บทที่ 1 แหวนศักดิ์สิทธิ์กับภูตวิหค
http://ppantip.com/topic/30132632
บทที่ 2 ลักพาตัว
http://ppantip.com/topic/30134184
บทที่ 3 ถ้ำหินขาว
http://ppantip.com/topic/30140347
บทที่ 4 หมู่บ้านมนต์ขาว
http://ppantip.com/topic/30158845
บทที่ 5 วิหารมนต์ขาว
http://ppantip.com/topic/30180375
บทที่ 6 ความทรงจำของหญิงชรา
http://ppantip.com/topic/30194878
บทที่ 7 บ่อน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์
“เป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยมากเลย” ฟาลเนียเอ่ยชมสถานที่อันเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวเบ่งบานอยู่ทั่วทั้งหุบเขา ต้นไม้เปลือกเข้มประดับด้วยดอกไม้ช่อเล็กราวกับเกล็ดหิมะพร่างพราวอยู่เต็มต้น ยืนต้นตระหง่านอยู่รอบบริเวณท้องทุ่ง อันคลับคล้ายคลับคราเหมือนภาพนิมิตที่เห็น เด็กหญิงโดโรธีอาพาออซวีนมาวิ่งเล่น หยอกล้อกันตามประสา อย่างเริงร่าสนุกสนาน ด้วยความบริสุทธิ์ของวัยเยาว์
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เอดิออทต้องการจะอวดหญิงสาว เขาพาหล่อนเดินตัดทุ่งดอกไม้ไป ฝั่งตรงข้ามไม่ไกลจากเนินเขาลูกนี้ มีธารน้ำที่มีน้ำแร่ธรรมชาติผุดขึ้นมาจากแอ่งผา ไหลไปรวมกันจนกลายเป็นสระน้ำแร่โบราณหลายขนาดเรียงกันหลายชั้น เป็นความมหัศจรรย์พันลึกของธรรมชาติ
“น้ำแร่ร้อนผุดจากตาน้ำธรรมชาติ ประกอบด้วยก๊าซธรรมชาติและหินปูนชนิดหนึ่ง เมื่อน้ำแร่เย็นตัวลง จะตกผลึกกลาย สีขาวโพลนปกคลุมเขาทั้งลูก น้ำแร่ร้อนสายนี้ยังคงผุดขึ้นมาจากใต้ดินอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นปฏิมากรรมภูเขาหินปูนธรรมชาติอันงดงามแปลกตาอย่างเช่นที่เห็น โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด”
ชายหนุ่มอธิบายอย่างละเอียดขณะที่เจ้าหญิงฟาลเนีย ชื่นชมผลึกแร่หินที่ปกคลุมทั่วบริเวณนั้นราวกับเป็นภูเขาหิมะ เป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นไปตามภูมิประเทศ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“น้ำแร่ที่นี่ไม่ใช่น้ำแร่ธรรมดาๆ แต่เป็นน้ำแร่ที่มีสรรพคุณสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ กระทั่งบาดแผลฉกรรจ์ เช่นแขนถูกฟันขาดเป็นสองท่อน ถ้ารวบรวมประกอบต่อกันทัน แล้วแช่แขนข้างนั้นในน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ก่อนเลือดในกายจะหมดตัว ก็จะสามารถใช้การได้เหมือนเดิม” เขาบรรยายต่ออย่างลื่นไหลราวกับมัคคุเทศก์ส่วนพระองค์ รู้สึกชอบใจที่เห็นเจ้าหญิงตะลึงงัน ราวกับเห็นทางช้างเผือกมาปรากฏอยู่ตรงหน้า
