TUF ไทยยูเนี่ยนจ่อเทนเดอร์แพ็คฟู้ดคุมเบ็ดเสร็จ

กระทู้สนทนา
วันที่ 19 ธันวาคม 2555 08:35
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


ไกรสร จันสิริ กรรมการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)

ไทยยูเนี่ยนฯประกาศเพิ่มทุนสัดส่วนถือครองหุ้นแพ็คฟู้ดเกิน 50% เรียกประชุมผู้ถือหุ้นต้นปีหน้า หวังปรับโครงสร้างการบริหารและคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ


นายไกรสร จันสิริ กรรมการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TUF) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 6/2555 ของบริษัท เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท แพ็คฟู้ด (PPC) ซึ่งประกอบธุรกิจแปรรูปและส่งออกอาหารทะเลและอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง ภายใต้เงื่อนไขและกฏเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ บริษัทมีความประสงค์ที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน PPC มากขึ้น

"การซื้อหุ้นของ PPC จากผู้ถือหุ้นเดิมของ PPC และจากการเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามมติคณะกรรมการของ PPC ที่อนุมัติในวันที่ 7 ธันวาคม 2555 และในกรณีอื่นๆ เพื่อเพิ่มอำนาจควบคุมและส่วนได้เสียใน PPC ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจทางด้านอาหารทะเลและอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กุ้ง เนื่องจาก PPC มีความพร้อมด้านการผลิตและมีกำลังการผลิตคงเหลือพร้อมที่จะรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหารทะเลและอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งของบริษัท" กรรมการกล่าว

ทางด้าน นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง ของทียูเอฟ และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารบริษัทไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ จำกัด หรือทีเอฟเอ็มได้ทำสัญญาร่วมทุนกับบริษัทมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น หรือเอ็มซีเพื่อดำเนินธุรกิจฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งในประเทศไทย โดยทีเอฟเอ็มจะถือครองหุ้น 51% ในขณะที่มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นถือครองหุ้น 49% ซึ่งการร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการจัดหาวัตถุดิบกุ้งคุณภาพดีจากแหล่งวัตถุดิบที่ปลอดภัยเชื่อถือได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพดีและสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาได้ ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทซึ่งเน้นด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังจะเป็นการต่อยอดพัฒนาธุรกิจอาหารกุ้งและสายพันธุ์กุ้งของกลุ่มบริษัทในเครือทียูเอฟ

"การลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทมีการบูรณาการธุรกิจกุ้งอย่างครบวงจร จึงเชื่อมั่นว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ธุรกิจกุ้งระยะยาวของกลุ่มบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน"

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า การที่บริษัททียูเอฟ ต้องการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นนั้น เพราะต้องการที่ปรับโครงสร้างและอำนาจควบคุมการบริหารเพิ่มจากเดิมที่ถืออยู่แล้ว 40% แต่ต้องการถึง 50% เพราะต้องการคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ และคาดว่าภายหลังจากถือครองหุ้นในครั้งนี้จะทำให้บริษัทรับรู้ผลตอบแทนในอนาคตที่เพิ่มขึ้น และน่าจะได้เห็นประมาณปี 2556

"ราคาเป้าหมายหุ้นที่ 85 บาทนั้น ถือว่าเป็นราคาที่ได้ให้มูลค่าเพิ่มจากการร่วมทุนกับบริษัทแพ็คฟู้ดไปแล้ว และการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนยังไม่ชัดเจน จึงยังคงเป้าหมายราคาพื้นฐานไว้ที่เดิม อย่างไรก็ตามการลงทุนน่าจะเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องรอพิจารณาผลประโยชน์ในอนาคต" นายสิทธิเดชกล่าว

นางสาวนารี อภิเศวตกานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่าภาพการลงทุนในบริษัทแพ็คฟู้ดของบริษัทไทยยูเนี่ยนฯ ยังไม่ชัดเจน เพราะต้องรอพิจารณาว่าการถือครองหุ้นในสัดส่วนเกิน 50% ต้องใช้เงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน เพราะบริษัทจะต้องทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ ขณะที่ทางด้านผู้บริหารบริษัทแพ็คฟู้ดจะยินยอมหรือไม่ ดังนั้น ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าที่ชัดเจนได้

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นไทยยูเนี่ยน (TUF) ล่าสุดปิดตลาดที่ราคา 73 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท คิดเป็น 1.74 % มูลค่าการซื้อขายรวม 433.56 ล้านบาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่