไปดื่มสักครั้ง คืนนี้ล่อไปสองขวด ขนาดฟังเพลงโบราณจากขี้เมาสูงอายุแล้วรู้สึกเพราะดี แสดงว่าความสุขนั้นเข้ามาสิงสู่อยู่ในหัวใจในอัตราที่ล้นปรี่ทีเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่