ทันใดนั้นเลือดขัตติยะก็รีบเบือนหน้าหันไปทางอื่นทันที เมื่อชายหนุ่มข้างกายค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ เหลือแต่เชือกรัดเอวที่มีผ้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งสีขาว ยาวลงมาปิดสิ่งที่ควรปิดด้านหน้า ส่วนด้านหลังโล่งโจ้ง โดยที่เขามีสีหน้าเรียบเฉยเป็นปรกติ ไม่รู้สึกแปลกประหลาดน่าอาย ราวกับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่นี่ ที่จะสวมชุดตัวในประจำเผ่า ลงแช่น้ำแร่ด้วยสภาพแทบจะเรียกว่าเปล่าเปลือย
เจ้าตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ผู้ที่ยืนอยู่รู้สึกเต็มประดา แม้ว่าจะอายจนหน้าแดงไปถึงใบหู แต่ก็ไม่วายแอบชำเลืองดู เขาไม่ใช่ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เมื่อเทียบกับธีโอดอร์ฟ แต่มีกล้ามมัดสมสัดส่วน นับว่าเป็นชายหนุ่มรูปร่างดีคนหนึ่งเหมือนกัน แต่สิ่งที่สายตาช่างสังเกตของเธอ เพ่งจับเป็นพิเศษด้วยความสนใจนอกจากรูปร่างของเขาก็คือ แขนซ้ายแข็งแรงข้างนั้น ปรากฏรอยดำรูปเปลวไฟ เลื้อยขึ้นไปขมวดม้วนเป็นรูปคล้ายกงจักรตรงกลางอกฝั่งเดียวกับหัวใจ
“อ้าว มัวยืนมองอะไรอยู่ ลงมาแช่น้ำแร่ด้วยกันสิ”
ตนเองแช่น้ำแร่ร้อนใสแจ๋วดุจแก้วกระจกเห็นทะลุถึงก้นสระในอ่างธรรมชาติอย่างสบายอารมณ์ ร้องบอกมาพร้อมกวักมือเรียกยิกๆ
อุณหภูมิความร้อนของน้ำไม่ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้ระคายผิวกายแม้แต่น้อย ในร่างของเขามีเลือดร้อนระอุของมังกรสูบฉีด ผิดจากมนุษย์ธรรมาดาทั่วไป ข้อเท็จจริงอันนี้ตัวเขาก็มิได้ล่วงรู้
“ลงไปทั้งชุดมีหวังเปียกหมด กว่าจะเดินกลับถึงหมู่บ้านก็ไม่สบายกันพอดี”
“ก็ถอดออกสิ จะมัวอายทำไม ตัวเปล่าๆไม่สวมอะไรก็เคยเห็นมาแล้ว”
“ไร้มารยาทที่สุด!” เธอร้องเสียงแหลมปรี๊ด แก้มใสของสาวเจ้ากลายเป็นสีแดงเหมือนลูกมะเดื่อสุก แทบอยากจะตรงเข้าไปบีบคอคนพูดในทันทีให้ตายคามือเดี๋ยวนั้น
เจ้าหญิงขยับเท้าแต่ก้าวพลาด ลื่นตกลงไปในน้ำแร่บ่อที่เอดิออทแช่อยู่นั้น น้ำแตกกระเซ็นแผ่ระรอกคลื่นเป็นวงกว้างกระเพื่อมพลิ้ว ตนเองเปียกปอนไปทั้งชุด ตะเกียดตะกายร้องโวยวายว่า “ร้อน ร้อน ช่วยด้วย!”
ร่างกำยำสมส่วนเดินลุยน้ำเข้ามาใกล้เพื่อที่จะช่วยเหลือเธอ แต่เจ้าหญิงทำหน้าปะหลับปะเหลือก วางมือไขว้เป็นไม้กางเขนห้ามไม่ให้เขาเข้ามาใกล้เกินกว่านี้ในสภาพเยี่ยงนั้น พร่ำบอกเสียงระรัว “ไม่ต้อง ไม่ต้องเข้ามา ไม่ต้อง”
เธอพยายามตะกายร่างขึ้นจากสระน้ำแร่ร้อนด้วยตนเอง พลันข้อมือบอบบางก็ถูกรั้งไว้ด้วยแขนที่มีพละกำลัง “อย่างเพิ่งขึ้นจากน้ำทันที เจออากาศเย็นปุบปับ ร่างกายปรับตัวไม่ทันจะป่วยเอาได้”
หญิงสาวไม่ยอมฟัง มืออ่อนสะบัดหลุด ฝ่ามือเจ้ากรรมก็ดันปัดไปโดนเชือกขาด สิ่งปกปิดชิ้นสุดท้าย หลุดลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ราวกับแมงกระพรุนกระเพื่อมแผ่ บัดนี้ร่างกายของเอดิออทอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างแท้จริง
“กรี๊ดดดดดดด”
เอดิออทสะดุ้งจนน้ำไหวกระเพื่อม เสียงกรีดร้องชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เขาต้องวิ่งขึ้นมาบนห้อง เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหล่อนจนเจอดีเข้าให้ ‘กลับกลายเป็นว่าโดนดีเข้าเสียเองแล้วไหมล่ะคราวนี้’ เขานึกแต่พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ จะคายก็ไม่ได้จะกลืนก็ไม่ลง
เรี่ยวแรงมากมายมาจากไหนไม่ทราบ เจ้าหญิงกระโจนพรวดขึ้นจากน้ำ ราวกับเท้าติดสปริงโดยไม่ต้องรอให้ใครมาช่วย
“เฮ้ จะไปไหนนั่น” เขาตะโกนถามหญิงสาวร่างประเปรียว ที่เดินตุปัดตุป่องไปจากบริเวณเกิดเหตุ เสียงตะโกนร้องบอกตามหลังผู้ที่ทำเป็นหูทวนลมด้วยเจตนาดีว่า “อย่าไปไกลนักนะ เดี๋ยวหลงกลับหมู่บ้านเองไม่ถูกล่ะทีนี้”
“เอดิออท น่าเกลียดที่สุด” ฟาลเนียสบถพร่ำอย่างหัวเสีย ขณะเดินเรียบไปตามขอบหินปูนสีขาวที่ทอดตัวเป็นแอ่ง เหมือนหอยแครงหงายหลายอันเรียงกัน ลดหลั่นหลายระดับชั้น กระจายอยู่ทั่วบริเวณเนินผา
สายลมฉ่ำเย็นโชยพัดดอกหิมะขาวเอนลู่ มาสัมผัสเสื้อผ้าเปียกชุ่ม ทำให้เจ้าของสะท้านสั่นจนต้องโอบกอดตนเองเอาไว้แน่น เมื่อมองกลับไปยังแนวหินปูนสีขาว ราวกับน้ำตกแช่แข็งของแอ่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติทอดยาวไกลลิบก็คิดว่า
‘นี่ก็เดินมาไกลจนมองไม่เห็นเอดิออทแล้ว เขาคงจะหาเราไปเจอหรอก’
เหลียวมองไปรอบๆบริเวณนั้นก็ไม่มีใครสักคน จึงตัดสินใจถอดชุดเปียกๆอย่างรวดเร็ว บิดเป็นเกลียวไล่น้ำทิ้ง แล้วนำไปวางผึ่งลมไว้บนโขดหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ก่อนจะถูกความหนาวเหน็บกัดกินมากไปกว่านี้ เธอจึงรีบหย่อนกายลงแช่ในน้ำแร่ร้อนทันที รู้สึกร้อนระอุเพราะอุณหภูมิน้ำสูงกว่าร่างกายหลายองศา แต่แร่ธาตุธรรมชาติอันเปี่ยมสรรพคุณในการบำบัดรักษานั้นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายราวกับขึ้นสวรรค์
ผมของเจ้าหญิงสยายลอยฟ่องอยู่ในน้ำราวกับสาหร่ายสีน้ำตาลอมแดง ท่อนขาเรียวงามยกขึ้นโผล่พ้นจากน้ำต้องกับแสงแดดระยับ มือที่สวมแหวนลูบสัมผัสผิวกายเนียนลื่นของตนเองด้วยความพิศวง ความงามด้วยธรรมชาติบำบัดเห็นผลรวดเร็วทันตา ผิวขาวซีดของเธอดูมีเลือดฝาด เนียนสวย เปล่งปลั่ง ชีวิตชีวาขึ้นมา
หญิงสาวรู้สึกว่าต้นขาและรอบเอวของตนคอดกิ่วลงกว่าเดิม อาจเป็นเพราะรอนแรมมาไกล ทั้งเดินทั้งวิ่ง ล้มลุกคลุกคลาน เหน็ดเหนื่อยตรากตร่ำ ระหกระเหินมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสองวันแต่ก็สูญเสียพลังงานไปมาก
ขณะที่กำลังหลับตาพริ้มแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์อยู่นั่นเอง ก็รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมของน้ำโดยที่ตัวเธอไม่ได้ขยับ สะดุ้งลืมตาขึ้นมาจึงเห็นภาพที่ทำให้เธอเกือบตัดสินใจกัดลิ้นฆ่าตัวตาย เอดิออทหอบเสื้อผ้ามาวางกองใกล้ๆโขดหินที่ตากผ้าจำเป็น หย่อนตัวเปล่าเปลือยลงแช่ในอ่างเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติไม่ขวยเขิน
“มาแช่บ่อเดียวกับเรา แล้วไม่ใส่อะไรเลยแบบนั้น นายบ้าไปแล้วหรือไง” องค์หญิงถามละล่ำละลัก
“อ้าว ไม่รู้หรอว่าที่หมู่บ้านนี้ ผู้หญิงผู้ชายแช่น้ำแร่รวมกันโดยไม่สวมอะไร เป็นเรื่องปรกติไม่ใช่เรื่องแปลก” เอดิออทกล่าวหน้านิ่ง
“โกหกหน้าด้าน นายมันวิตถารลามก อย่าเข้ามาใกล้นะ” เจ้าหญิงร้องห้ามเสียงระรัวสั่น
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ชายหนุ่มนึกสนุกขึ้นมาเสียแล้ว พรวดเข้ามาประชิดตัว หญิงสาวถอยกรูดจนแผ่นหลังชิดขอบอ่างหินปูน มือของเขายันขอบสระเอาไว้ ร่างหญิงสาวถูกล็อคอยู่ตรงกลาง น้ำตาคลอเป้า ปากพะงาบๆ สั่นเป็นลูกนกหมดทางหนี ฟาลเนียกลัวจนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยปล่อยโฮออกมาดังๆ
“แล้วกัน” ชายหนุ่มผู้มีวิชามนต์ดำผละร่างออก “ข้าแค่หยอกเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลยจริงๆ” ชูมือทำท่ายอมแพ้ถอยห่างออกมา แล้วรีบขึ้นจากน้ำไปเปลี่ยนชุด บอกเร็วปรื๋อมาว่า “จะไปรอที่ทุ่งดอกไม้ทางไปหมู่บ้านนะ ไปล่ะ”
แล้วเขาก็หายไปรวดเร็วราวกับเงา ปล่อยหญิงสาวอยู่ตามลำพัง เธอสูดลมหายใจลึกเรียก สติสัมปชัญญะที่เกือบจะทิ้งเธอไปคืนกลับมา ค่อยๆขึ้นจากน้ำ ไปหยิบชุดชุดคลุมที่ยังชื้นอยู่มาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินลัดเลาะกลับมายังทุ่งดอกไม้สีขาว
เอดิออทยืนรออยู่แล้ว หญิงสาวทำหน้านิ่งเชิดใส่เดินนำหน้าไป เขาวิ่งเหยาะๆตามมาเขามองดูเธอด้วยท่าทางไม่สบายใจ “เย็นนี้อยากทานอะไร จะทำให้ทาน” เขาพยายามง้อเธอ
(มีต่อ)
The Light of Darkness บทที่ 7
บทที่ 2 ลักพาตัว http://ppantip.com/topic/30134184
บทที่ 3 ถ้ำหินขาว http://ppantip.com/topic/30140347
บทที่ 4 หมู่บ้านมนต์ขาว http://ppantip.com/topic/30158845
บทที่ 5 วิหารมนต์ขาว http://ppantip.com/topic/30180375
บทที่ 6 ความทรงจำของหญิงชรา http://ppantip.com/topic/30194878
บทที่ 7 บ่อน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์
“เป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยมากเลย” ฟาลเนียเอ่ยชมสถานที่อันเต็มไปด้วยดอกไม้สีขาวเบ่งบานอยู่ทั่วทั้งหุบเขา ต้นไม้เปลือกเข้มประดับด้วยดอกไม้ช่อเล็กราวกับเกล็ดหิมะพร่างพราวอยู่เต็มต้น ยืนต้นตระหง่านอยู่รอบบริเวณท้องทุ่ง อันคลับคล้ายคลับคราเหมือนภาพนิมิตที่เห็น เด็กหญิงโดโรธีอาพาออซวีนมาวิ่งเล่น หยอกล้อกันตามประสา อย่างเริงร่าสนุกสนาน ด้วยความบริสุทธิ์ของวัยเยาว์
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เอดิออทต้องการจะอวดหญิงสาว เขาพาหล่อนเดินตัดทุ่งดอกไม้ไป ฝั่งตรงข้ามไม่ไกลจากเนินเขาลูกนี้ มีธารน้ำที่มีน้ำแร่ธรรมชาติผุดขึ้นมาจากแอ่งผา ไหลไปรวมกันจนกลายเป็นสระน้ำแร่โบราณหลายขนาดเรียงกันหลายชั้น เป็นความมหัศจรรย์พันลึกของธรรมชาติ
“น้ำแร่ร้อนผุดจากตาน้ำธรรมชาติ ประกอบด้วยก๊าซธรรมชาติและหินปูนชนิดหนึ่ง เมื่อน้ำแร่เย็นตัวลง จะตกผลึกกลาย สีขาวโพลนปกคลุมเขาทั้งลูก น้ำแร่ร้อนสายนี้ยังคงผุดขึ้นมาจากใต้ดินอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นปฏิมากรรมภูเขาหินปูนธรรมชาติอันงดงามแปลกตาอย่างเช่นที่เห็น โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด”
ชายหนุ่มอธิบายอย่างละเอียดขณะที่เจ้าหญิงฟาลเนีย ชื่นชมผลึกแร่หินที่ปกคลุมทั่วบริเวณนั้นราวกับเป็นภูเขาหิมะ เป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นไปตามภูมิประเทศ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“น้ำแร่ที่นี่ไม่ใช่น้ำแร่ธรรมดาๆ แต่เป็นน้ำแร่ที่มีสรรพคุณสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ กระทั่งบาดแผลฉกรรจ์ เช่นแขนถูกฟันขาดเป็นสองท่อน ถ้ารวบรวมประกอบต่อกันทัน แล้วแช่แขนข้างนั้นในน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ก่อนเลือดในกายจะหมดตัว ก็จะสามารถใช้การได้เหมือนเดิม” เขาบรรยายต่ออย่างลื่นไหลราวกับมัคคุเทศก์ส่วนพระองค์ รู้สึกชอบใจที่เห็นเจ้าหญิงตะลึงงัน ราวกับเห็นทางช้างเผือกมาปรากฏอยู่ตรงหน้า
ทันใดนั้นเลือดขัตติยะก็รีบเบือนหน้าหันไปทางอื่นทันที เมื่อชายหนุ่มข้างกายค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ เหลือแต่เชือกรัดเอวที่มีผ้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งสีขาว ยาวลงมาปิดสิ่งที่ควรปิดด้านหน้า ส่วนด้านหลังโล่งโจ้ง โดยที่เขามีสีหน้าเรียบเฉยเป็นปรกติ ไม่รู้สึกแปลกประหลาดน่าอาย ราวกับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่นี่ ที่จะสวมชุดตัวในประจำเผ่า ลงแช่น้ำแร่ด้วยสภาพแทบจะเรียกว่าเปล่าเปลือย
เจ้าตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ผู้ที่ยืนอยู่รู้สึกเต็มประดา แม้ว่าจะอายจนหน้าแดงไปถึงใบหู แต่ก็ไม่วายแอบชำเลืองดู เขาไม่ใช่ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่เมื่อเทียบกับธีโอดอร์ฟ แต่มีกล้ามมัดสมสัดส่วน นับว่าเป็นชายหนุ่มรูปร่างดีคนหนึ่งเหมือนกัน แต่สิ่งที่สายตาช่างสังเกตของเธอ เพ่งจับเป็นพิเศษด้วยความสนใจนอกจากรูปร่างของเขาก็คือ แขนซ้ายแข็งแรงข้างนั้น ปรากฏรอยดำรูปเปลวไฟ เลื้อยขึ้นไปขมวดม้วนเป็นรูปคล้ายกงจักรตรงกลางอกฝั่งเดียวกับหัวใจ
“อ้าว มัวยืนมองอะไรอยู่ ลงมาแช่น้ำแร่ด้วยกันสิ”
ตนเองแช่น้ำแร่ร้อนใสแจ๋วดุจแก้วกระจกเห็นทะลุถึงก้นสระในอ่างธรรมชาติอย่างสบายอารมณ์ ร้องบอกมาพร้อมกวักมือเรียกยิกๆ
อุณหภูมิความร้อนของน้ำไม่ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้ระคายผิวกายแม้แต่น้อย ในร่างของเขามีเลือดร้อนระอุของมังกรสูบฉีด ผิดจากมนุษย์ธรรมาดาทั่วไป ข้อเท็จจริงอันนี้ตัวเขาก็มิได้ล่วงรู้
“ลงไปทั้งชุดมีหวังเปียกหมด กว่าจะเดินกลับถึงหมู่บ้านก็ไม่สบายกันพอดี”
“ก็ถอดออกสิ จะมัวอายทำไม ตัวเปล่าๆไม่สวมอะไรก็เคยเห็นมาแล้ว”
“ไร้มารยาทที่สุด!” เธอร้องเสียงแหลมปรี๊ด แก้มใสของสาวเจ้ากลายเป็นสีแดงเหมือนลูกมะเดื่อสุก แทบอยากจะตรงเข้าไปบีบคอคนพูดในทันทีให้ตายคามือเดี๋ยวนั้น
เจ้าหญิงขยับเท้าแต่ก้าวพลาด ลื่นตกลงไปในน้ำแร่บ่อที่เอดิออทแช่อยู่นั้น น้ำแตกกระเซ็นแผ่ระรอกคลื่นเป็นวงกว้างกระเพื่อมพลิ้ว ตนเองเปียกปอนไปทั้งชุด ตะเกียดตะกายร้องโวยวายว่า “ร้อน ร้อน ช่วยด้วย!”
ร่างกำยำสมส่วนเดินลุยน้ำเข้ามาใกล้เพื่อที่จะช่วยเหลือเธอ แต่เจ้าหญิงทำหน้าปะหลับปะเหลือก วางมือไขว้เป็นไม้กางเขนห้ามไม่ให้เขาเข้ามาใกล้เกินกว่านี้ในสภาพเยี่ยงนั้น พร่ำบอกเสียงระรัว “ไม่ต้อง ไม่ต้องเข้ามา ไม่ต้อง”
เธอพยายามตะกายร่างขึ้นจากสระน้ำแร่ร้อนด้วยตนเอง พลันข้อมือบอบบางก็ถูกรั้งไว้ด้วยแขนที่มีพละกำลัง “อย่างเพิ่งขึ้นจากน้ำทันที เจออากาศเย็นปุบปับ ร่างกายปรับตัวไม่ทันจะป่วยเอาได้”
หญิงสาวไม่ยอมฟัง มืออ่อนสะบัดหลุด ฝ่ามือเจ้ากรรมก็ดันปัดไปโดนเชือกขาด สิ่งปกปิดชิ้นสุดท้าย หลุดลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ราวกับแมงกระพรุนกระเพื่อมแผ่ บัดนี้ร่างกายของเอดิออทอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างแท้จริง
“กรี๊ดดดดดดด”
เอดิออทสะดุ้งจนน้ำไหวกระเพื่อม เสียงกรีดร้องชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เขาต้องวิ่งขึ้นมาบนห้อง เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหล่อนจนเจอดีเข้าให้ ‘กลับกลายเป็นว่าโดนดีเข้าเสียเองแล้วไหมล่ะคราวนี้’ เขานึกแต่พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ จะคายก็ไม่ได้จะกลืนก็ไม่ลง
เรี่ยวแรงมากมายมาจากไหนไม่ทราบ เจ้าหญิงกระโจนพรวดขึ้นจากน้ำ ราวกับเท้าติดสปริงโดยไม่ต้องรอให้ใครมาช่วย
“เฮ้ จะไปไหนนั่น” เขาตะโกนถามหญิงสาวร่างประเปรียว ที่เดินตุปัดตุป่องไปจากบริเวณเกิดเหตุ เสียงตะโกนร้องบอกตามหลังผู้ที่ทำเป็นหูทวนลมด้วยเจตนาดีว่า “อย่าไปไกลนักนะ เดี๋ยวหลงกลับหมู่บ้านเองไม่ถูกล่ะทีนี้”
“เอดิออท น่าเกลียดที่สุด” ฟาลเนียสบถพร่ำอย่างหัวเสีย ขณะเดินเรียบไปตามขอบหินปูนสีขาวที่ทอดตัวเป็นแอ่ง เหมือนหอยแครงหงายหลายอันเรียงกัน ลดหลั่นหลายระดับชั้น กระจายอยู่ทั่วบริเวณเนินผา
สายลมฉ่ำเย็นโชยพัดดอกหิมะขาวเอนลู่ มาสัมผัสเสื้อผ้าเปียกชุ่ม ทำให้เจ้าของสะท้านสั่นจนต้องโอบกอดตนเองเอาไว้แน่น เมื่อมองกลับไปยังแนวหินปูนสีขาว ราวกับน้ำตกแช่แข็งของแอ่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติทอดยาวไกลลิบก็คิดว่า
‘นี่ก็เดินมาไกลจนมองไม่เห็นเอดิออทแล้ว เขาคงจะหาเราไปเจอหรอก’
เหลียวมองไปรอบๆบริเวณนั้นก็ไม่มีใครสักคน จึงตัดสินใจถอดชุดเปียกๆอย่างรวดเร็ว บิดเป็นเกลียวไล่น้ำทิ้ง แล้วนำไปวางผึ่งลมไว้บนโขดหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ก่อนจะถูกความหนาวเหน็บกัดกินมากไปกว่านี้ เธอจึงรีบหย่อนกายลงแช่ในน้ำแร่ร้อนทันที รู้สึกร้อนระอุเพราะอุณหภูมิน้ำสูงกว่าร่างกายหลายองศา แต่แร่ธาตุธรรมชาติอันเปี่ยมสรรพคุณในการบำบัดรักษานั้นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายราวกับขึ้นสวรรค์
ผมของเจ้าหญิงสยายลอยฟ่องอยู่ในน้ำราวกับสาหร่ายสีน้ำตาลอมแดง ท่อนขาเรียวงามยกขึ้นโผล่พ้นจากน้ำต้องกับแสงแดดระยับ มือที่สวมแหวนลูบสัมผัสผิวกายเนียนลื่นของตนเองด้วยความพิศวง ความงามด้วยธรรมชาติบำบัดเห็นผลรวดเร็วทันตา ผิวขาวซีดของเธอดูมีเลือดฝาด เนียนสวย เปล่งปลั่ง ชีวิตชีวาขึ้นมา
หญิงสาวรู้สึกว่าต้นขาและรอบเอวของตนคอดกิ่วลงกว่าเดิม อาจเป็นเพราะรอนแรมมาไกล ทั้งเดินทั้งวิ่ง ล้มลุกคลุกคลาน เหน็ดเหนื่อยตรากตร่ำ ระหกระเหินมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสองวันแต่ก็สูญเสียพลังงานไปมาก
ขณะที่กำลังหลับตาพริ้มแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์อยู่นั่นเอง ก็รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมของน้ำโดยที่ตัวเธอไม่ได้ขยับ สะดุ้งลืมตาขึ้นมาจึงเห็นภาพที่ทำให้เธอเกือบตัดสินใจกัดลิ้นฆ่าตัวตาย เอดิออทหอบเสื้อผ้ามาวางกองใกล้ๆโขดหินที่ตากผ้าจำเป็น หย่อนตัวเปล่าเปลือยลงแช่ในอ่างเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติไม่ขวยเขิน
“มาแช่บ่อเดียวกับเรา แล้วไม่ใส่อะไรเลยแบบนั้น นายบ้าไปแล้วหรือไง” องค์หญิงถามละล่ำละลัก
“อ้าว ไม่รู้หรอว่าที่หมู่บ้านนี้ ผู้หญิงผู้ชายแช่น้ำแร่รวมกันโดยไม่สวมอะไร เป็นเรื่องปรกติไม่ใช่เรื่องแปลก” เอดิออทกล่าวหน้านิ่ง
“โกหกหน้าด้าน นายมันวิตถารลามก อย่าเข้ามาใกล้นะ” เจ้าหญิงร้องห้ามเสียงระรัวสั่น
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ชายหนุ่มนึกสนุกขึ้นมาเสียแล้ว พรวดเข้ามาประชิดตัว หญิงสาวถอยกรูดจนแผ่นหลังชิดขอบอ่างหินปูน มือของเขายันขอบสระเอาไว้ ร่างหญิงสาวถูกล็อคอยู่ตรงกลาง น้ำตาคลอเป้า ปากพะงาบๆ สั่นเป็นลูกนกหมดทางหนี ฟาลเนียกลัวจนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยปล่อยโฮออกมาดังๆ
“แล้วกัน” ชายหนุ่มผู้มีวิชามนต์ดำผละร่างออก “ข้าแค่หยอกเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลยจริงๆ” ชูมือทำท่ายอมแพ้ถอยห่างออกมา แล้วรีบขึ้นจากน้ำไปเปลี่ยนชุด บอกเร็วปรื๋อมาว่า “จะไปรอที่ทุ่งดอกไม้ทางไปหมู่บ้านนะ ไปล่ะ”
แล้วเขาก็หายไปรวดเร็วราวกับเงา ปล่อยหญิงสาวอยู่ตามลำพัง เธอสูดลมหายใจลึกเรียก สติสัมปชัญญะที่เกือบจะทิ้งเธอไปคืนกลับมา ค่อยๆขึ้นจากน้ำ ไปหยิบชุดชุดคลุมที่ยังชื้นอยู่มาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินลัดเลาะกลับมายังทุ่งดอกไม้สีขาว
เอดิออทยืนรออยู่แล้ว หญิงสาวทำหน้านิ่งเชิดใส่เดินนำหน้าไป เขาวิ่งเหยาะๆตามมาเขามองดูเธอด้วยท่าทางไม่สบายใจ “เย็นนี้อยากทานอะไร จะทำให้ทาน” เขาพยายามง้อเธอ
(มีต่อ)